Digital Blog - Ourgreenfish

การทํางานของ instagram เป็นอย่างไร วิธีทำให้คนตอบสนองกับโพสต์มากขึ้น

เขียนโดย ธนาคาร เลิศสุดวิชัย - 15 มี.ค. 2018, 3:00:03

การทํางานของ instagram เป็นอย่างไร นี่คงเป็นคำถามที่ผู้ใช้อินสตาแกรม อยากรู้เป็นลำดับต้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ทำการตลาดบน IG ด้วยแล้ว  เพื่อนำไปปรับใช้เพื่อเหตุผลทางการตลาดนั่นเอง เรามารู้จักกับการทำงานของอินสตาแกรมในเบื้องต้นกันว่าทำอย่างไร

การทํางานของ Instagram มีหลักการอย่างไร

  • เมื่อคุณโพสต์รูปภาพหรือวิดีโอลง Instagram ในช่วงระยะเวลาแรก จะแสดงบนหน้า Feed กับกลุ่มคนที่ติดตามคุณอยู่ เป็นจำนวนไม่มาก
  • Instagram จะวัดว่ามีคนตอบสนองต่อโพสต์ของคุณอย่างไรบ้าง ทั้งไลค์และคอมเมนต์ รวมไปถึง Engagement ในรูปแบบอื่นๆ เช่นดูนานเท่าไร กด Direct Share หรือไม่
  • Instagram จะเปรียบเทียบโพสต์ที่คุณลงในช่วงระยะเวลาเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน เช่น คุณโพสต์รูปในช่วง 10โมงเช้าวันจันทร์ โพสต์นี้จะนำไปเปรียบเทียบกับโพสต์ก่อนหน้าในช่วงวันจันทร์ที่แล้วนั่นเอง ทำให้ทราบได้ว่าโพสต์ที่คุณลงนั้น ได้รับความนิยมมากกว่าหรือน้อยลงกว่าเดิม
  • ถ้าโพสต์ของคุณได้รับ Engagement เป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับโพสต์ก่อนๆ ก็จะแสดงหน้า Feed ให้กับผู้ติดตามเราจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และถ้าโปรไฟล์เปิดเป็นแบบสาธารณะ อาจทำให้โพสต์ของคุณไปอยู่ในหน้า Explore Feed ก็เป็นได้
  • เมื่อคุณโพสต์รูปหรือวิดีโอที่ได้ Engagement จำนวนมากอย่างสม่ำเสมอ โพสต์ของคุณจะขึ้นไปอยู่ในลำดับแรกๆ ในหน้า Feed ของคนอื่น
  • แต่ถ้าหากในตอนแรก โพสต์ของคุณมี Engagement ที่ต่ำ จะทำให้ Reach ลดลงเป็นอย่างมาก เป็นเหตุให้เข้าถึงคนได้น้อยนั่นเอง

4 ปัจจัย ที่ทำให้โพสต์ของเราไปอยู่บนหน้า Feed ของคนอื่น

เมื่อเราได้รู้หลักการทำงานของอัลกอริธึมของ Instagram แบบคร่าวๆ ว่าทำงานอย่างไร จะเห็นได้ว่า Engagement มีความสำคัญมาก ซึ่ง Engagement ของ Instagram คืออะไรบ้าง

  1. ความสัมพันธ์ระหว่างกัน ไลค์และคอมเมนต์มากน้อยแค่ไหน
    ความสัมพันธ์ในที่ว่านี้ เราคอมเมนต์และไลค์โพสต์ ของคนอื่นมากน้อยแค่ไหน ถ้าเราคอมเมนต์หรือไลค์โพสต์จาก User ไหนบ่อยๆ โพสต์จาก User นั้นๆ จะโผล่มาใน Feed ของเราบ่อยและถี่มากขึ้น เนื่องจากอัลกอริธึมของ Instagram เองนั้นจะเน้นความสัมพันธ์มาก
  2. เวลา
    ถึงแม้ว่า อินสตาแกรมจะไม่เรียงตามลำดับเวลาว่าใครโพสต์ก่อนหรือโพสต์หลัง แต่โพสต์ใหม่ย่อมได้รับความสนใจมากกว่า ดังนั้น IG จึงพยายามโชว์โพสต์ใหม่มากกว่าโพสต์เก่า
  3. ส่ง Direct Share
    การส่ง Direct Share นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เราเห็นโพสต์ของคนที่เรากด Direct Share มากขึ้น ในอนาคต Instagram จะมองเราเราสนใจโพสต์นี้ จึงแชร์ส่งต่อให้เพื่อนนั่นเอง
  4. การค้นหาโปรไฟล์
    การที่เราค้นหาโปรไฟล์ของใครบ่อยๆ แล้วถ้าติดตามฟอลโลว์ด้วย บอกเลยว่าจะเห็นโพสต์จากคนที่เราค้นหาบ่อยมากขึ้นแน่นอน

เห็นแบบนี้แล้วอย่าตกใจว่า คนที่เราแอบส่อง ไลค์และคอมเมนต์บ่อยๆ โพสต์ของเขาจะยิ่งปรากฏให้เราเห็นถี่มากขึ้นนั่นเอง

แล้วจะทำอย่างไร ทำให้โพสต์ Instagram ของเราไปโผล่บนหน้า Feed คนอื่นมากขึ้น

ซึ่งในขั้นตอนนี้สามารถนำปรับมาใช้กับการทำการตลาดในเบื้องต้นได้ด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ได้จำกัดเฉพาะยูสเซอร์ธรรมดาเท่านั้น อยากให้โพสต์เราไปแสดงบนหน้า Feed ผู้อื่นมากขึ้นต้องทำอย่างไร

  1. โพสต์รูป วิดีโอ หรือเรื่องราว ให้ถูกกับกลุ่มเป้าหมาย รูปภาพและวิดีโอเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งสวย ยิ่งดึงดูดให้เกิดการไลค์และคอมเมนต์มากขึ้น
  2. ถ้าหากคุณใช้บัญชีอินสตาแกรมแบบ Business คุณสามารถดูโพสต์เก่าๆ ได้ว่า Reach แต่ละโพสต์มากเท่าไร และมี Engagement มากแค่ไหน และลองดูแนวทางของโพสต์ที่ได้รับความนิยมว่าเป็นแบบใด และใช้แนวทางของโพสต์นั้นเป็นต้นแบบเพื่อเรียก Engagement
  3. พยายามสร้างโพสต์ที่เป็น Human Touch ที่มีอารมณ์ร่วมกับความรู้สึกของคน เพราะจะดึง Engagement ได้เป็นจำนวนมาก
  4. ใช้ Instagram Stories ให้เป็นประโยชน์ เพราะคนที่ดู Stories นับเป็น Engagement เช่นเดียวกัน ใครก็ตามดู Stories ของคุณบ่อยๆ ในครั้งหน้ามีโนวโน้มสูงมากที่โพสต์ของคุณจะปรากฏอยู่บนหน้าฟีดของพวกเขา
  5. อย่าลืมใช้ Hashtag เพราะจะช่วยเพิ่ม Reach และ Engagement อย่างเห็นได้ชัด

พอจะเห็นแนวทางกันแล้วใช่ไหมว่า หลักการคัดเลือกโพสต์ให้แสดงในหน้า Feed ของเรานั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร และนำไปปรับใช้กับวิธีการโพสต์ในอินสตาแกรมครั้งต่อไปได้อีกด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติม : โฆษณา FACEBOOK หรือ GOOGLE แบบไหนที่ตอบโจทย์ในการทำ DIGITAL MARKETING ของธรุกิจคุณ

สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter

ที่มา [1]