Master Blog - Ourgreenfish

Feasibility Study เครื่องมือสำคัญในการวางแผนและลดความเสี่ยง

เขียนโดย สุริยนต์ นนทารักษ์ - May 18, 2024 12:53:22 PM

ความหมายของ Feasibility Study

Feasibility Study หรือการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ เป็นกระบวนการวิเคราะห์และประเมินความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการหรือธุรกิจใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการนั้นสามารถดำเนินการได้จริง ทั้งในแง่การดำเนินงาน การเงิน กฎหมาย และเทคนิค ซึ่งช่วยในการตัดสินใจว่าควรลงทุนหรือไม่

ตัวอย่าง: หากบริษัทต้องการเปิดร้านกาแฟใหม่ การทำ Feasibility Study จะช่วยประเมินว่าตำแหน่งที่ตั้งของร้านมีลูกค้าที่เพียงพอหรือไม่ คู่แข่งในพื้นที่มีมากน้อยเพียงใด และความสามารถในการทำกำไรของร้านในระยะยาว

ความจำเป็นของ Feasibility Study

  1. ลดความเสี่ยง: การศึกษาอย่างละเอียดช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและช่วยในการประเมินความเสี่ยง
    • ตัวอย่าง: หากพบว่ามีการแข่งขันสูงในตลาดและความต้องการของลูกค้าไม่เพียงพอ การไม่เริ่มโครงการจะช่วยป้องกันการสูญเสียทรัพยากร
  2. ประหยัดเวลาและทรัพยากร: ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรในการดำเนินงาน หากพบว่าโครงการไม่สามารถดำเนินการได้จริง
    • ตัวอย่าง: การค้นพบปัญหาทางเทคนิคตั้งแต่ต้นจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงหรือแก้ไขปัญหาหลังจากโครงการเริ่มดำเนินการแล้ว
  3. ตัดสินใจลงทุนได้ถูกต้อง: ช่วยให้ผู้ลงทุนหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
    • ตัวอย่าง: การศึกษาความเป็นไปได้ช่วยให้ผู้ลงทุนมั่นใจในการลงทุนและเห็นความเป็นไปได้ของโครงการ
  4. เพิ่มความน่าเชื่อถือ: เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับโครงการเมื่อมีการวิเคราะห์และประเมินอย่างรอบคอบ
    • ตัวอย่าง: ผู้ให้กู้หรือผู้ลงทุนจะมีความมั่นใจมากขึ้นในการสนับสนุนโครงการที่มีการศึกษาความเป็นไปได้อย่างละเอียด

วิธีการคำนวณและวิเคราะห์ Feasibility Study

  1. การวิเคราะห์ตลาด (Market Analysis): ศึกษาความต้องการของตลาด คู่แข่ง และโอกาสทางการตลาด
    • ตัวอย่าง: สำรวจลูกค้าในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อดูว่ามีความต้องการสินค้าหรือบริการของโครงการมากน้อยเพียงใด
  2. การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis): ตรวจสอบความเป็นไปได้ทางเทคนิค เช่น เทคโนโลยีที่ใช้ ความสามารถของบุคลากร และกระบวนการผลิต
    • ตัวอย่าง: ตรวจสอบว่าเทคโนโลยีที่ใช้ในโครงการสามารถนำมาใช้ได้จริงและมีความเสถียร
  3. การวิเคราะห์ทางการเงิน (Financial Analysis): ประเมินความสามารถในการทำกำไร การลงทุนที่ต้องใช้ และการวิเคราะห์ความเสี่ยงทางการเงิน เช่น การคำนวณ NPV (Net Present Value), IRR (Internal Rate of Return), และ Payback Period
    • ตัวอย่าง: คำนวณว่าจะใช้เวลานานเท่าใดในการคืนทุนและโครงการจะมีกำไรในระยะยาวหรือไม่
  4. การวิเคราะห์ทางกฎหมาย (Legal Analysis): ตรวจสอบข้อกำหนดทางกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
    • ตัวอย่าง: ตรวจสอบว่าโครงการสอดคล้องกับกฎหมายท้องถิ่นและไม่มีข้อขัดข้องทางกฎหมาย
  5. การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการดำเนินงาน (Operational Analysis): ประเมินความสามารถในการดำเนินการและการจัดการทรัพยากร
    • ตัวอย่าง: ประเมินว่ามีทรัพยากรเพียงพอในการดำเนินโครงการ เช่น บุคลากร วัสดุ และอุปกรณ์

แนวทางการปรับใช้งาน

  1. การรวบรวมข้อมูล: รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
    • ตัวอย่าง: สำรวจตลาด เก็บข้อมูลทางการเงิน ตรวจสอบข้อกำหนดทางกฎหมาย
  2. การวิเคราะห์ข้อมูล: ใช้เครื่องมือและเทคนิคที่เหมาะสมในการวิเคราะห์ข้อมูล
    • ตัวอย่าง: ใช้ซอฟต์แวร์ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน ใช้แบบสอบถามในการสำรวจตลาด
  3. การจัดทำรายงาน: จัดทำรายงาน Feasibility Study ที่มีความชัดเจนและครอบคลุมทุกด้าน
    • ตัวอย่าง: จัดทำรายงานที่มีสรุปการวิเคราะห์ตลาด การวิเคราะห์ทางเทคนิค และการวิเคราะห์ทางการเงิน
  4. การตัดสินใจ: นำเสนอผลการวิเคราะห์ให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อการตัดสินใจ
    • ตัวอย่าง: นำเสนอรายงานต่อคณะกรรมการบริหารหรือผู้ลงทุนเพื่อตัดสินใจในการดำเนินโครงการ

ประโยชน์ที่ได้รับ

  1. ช่วยในการวางแผน: ให้ข้อมูลที่จำเป็นในการวางแผนโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ
    • ตัวอย่าง: ช่วยให้สามารถวางแผนการดำเนินงานและการจัดสรรทรัพยากรได้อย่างเหมาะสม
  2. เพิ่มความมั่นใจในการลงทุน: ผู้ลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและลดความเสี่ยง
    • ตัวอย่าง: ผู้ลงทุนจะมีความมั่นใจมากขึ้นในการลงทุนในโครงการที่ผ่านการศึกษาความเป็นไปได้อย่างละเอียด
  3. การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ: ช่วยในการจัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสมและลดการสูญเสีย
    • ตัวอย่าง: การจัดสรรบุคลากรและวัสดุอุปกรณ์อย่างเหมาะสม เพื่อให้โครงการดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
  4. เพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ: ช่วยให้โครงการมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงขึ้นจากการวิเคราะห์และวางแผนอย่างรอบคอบ
    • ตัวอย่าง: โครงการที่มีการศึกษาความเป็นไปได้จะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงขึ้น เนื่องจากได้รับการวางแผนและจัดการที่ดี

การทำ Feasibility Study เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจในการเริ่มต้นโครงการใหม่ ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จของโครงการในระยะยาว

อ่านบทความเพิ่มเติม : กลยุทธ์การตลาดสมัยใหม่สำหรับ TECH STARTUP