Digital Blog - Ourgreenfish

คู่มือติดตั้ง Google Analytics + GA4 บนเว็บไซต์ ครบทุกขั้นตอน

Written by สุพัตรา อัมรานนท์ | 9 มี.ค. 2022, 4:00:00

ถ้าเกิดเราอยากรู้ข้อมูลของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการใช้งาน พฤติกรรมบนเว็บไซต์ และเรื่องที่ผู้ใช้งานสนใจ เครื่องมือที่จะช่วยให้เราได้ข้อมูลตรงจุดนี้มาได้ คงหนีไม่พ้น Google Analytics เครื่องมือที่เก็บข้อมูลพฤติกรรมต่าง ๆ บนเว็บไซต์ และปัจจุบัน ทุก ๆ เว็บไซต์ต่างมีการติดตั้ง Google Analytics เพื่อติดตามพฤติกรรมเหล่านั้นกันทั้งสิ้น วันนี้ Ourgreenfish ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Google Analytics, คู่มือในการติดตั้งและการใช้งาน รวมถึง GA4 ที่เป็นเครื่องมืออัปเดตตัวใหม่ที่หลายคนยังไม่เคยใช้และไม่รู้จักมาไว้ในบทความนี้ ให้ทุกคนได้ศึกษากัน

Google Analytics คืออะไร?

Google Analytics เครื่องมือที่นักการตลาดทั้งหลายใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ สามารถดูและรู้ได้ทันทีว่าผู้ใช้งานเป็นใคร เข้ามาเว็บไซต์ได้อย่างไร มาจากทางไหน สนใจอะไรบนเว็บไซต์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ จะสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อวางแผนปรับปรุงเว็บไซต์ วางแผนการตลาดให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานและบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้ เครื่องมือ Google Analytics นั้นเป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ได้ฟรี ใคร ๆ ก็สามารถสมัครใช้งานและติดตั้งได้ทันทีเพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้นเอง และตอนนี้ Google Analytics ก็มีเวอร์ชันใหม่ออกมาก็คือ GA4 หรือ Google Analytics เวอร์ชัน 4 นั่นเอง

 

GA4 คืออะไร?

สำหรับ GA4 หรือ Google Analytics เวอร์ชัน 4 เป็นการพัฒนาจาก App and Web Property สามารถรวบรวมข้อมูลทั้งบนเว็บไซต์และโมบายแอปไว้ด้วยกัน โดยที่ข้อมูลนั้นจะไม่แยกส่วนจนทำให้เกิดความสับสนในข้อมูล เพราะบางทีผู้ใช้งานที่เข้ามาใช้ทั้งเว็บไซต์และโมบายแอป อาจจะเป็นคนเดียวกัน แต่ถ้าเกิดข้อมูลอยู่แยกกัน ระบบก็จะจับว่าเป็นคนละคนทั้ง ๆ ที่แล้วคือคนเดียวกัน นี่คือข้อดีของเวอร์ชันนี้ แตกต่างจากเวอร์ชันเก่าตรงที่เมนู การใช้งานและการอ่านค่าต่าง ๆ นั้นต่างออกไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการเก็บค่าของทั้ง 2 เวอร์ชันนั้นมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว

สำหรับท่านที่เคยใช้ Google Analytics มาก่อนหน้านี้ จะเป็น Google Analytics (Universal Analytics) ซึ่งเป็นคนละตัวกับ GA4 แต่ถ้าใครที่พึ่งสมัครใช้งาน สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ตัว UA หรือ จะใช้ตัว GA4 แล้วแต่การใช้งานของแต่ละเว็บไซต์เลย

 

ประโยชน์ของ Google Analytics

  1. ดูได้ว่า ผู้ใช้งานบนเว็บไซต์มาจากช่องทางไหนบ้าง ถ้าเกิดรู้ว่าช่องทางไหนที่มีคนเข้ามามากที่สุด เราอาจทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายในช่องทางนั้นได้ดียิ่งขึ้น 
  2. รู้พฤติกรรมของผู้ใช้งาน ติดตามการใช้งานได้ตั้งแต่เข้าหน้าเว็บไซต์ ไปยังหน้าไหนของเว็บไซต์บ้าง มีความสนใจตรงไหน สามารถบอกได้หมด สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้เพื่อปรับเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานให้ได้มากที่สุด
  3. ทำ Segmentation ได้ เจาะลึกข้อมูลไปถึงว่า ผู้ใช้งานนั้นช่วงอายุเท่าไหร่ เป็นเพศอะไร 
  4. ได้เห็นผู้ใช้งานใหม่ ๆ ที่เข้ามายังหน้าเว็บไซต์ ว่าในแต่ละเดือน มีมากมีน้อยเท่าไหร่
  5. นำข้อมูลที่ได้จากเครื่องมือนี้ ไปวางแผนการตลาดในรูปแบบเดือนและปี ตั้งเป้าหมายที่ต้องการ พร้อมทั้งวัดผลลัพธ์ในแต่ละเดือนและปีได้

