Online Business เป็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุคปัจจุบัน เพราะผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหญ่ต่างหันมาทรานส์ฟอร์มองค์กรของตัวเองกันหมดแล้ว นอกจากนั้นยังมี Online Business ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากบุคคลทั่วไปอีกมากมายจากการใช้เว็บไซต์ โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม และ E-Commerce ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในการทำธุรกิจและหารายได้เสริม วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปเปิดโลกในแวดวงธุรกิจออนไลน์เพื่อให้รู้วิธีคิดและการเตรียมพร้อมก่อนลงมือทำ Online Business
เป็นคำนิยามที่หมายถึงกระเป๋าเดินทางของผู้ประกอบการที่เวลาเดินทางไปไหนต้องพกติดตัวตลอดเวลา ซึ่งคำว่า Suitcase Entrepreneur มักจะใช้เรียกกับนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ชอบออกเดินทางไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง สิ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบการยุคใหม่ควรพกติดกระเป๋าอยู่ตลอดเวลามี 4 อย่าง ดังนี้
Computer คืออุปกรณ์การทำงานที่สามารถพกไปได้ทุกที่ ในยุคนี้ถ้าใครอยากเริ่มต้นสร้างธุรกิจออนไลน์จะต้องมีคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊กเป็นของตัวเอง เพราะเป็นเครื่องมือหลักของนักธุรกิจสมัยใหม่ที่ขาดไม่ได้
Internet Connection จำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานในปัจจุบัน เพราะอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนยานพาหนะที่นำเราไปสู่ข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย หากเราต้องการจะมุ่งหน้าทำธุรกิจออนไลน์อย่างเต็มตัวแนะนำให้เลือกใช้อินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพเหมาะสมต่อธุรกิจของเรา
Business Idea คือสิ่งแรกที่คนทำธุรกิจจะต้องมีตั้งแต่แรกเริ่ม ตั้งแต่การคิดค้นผลิตภัณฑ์ ราคา ช่องทางจัดจำหน่าย ไปจนถึงการส่งเสริมการขายต่าง ๆ เป็นต้น ถึงแม้ว่าไอเดียของเราจะไปซ้ำกับของคู่แข่งแต่อย่าพึ่งทิ้งไอเดียนั้นไป แต่จงนำไปต่อยอดให้ดีกว่าคู่แข่งของเรา ยิ่งถ้าเราอยากทำ Online Business ยิ่งต้องค้นคว้าหาข้อมูลของผู้แข่งขันในตลาดเดียวกันให้มากที่สุด เพื่อนำข้อมูลของคู่แข่งมาวิเคราะห์เพื่อสร้างธุรกิจให้แตกต่าง ความง่ายของการทำ Online Business คือเราสามารถทำงานคนเดียวก็ได้หรือทำเป็นทีมเล็ก ๆ เมื่อมีเหตุการณ์คับขันเกิดขึ้นเราสามารถปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจได้คล่องตัว
Mindset คือแก่นความคิดที่จะนำพาเราไปสู่เป้าหมาย ผู้ประกอบการที่ทำ Online Business แล้วประสบความสำเร็จมักจะใช้ทัศนคติของตัวเองเป็นแรงจูงใจในการทำงาน เช่น การสร้างรายได้มหาศาลจากการหลงใหลในเรื่องของรองเท้าผ้าใบ จนนำมาสู่การทำธุรกิจขายรองเท้าบนแพลตฟอร์ม E-Commerce หรือเว็บไซต์ของตัวเองโดยไม่ต้องจดทะเบียนบริษัท และไม่ต้องเสียค่าเช่าร้าน
“ถ้าอยากอยู่ในตลาดต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ทุกองค์กรต้องทรานส์ฟอร์มตัวเอง”
การเน้นขายออนไลน์ ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนบริษัทและไม่จำเป็นต้องเปิดร้านค้าออฟไลน์ แต่ต้องมีแผนและระบบที่ดีคอยช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ของเราดำเนินการได้ ในยุคปัจจุบันใคร ๆ ก็หันมาสร้างรายได้จากออนไลน์กันหมด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำแล้วจะประสบความสำเร็จ อาจเป็นเพราะขาดวิธีคิดและเครื่องมือในการดำเนินธุรกิจ
โดยมี 6 สิ่งที่จำเป็นต่อการสร้าง Online Business มาแนะนำให้ทุกคนนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตัวเอง ดังนี้
การทำธุรกิจต้องมีการวางแผนก่อนลงมือทำเสมอ ถ้าธุรกิจใดไม่มีการวางแผนตั้งแต่ต้นจะทำให้ดำเนินธุรกิจแบบไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ดังนั้น ต้องเริ่มจากการวางตำแหน่งของแบรนด์ (Positioning) ว่าเราต้องการให้แบรนด์ไปอยู่ตรงไหนในใจของลูกค้า เช่น สินค้าราคาถูกหรือแพง เจาะกลุ่มคนรายได้ระดับไหน ผลิตภัณฑ์คืออะไร จะเจาะกลุ่มลูกค้าจากช่องทางไหนและบนแพลตฟอร์มอะไร งบประมาณที่ต้องใช้จ่ายเท่าไร
การทำคอนเทนต์คือกลยุทธ์การตลาดที่ถูกนำมาใช้มากที่สุดในยุคนี้ แบรนด์ใหญและแบรนด์เล็กต่างพากันหันมาทำคอนเทนต์เพื่อสร้างความรู้สึกจงรักภักดีกับแบรนด์ให้อยู่ในใจของลูกค้า ดังนั้น เราควรขายสินค้าและบริการควบคู่ไปกับเนื้อหาสาระ เช่น การทำ Blog, Vlog หรือ การทำวิดีโอ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กลุ่มเป้าหมายจดจำ และติดตามเราได้เร็วขึ้น
