วางแผน Digital Marketing นับว่าเป็นการทำ Digital Planning ในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งการวางแผนนั้นนับว่าเป็นส่วนสำคัญของการทำ Digital Marketing เลยทีเดียว เพราะเป็นการกำหนดทิศทางว่าจะต้องทำอย่างไร ใช้เครื่องมือแบบ ไหน ตั้ง KPI เท่าไรดี มาดูกันดีกว่าว่า การวางแผนจะต้องเริ่มต้นได้อย่างไรบ้าง
สิ่งที่คุณควรทำเป็นอันดับแรก คือการตอบตัวเองก่อนว่า การที่คุณมาทำตลาดด้วย Digital Marketing คุณต้องการอะไรเป็นลำดับแรก (Goal) มีเป้าหมายอะไรเป็นลำดับต้นๆ ของการทำ Digital Marketing ในครั้งนี้ ยกตัวอย่างเช่น
ข้อดีของการวางแผน ทำให้คุณได้รู้ว่าคุณต้องการอะไรจากการทำธุรกิจ ไม่ทำให้คุณหลงทางจากเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้นั่นเอง
เมื่อคุณมีเป้าหมายในใจเรียบร้อยแล้ว ถัดมาคือการเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับ Goal หรือเป้าหมายของคุณ เพราะบางเครื่องมือสามารถทำได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google Adwords, Taboola หรือถ้าเน้นพวก Awareness เป็นพิเศษคงจะหนีไม่พ้น YouTube หรือถ้าเน้นการทำ Inbound Marketing และดูแล CRM โดยเฉพาะ คงจะต้องเป็น HubSpot ลองมาดูตัวอย่างง่ายๆ
ทำความรู้จักกับ Taboola ให้มากขึ้น คลิก
อัลกอริทึมของ Facebook มีปัจจัยอะไรบ้าง เราควบคุมได้หรือไม่
ศึก GDN วัดกันหมัดต่อหมัด Image Ads กับ Responsive Ads แบบไหนดีกว่ากัน
การทำ Digital Marketing มีข้อดีอย่างหนึ่งที่การตลาดแบบดั้งเดิมทำได้ยากคือการวัดผล คุณสามารถวัด KPI ได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็น จำนวนครั้งที่โฆษณาแสดงออกไป จำนวนครั้งที่มีการรับชมวิดีโอ จำนวนคลิก ฯลฯ
KPI นั่นมีหลายรูปแบบ ดังที่กล่าวไปด้านบนคือ KPI แบบพื้นฐานที่สามารถวัดได้ แต่จะให้ลึกไปกว่านั้น ก็วัดได้เช่นกัน เช่นการวัดเป็น Conversions หรือ Cost per Conversion หรือถ้าต้องการขั้นลึกสุดๆ สามารถวัดผลได้ถึงระดับ ROI ได้
ส่วนการตั้งเป้า KPI นั้น ขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่เราตั้งไว้ เช่นเป้าหมายของคุณคือการลงทะเบียนเพื่อเข้าสมัครเรียนคอร์สต่างๆ การวัดเป้าหมายควรเป็น Conversions เป็นหลักเราตั้งค่าได้ว่าต่อการสมัครเพื่อลงทะเบียนเรียน 1 User = 1 Conversions พอเราทำโฆษณาที่สนับสนุนการลงทะเบียนเรียนนี้ก็จะวัดผลได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
อยากบรีฟเอเจนซีให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ต้องบรีฟอย่างไร แค่ไหนถึงจะดี
พอเราตั้ง KPI ไว้แล้ว เรามาดูว่างบประมาณที่เรามีอยู่ จะพาเราไปถึง KPI ที่เราตั้งไว้ได้หรือไม่ ต่อเนื่องจากด้านบน ถ้าหากว่า เราลองคิดแบบง่ายๆ
ตั้ง KPI Digital Marketing อย่างไรดี ถึงจะเหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ
ถ้าหากเราลองทำโฆษณาไปสักระยะหนึ่ง แล้วพบว่า Cost per Conversions ต่ำกว่า 200 บาท นั่นหมายความว่า คุณมีแนวโน้มจะได้มากกว่า 50 Conversions ต่อเดือน แต่ถ้า Cost per Conversions สูงกว่า 200 บาท นั่นหมายถึงคุณอาจจะได้ Conversions ทั้งเดือนต่ำกว่า 50 Conversions ซึ่งคุณต้องหาทางแก้ เช่นอาจเพิ่มเงินให้มากขึ้น, ปรับ Bid ให้ลดลง หรืออาจลองเปลี่ยนเป็นเครื่องมืออื่นๆ
เทคนิคการวางแผน DIGITAL MARKETING เบื้องต้น มาเริ่มต้นวางแผนของคุณกันเลย
และถ้าคุณต้องวางแผน Digital Marketing ในให้ลึกมากยิ่งขึ้น สามารถดาวน์โหลดเทมเพลตการวางแผนการตลาดได้ด้วยตัวเอง ภายในหนึ่งหน้า โดยคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างได้เลย