ประโยชน์ในแต่ละข้อที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้เจ้าของเว็บไซต์หรือเจ้าของธุรกิจต่าง ๆ ติดตั้ง Google Analytics บนเว็บไซต์กันทั้งสิ้น เพราะนอกจากประโยชน์และผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้เครื่องมือนี้แล้ว ก็เพราะใช้งานได้ฟรีนี่แหละ เพียงแค่มีบัญชี Google ก็สมัครใช้งานและติดตั้งได้แล้ว ซึ่งเราจะพาทุกคนไปถึงขั้นตอนการติดตั้งกันแล้ว

 

ขั้นตอนการสมัครและติดตั้งใช้งาน Google Analytics และ GA4

 

Google Analytics

  1. ก่อนอื่นผู้ใช้งานต้องมีบัญชี Google อย่าง G Suite หรือ Gmail ก่อน หากยังไม่มี แนะนำให้ไปสมัครก่อน เพราะเราต้องใช้บัญชีของ Google ในการลงชื่อเข้าใช้งาน
  2. เข้าไปยังเว็บไซต์ https://marketingplatform.google.com/about/analytics/ เพื่อสมัครเข้าใช้งาน
  3. เมื่อเข้ามาหน้าสมัครสมาชิก ระบบจะให้คุณทำการกรอกชื่อบัญชี แนะนำว่าตั้งเป็นชื่อเดียวกับเว็บไซต์ จะได้จำง่าย
  4. ถัดมา ให้ทำการกรอกประเทศที่เว็บไซต์ติดตั้งอยู่ สกุลเงินของประเทศนั้น URL ของเว็บไซต์ และคุณต้องเลือกว่าจะสมัคร GA4 กับ Universal Analyst หรือแค่ Universal เพียงอย่างเดียว (แนะนำสำหรับท่านที่สมัครใหม่เป็นครั้งแรก ให้สมัคร GA4 กับ Universal ไปเลย) เพื่อความง่ายในการดูข้อมูลในปัจจุบัน



  5. ถัดมา ให้เลือกหมวดหมู่ของธุรกิจ, ขนาดของธุรกิจ และจุดประสงค์ของการใช้ GA แล้วกดสร้างได้เลย ระบบจะให้กดเลือกเป็นประเทศไทยและยอมรับข้อตกลงของ GA ก่อนถึงจะสามารถสร้างได้



  6. เมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้ Tracking ID ทั้งของ Universal Analytics และตัว GA4 ที่สามารถนำไปใช้ติดแทร็กหรือนำไปติดตั้งบน Google Tag Manager ได้เลย

วิธีการติดตั้ง Google Analytics

การติดตั้ง Google Analytics มีด้วยกัน 2 วิธี ดังนี้

ติดตั้ง Tracking Code บนส่วน <head> ของเว็บไซต์

  1. เข้าไปยังส่วนของ Admin บน Google Analytics
  2. เลือก Tracking Info → Tracking Code


  3. Copy Code ด้านล่าง นำไปใส่ตรงส่วน <head> ของเว็บไซต์ได้เลย

 

ติดตั้งผ่าน Google Tag Manager (สำหรับท่านที่ใช้ Wordpress)

  1. ท่านใดที่ยังไม่ได้ติดตั้งปลั๊กอิน Google Tag Manager สามารถดูวิธีติดตั้งได้ที่ https://blog.ourgreenfish.com/google-tag-manager-wordpress-plugin?hs_preview=untiLDPv-12619795166
  2. เมื่อติดตั้ง Google Tag Manager เรียบร้อยแล้ว ให้เข้าไปที่หน้าของ Google Analytics คลิกที่ Admin → Tracking Code และกด Copy Tracking ID เก็บไว้ก่อน


