Products Update - HubSpot CRM LINE CRM Loyalty Hub

ถ้าอยาก เก่งงาน ต้องเปลี่ยนบริษัทให้เป็นโรงเรียน

เขียนโดย เจษฎา ตะต้องใจ - Aug 1, 2020 2:00:00 AM

ถ้าอยากเป็นคนที่ เก่งงาน เราต้องเปลี่ยนมุมมองการทำงาน โดยมีทัศนคติ หรือ Mindset แบบคนที่ชอบการเรียนรู้และรักการพัฒนาตนเอง และต้องเปลี่ยนมุมมองการทำงานโดยให้บริษัทเป็นเหมือนโรงเรียนของเรา การทำงานหรือการประกอบอาชีพไม่ใช่แค่การตื่นมาทำงานตามหน้าที่ให้เสร็จไปในแต่ละวัน แต่เราต้องทำให้การทำงานเป็นเหมือนการเดินทางของชีวิต ถ้าอยากมีชีวิตที่ดีเราต้องรู้จักพัฒนาทักษะและความสามารถของตัวเองอยู่เสมอเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ เรามาดู 4 มุมมองที่จะเปลี่ยนคุณให้ทำงานเก่งขึ้นในทุก ๆ วัน

 

เจ้านายจ้างเรามาให้เก่งขึ้น

มนุษย์ต้องทำงานเพื่อแลกกับรายได้ที่ต้องนำมาประทังชีวิต ถ้าเป้าหมายของเราคือการทำงานเพื่อมีรายได้ที่มากขึ้น ก่อนอื่นเราต้อง รู้จักการประเมินทักษะของตัวเอง ก่อน และคิดทบทวนว่าความสามารถของเรานั้นสามารถสร้างรายได้ให้กับองค์กรได้อย่างไร ในช่วงอายุประมาณ 23 - 30 ปี เป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ การมุ่งทำงานเพื่อเงินอาจทำให้เราเป็นทุกข์เพราะคาดหวังกับรายได้มากเกินไป แนะนำให้เปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ให้คิดว่าเราถูกเจ้านายจ้างมาให้เรียนรู้และเก่งขึ้นในทุก ๆ วัน และให้คิดว่าเหมือนเราถูกจ้างมาให้พัฒนาตนเอง ถ้าเราทำงานด้วยวิธีคิดที่เป็นบวกโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงานก็มีสูงเช่นกัน

 

จงดีใจเมื่อมีงานมาให้ทำ

อย่าบ่นกับตัวเองว่างานเยอะ และเมื่อเจ้านายเพิ่มงานให้กับเราจงดีใจที่เขาเห็นว่าเรามีความสามารถที่จะทำงานนั้นได้ เมื่อมีคนมาขอให้เราช่วยทำงานจงขอบคุณที่มีงานมาให้เราได้เรียนรู้อีกแล้ว และเป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้งานใหม่ ๆ แทนที่จะคิดว่างานเยอะ งานล้น ให้เปลี่ยนมุมมองว่ายิ่งทำมากยิ่งเรียนรู้ได้มาก

 

รับฟังทุกคำติชม

การรับฟังคำติชมจากเพื่อนร่วมงานคือเคล็ดลับการพัฒนาตนเองอีกวิธีหนึ่งที่สามารถแก้ไขข้อบกพร่องของเราได้ ถ้าเราอยากรู้ว่าตนเองต้องปรับปรุงแก้ไขการทำงานอย่างไรบ้าง ให้ถามเพื่อนร่วมงานหรือคนรอบข้าง เพราะพวกเขาจะสังเกตเห็นตัวตนของเราได้ดี ไม่ว่าจะเป็นทักษะการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน หรือวิธีคิดต่าง ๆ ในทางตรงกันข้ามถ้าเราเป็นคนที่ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นก็เท่ากับว่าเราปิดกั้นที่จะเรียนรู้และแก้ไขข้อบกพร่องของตนเอง

พิจารณาตัวเองทุกครั้งก่อนคิดจะลาออก

“เขาจ้างเรามาให้เก่งขึ้น” เป็นประโยคหนึ่งจากงาน Creative Talk Conference 2020 ที่ได้ยินแล้วชอบมาก ๆ เพราะสามารถเปลี่ยนมุมมองการทำงานของเราไปได้เลย และต้องยอมรับว่าในองค์กรโดยเฉพาะองค์กรใหญ่มีการแข่งขันกันสูงเหมือนกัน ดังนั้น เราอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับฐานเงินเดือนของคนอื่น ว่าใครได้เงินเดือนมากกว่าใคร แต่จงทำงานให้มากกว่าเงินเดือนที่ได้รับ

