หากคุณคิดว่าการทำ ธุรกิจร้านอาหาร สามารถขายได้แต่ออฟไลน์ ใช้แค่แผนการตลาดออฟไลน์ก็เพียงพอไม่จำเป็นต้องใช้ แผนการตลาดออนไลน์ Digital Marketing เข้ามาช่วยในการทำการตลาดก็ได้ มันก็จริงส่วนหนึ่ง แต่ถ้าหากคุณมีแผนการตลาดหลายรูปแบบ ก็เปรียบเสมือนคุณมีวัตถุดิบที่หลากหลาย คุณก็สามารถคลุกเคล้าส่วนผสมต่างๆ ในการที่จะรังสรรค์เมนูใหม่ออกมาได้อย่างง่ายดาย และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมถึงต้องใช้ การตลาดแบบออนไลน์ เข้ามาช่วยดันธุรกิจร้านอาหารคุณ
โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นการแจกใบปลิวตามห้าง ตาม Locations ที่คิดว่าคนทั่วไปจะสามารถเดินทางมาทานอาหารที่ร้านได้ หรือการติดป้ายประกาศตัวใหญ่ๆ ที่อาศัยผู้สัญจรไปมาในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับร้านได้เห็นโฆษณา โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นการประชาสัมพันธ์บริเวณใกล้เคียง “สร้างการรับรู้ได้แค่พื้นที่รอบๆ” และถ้าหากมีงบประมาณที่มากพอก็อาจจะมีการซื้อโฆษณาเพื่อลงในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ วิทยุ หรือ รายการทีวี ตามแผนการตลาดที่วางไว้เพื่อสร้างการรับรู้ที่กว้างขึ้น
Digital Marketing สำหรับร้านอาหาร จะเริ่มจากไหน และวางแผนอย่างไรดี
แต่ถ้าหากเป็นสมัยก่อนการทำการตลาดออฟไลน์ในรูปแบบที่ว่านี้ถือว่ามี Effective ที่ดีเลยทีเดียว แล้วถ้านำมาใช้ในการทำการตลาดในปัจจุบันล่ะ ก็อาจจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาใช้อินเทอร์เน็ตกันมากขึ้นทำให้ไลฟ์สไตล์ของคนนั้นเปลี่ยนไป พากันเสพสื่อออนไลน์กันมากกว่าสื่อออฟไลน์ ซึ่งทำให้หลายๆ ธุรกิจได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กับสิ่งเดิมที่มีอยู่ทำให้ธุรกิจถูก Transformation แต่บางธุรกิจไม่ได้มีการปรับตัวก็อาจจะทำให้เกิด Digital Disruption หรือการ “หยุดชะงัก” อย่างที่เราเห็นตัวอย่าง Grab, Netflix เป็นต้น
คุณอย่ามองว่า ธุรกิจร้านอาหาร ขายได้แต่ออฟไลน์ ใช่ว่าในโลกออนไลน์จะไม่มีลูกค้าของคุณอยู่ คุณสามารถดึงพวกคนเหล่านั้นมาเป็นลูกค้าของคุณได้เหมือนกัน เพราะคนในปัจจุบันขอเพียงแค่คุณทำให้พวกเขารู้จัก ดูแล้วมีอาหารที่น่าสนใจ “ไกลแค่ไหน” เขาก็จะมาหาคุณ การตลาดออนไลน์ก็เปรียบเหมือนสิ่งที่จะมาช่วยเพิ่มกลิ่นให้กับรสชาติอาหารของคุณ ให้คนได้เชยชมกลิ่นของมัน ยั่วยวนชวนให้น่าลิ้มลองนั่นเอง
ทำให้เจ้าของ ธุรกิจร้านอาหาร หลายเจ้า ต่างมองหา Social Media ที่ยอดนิยมในไทย อย่าง Facebook, Instagram, Line มาใช้เป็นช่องทางในการปล่อยสื่อโฆษณา โดยจะเป็นการทำการตลาดในรูปแบบ Outbound Marketing โดยเน้นการส่งสื่อโฆษณาไปหาผู้รับสารผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ดึงดูดให้คนมาที่ร้านของเราให้ได้
ถือว่าเป็น Social Media ที่ถูกทำมาเพื่อโชว์รูปภาพและวิดีโอโดยเฉพาะ เน้นถ่ายรูปอาหารใน Mood & Tone ที่ดูแล้วน่าสนใจ ดูแล้วน่ารับประทาน เรียกได้ว่า IG เหมาะกับธุรกิจที่เน้นการโชว์รูปภาพสินค้า อย่าง ร้านอาหาร เพราะทุกครั้งที่โพสต์ก็เหมือนกับการได้โชว์เมนูที่น่าสนใจของทางร้านไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาดูเมนูได้ ตลอดเวลาอีกทั้งยังคอย Remind ให้เกิดความต้องการได้อีกด้วย
ก็ขายด้วยรูปได้เหมือนกัน อีกทั้งสามารถยังนำเสนอในรูปแบบของอัลบั้มที่ดูง่าย หรือมีวิดีโอสั้นๆ ไว้รีวิว พร้อมกับถ้าหากมีงบที่มากพอก็อาจจะจ้าง Influencer มาช่วยประชาสัมพันธ์อีกแรงได้เหมือนกัน “คนมักจะเชื่อคนพูดด้วยกันเองมากกว่าแบรนด์พูด”
อย่าง Line ก็สามารถทำคลิปสั้นๆ เพื่อโปรโมตร้านหรือเมนูอาหารที่น่าสนใจได้ หรือจะใช้ Broadcast Line@ ที่เอาไว้ส่งข้อความหาคนที่ Followers ด้วยโปรโมชั่นหรืออะไรก็ตามแต่ เพื่อให้เขากลับมาทานอาหารที่ร้านอีกครั้ง คอยเตือนความจำอยู่สม่ำเสมอ
ยิ่งเรามีช่องทางมาก ก็ยิ่งทำให้เราเข้าถึงและเพิ่มโอกาสได้มากขึ้น เพราะผู้ใช้งานที่อยู่ตาม Social Medias ต่างๆ ล้วนอาจจะเป็นลูกค้าของคุณได้ทั้งนั้น
ช่วยทำให้คุณสามารถเข้ากลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น สามารถ Target Audience ตาม Objective ที่วางตามแผนการตลาด สามารถเก็บข้อมูล เพื่อต่อยอดในการทำการตลาดในรูปแบบต่างๆ สามารถทำการตลาดกลับเข้าไป Remind คนที่มีโอกาสจะมาเป็นลูกค้าของคุณได้อีกด้วย ซึ่งจะแตกต่างกับการตลาดแบบออฟไลน์ที่คุณไม่สามารถรู้ได้ว่าโฆษณาที่คุณส่งไปตรงกับเป้าหมายที่มีโอกาสจะมาเป็นลูกค้าหรือเปล่า ดังนั้น “การมีข้อมูลย่อมดีกว่าการไม่มีข้อมูล” นั่นเอง
สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter
Aphikiat Techajarupun X Ourgreenfish