Online Business คือการขายตัวเองเพื่อมุ่งหวังกำไร เมื่อเราต้องการกำไร เราต้องทำให้ธุรกิจของตัวเองเป็นที่รู้จัก โดยวิธีการในสมัยนี้คือการใช้โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มเป็นสื่อในการทำให้ผู้บริโภครู้จัก เช่น เริ่มทำคอนเทนต์ที่ให้ความรู้บน Facebook, Youtube หรือ Blog เพื่อสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง เมื่อเราทำให้คนศรัทธาในตัวเราได้แล้วจึงทำการเปิดตัวสินค้าหรือบริการ และเมื่อสินค้าหรือบริการเริ่มขายดีขึ้นในตลาด แนะนำให้เอาไปลงขายบนแพลตฟอร์ม E-Commerce เช่น Lazada, Shopee, Alibaba หรือ Amazon เป็นต้น
เมื่อเราทำคอนเทนต์ดึงดูดลูกค้าเข้ามาติดตามเราได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างวิธีการขายของออนไลน์ โดยจะไม่ใช้วิธีการขายของแบบยัดเยียด แต่เราต้องสร้างขั้นตอนการขายที่สามารถเปลี่ยนให้ผู้ติดตามคอนเทนต์ให้กลายเป็นผู้ซื้อ ซึ้งมีอยู่ 3 ขั้นตอน ดังนี้
1. Awareness Stage (การสร้างการรับรู้โดยทำคอนเทนต์เชิงแก้ปัญหาหรือให้ความรู้ด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนนี้เราไม่ควรเน้นขายของ เพราะจะทำให้ลูกค้าหนีไปจากเราได้)
2. Consideration Stage (เมื่อเราใช้คอนเทนต์หว่านล้อมกลุ่มผู้ติดตามได้แล้ว ต่อไปคือการบอกคุณประโยชน์ของสินค้าและบริการให้พวกเขาได้พิจารณา)
3. Decision Stage (การกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ด้วยการส่งเสริมการขายผ่านโปรโมชันหรือการลงทะเบียน เป็นต้น)
การทำ Online Business สามารถประหยัดงบประมาณการดำเนินงานได้ โดยเราไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานและไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงาน เราสามารถลงทำเพียงคนเดียวได้ โดยการใช้ระบบอัตโนมัติ หรือ Automation System เข้ามาช่วยงานในบางส่วน เช่น การตั้งค่า Workflows โพสต์คอนเทนต์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ และการส่งข้อความหรือแบบสำรวจผ่านระบบอีเมลอัตโนมัติ (Email Automation) เป็นต้น ถ้าเรารู้วิธีการนำซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยดำเนินธุรกิจ ระบบเหล่านั้นก็จะสามารถผ่อนเบาภาระงานของเราได้มากขึ้น และยังทำให้การบริหารจัดการการทำงานมีระเบียบมากขึ้น
เว็บไซต์คือหน้าต่างบานแรกที่จะนำพาให้ลูกค้าเข้ามารู้จักแบรนด์ได้ดีขึ้น และยังสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ เพราะในเว็บไซต์ได้รวบรวมเอาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับตัวตนของเราและสินค้าของเราไว้ทั้งหมด เป็นได้ทั้งร้านค้าออนไลน์ที่ไม่ต้องเสียค่าเช่าและสามารถเรียกลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าและบริการได้ทุกที่ ทั้งนี้ การจะทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับการค้นหาบน Google จะต้องเรียนรู้การทำ SEO เช่น วิธีการ เลือก KEYWORDS SEO ให้ติดอันดับในหน้าแรกของการค้นหา ให้ชำนาญด้วยตัวเอง ถ้าจ้างให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด (Digital Marketing Specialist) มาทำ SEO ให้ เราอาจจะต้องเสียงบประมาณการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอีก แนะนำให้ไปลงเรียนคอร์สเรียนที่เกี่ยวกับ Google Ads ดี ๆ สักหนึ่งคอร์ส แล้วกลับมาทดลองทำจริงกับธุรกิจของตัวเอง นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้เชี่ยวชาญ ยังเป็นการเพิ่มทักษะด้าน Digital Marketing ให้กับตัวเองอีกด้วย
สนใจ Automation System จาก HubSpot CRM คลิกที่นี่
“ธุรกิจจะเกิดขึ้นได้ ต้องเริ่มจากการลงมือทำ ถ้าไม่ทำวันนี้ แล้วจะทำวันไหน”
ส่วนใหญ่ Online Business มักจะเกิดจากการทำในสิ่งที่รักและสนุกกับการลงมือทำมากกว่าการมุ่งเป้าไปที่กำไรจากการดำเนินธุรกิจ ถ้าวันนี้คุณคิดว่าอยากเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ด้วยตัวเอง สิ่งแรกที่ต้องเตรียม คือการเตรียมเครื่องมือการตลาดให้ครบ โดยเฉพาะการทำเว็บไซต์เป็นของตัวเอง และการสมัครเปิดใช้บัญชีโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อดึงกลุ่มผู้ติดตามให้กลายมาเป็นผู้ซื้อ ท่านสามารถเรียนรู้วิธีการทำเว็บไซต์ในฝันของตัวเองได้ที่ คอร์สสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress เปลี่ยนจากไม่รู้…สู่เงินล้าน
อ่านบทความ เจ้าตลาดต้องรับมือกับ DISRUPTIVE CHALLENGER อย่างไร เพื่อให้อยู่รอด คลิก!
รับสิทธิพิเศษ ติดตามสาระน่ารู้จาก Digicup คลิก!