ก่อนที่จะตัดสินใจลาออกจากงาน มี 3 แนวคิดให้เพื่อน ๆ นำไปพิจารณาตัวเอง ดังนี้

เราเก่งพอที่จะเลือกงานได้หรือไม่ ประสบการณ์ ทักษะ และความสามารถของเราแกร่งกล้าพอที่จะเดินเข้าไปเลือกงานกับบริษัทที่จ่ายค่าตอบแทนสูง ๆ ได้หรือไม่ ถ้าเรายังไม่มั่นใจกับทักษะและความสามารถของตัวเอง เราแนะนำให้คุณอยู่ฝึกฝนพัฒนาตนเองกับบริษัทเดิมไปก่อน พอเราเก่งขึ้นและมั่นใจกับความสามารถของตัวเอง ค่อยตัดสินใจโยกย้ายงานตามเส้นทางของชีวิต

ถ้าลาออกแล้วชีวิตจะดีขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ ก่อนที่จะเปลี่ยนงาน ต้องคิดทบทวนกับตัวเองให้ดีก่อนว่าถ้าลาออกไปแล้วเราจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นหรือไม่ ถ้าอยากย้ายที่ทำงานด้วยเหตุผลเพราะได้รับค่าจ้างที่สูงกว่า ขอให้หยุดคิดทบทวนกับตัวเองสักนิดนึงก่อนตัดสินใจไปเซ็นใบลาออก แล้วให้คิดถึงเรื่องโอกาสในการพัฒนาทักษะและความสามารถเป็นอันดับแรก บางครั้งเมื่อเราได้ย้ายงานไปที่บริษัทแห่งใหม่อิสระในการโชว์ความสามารถอาจจะน้อยลงไปกว่าเดิมก็เป็นได้ แม้จะได้ค่าตอบแทนที่มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายในการทำงานของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน บางคนทำงานเพื่อผลลตอบแทน บางคนทำงานเพื่อต้องการพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้น เส้นทางของคุณเป็นแบบไหนคุณเลือกเองได้

เราได้เรียนรู้และเข้าใจงานอย่างลึกซึ้งแล้วหรือยัง มีหลายคนที่ลาออกจากงานเพราะคิดว่างานนั้นไม่เหมาะกับตัวเอง ซึ่งการตัดสินใจลาออกของแต่ละคนย่อมมีเหตุผลที่แตกต่างกันไป แต่ก่อนที่จะลาออกให้ถามตังเองก่อนว่าเราได้เข้าใจงานที่ทำอย่างลึกซึ้ง 100% แล้วหรือยัง การได้ทำงานอย่างเต็มที่คือสิ่งเดียวที่จะทำให้รู้ว่าศักยภาพของเราเหมาะกับงานนั้นหรือไม่ ขาดทักษะทางด้านไหน และต้องพัฒนาตัวเองเรื่องอะไร หลังจากนั้นค่อยกลับมาพิจารณาว่าเราจะอยู่ต่อหรือจะลาออกไปหางานใหม่

ถ้าอยากรู้วิธีการหางานให้ตรงใจ แนะนำให้คุณเรียนคอร์ส Strategic Job Search Hacking สูตรลัดวางแผนอาชีพ หางานได้ไว ก้าวหน้าเร็ว ไม่เสียเวลาอยู่ผิดที่ เป็นคอร์สออนไลน์ เรียนได้ตลอด 24 ชม. 

อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปแบบเปล่าประโยชน์ และถ้าเราอยากทำงานในอาชีพที่ฝันว่าอยากทำมานาน เราต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนและอย่าหลุดออกจากเป้าหมายนั้นไป ต้องสร้างโอกาสการเรียนรู้ให้กับตัวเอง และอย่ารอให้โอกาสลอยเข้ามาหาเราอย่างเดียว

เรียนรู้ความเป็นผู้นำ ด้วยบทความ 5 ระดับ ภาวะผู้นำ ที่ทุกคนต้องเรียนรู้