  3. เข้าไปที่ Google Tag Manager เลือกเพิ่มแทร็ก แล้วกำหนดค่าแทร็ก


  4. จากนั้นให้ทำการเลือกแท็ก ให้เลือกที่ Universal Analytics ก่อน แล้วค่อยเลือกการกำหนดค่า GA4 และ เหตุการณ์ GA4


  5. เลือก Track Type เป็น Page View และเลือก New Variable นำ Tracking ID ที่ Copy ไว้มาวาง แล้วกดบันทึก


  6. หน้าต่อ ระบบจะให้เราเลือกว่า เราต้องการจะ Trigger หน้าไหนบ้าง ส่วนใหญ่จะเลือกเป็น All Page ทั้งเว็บไซต์ไปเลย


  7. กดบันทึก เสร็จแล้วกดปุ่ม Submit อีกครั้ง เป็นอันติดตั้งเสร็จเรียบร้อย

เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้ ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ใครที่ใช้ Wordpress อยากแนะนำให้ติดตั้งผ่าน Google Tag Manager จะดีกว่าติดตั้งบนส่วน <head> เพราะจะทำให้คุณสามารถเก็บและแทร็กข้อมูลทุกเครื่องมือไว้ในที่เดียวได้

 

เครื่องมือเด่น ๆ ใน Google Analytics ที่อยากแนะนำให้ใช้

Realtime

ฟังก์ชันนี้ เป็นฟังก์ชันที่ช่วยให้คุณสามารถดูผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ได้แบบเรียลไทม์ ดูได้ว่าตอนนี้ มีผู้ใช้งานอยู่บนเว็บไซต์กี่คน มาจากแหล่งไหนมากที่สุด ซึ่งข้อมูลที่โชว์จะเป็นข้อมูล ณ ปัจจุบัน ทำให้เราสามารถดูได้ว่า หน้าไหนที่ผู้ใช้งานกำลังให้ความสนใจอยู่ เพื่อที่จะได้ปรับหรือลงทุนกับหน้านั้นมากขึ้นเพื่อดึงผู้ใช้งานให้อยู่บนเว็บไซต์นานกว่าที่เคยได้

Acquisition

เป็นฟังก์ชันที่ทำให้คุณเห็นว่า คุณได้ User หรือ Traffic บนเว็บไซต์เท่าไหร่ มากน้อยเพียงได้ ข้อมูลที่ได้มานั้น มาจากทางไหนบ้าง ข้อมูลตรงนี้จะทำให้คุณสามารถไปปรับแผนการตลาดของคุณใหม่ ถ้าเจอว่า User หรือ Traffic เข้ามาแบบ Organic หรือแบบ Paid มากกว่า จะได้ลงทุนได้ถูกที่

Users

ส่วนที่เป็นข้อมูลของตัว User เอง โดยจะมีทั้งหมด 2 Section นั่นก็คือ Demographics ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานของ User เอง ไม่ว่าจะเป็น เพศ ช่วงอายุ พื้นที่ที่อาศัยอยู่ และอีก Section ก็คือ Tech ที่สามารถบอกได้ว่า User เข้ามาจากช่องทางไหน ใช้อุปกรณ์อะไรในการเข้าถึง ซึ่งข้อมูลทั้ง 2 อย่างนี้เป็นประโยชน์อย่างมากในการนำไปทำเป็นกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์ เพื่อทำการตลาดต่อไปในอนาคต

 

ถ้าใช้ Google Analytics อยู่แล้ว เปลี่ยนไปใช้ GA4 เลยดีไหม?

ถ้าตอนนี้ใช้ Google Analytics อยู่ แล้วอยากเปลี่ยนไปใช้ GA4 ขอบอกเลยว่าอย่าเพิ่งเลยดีกว่า เพราะอะไร? เพราะ GA4 นั้นเป็นเวอร์ชันที่ใหม่มาก ๆ และเป็นเวอร์ชันที่พัฒนามาจาก App and Web Property ซึ่งการทำงานนั้นยังไม่ครอบคลุมเท่า Universal Analytics สักเท่าไหร่ การเก็บข้อมูลก็ต่างกัน ดังนั้น อาจทำให้ผู้ที่เคยใช้เวอร์ชันเก่านั้นเกิดความสับสนในการดูข้อมูลได้ รีพอร์ทหลาย ๆ ตัวก็ไม่มีเหมือนตัว Universal Analytics แต่ถ้าคนที่พึ่งสมัครใช้งาน Google Analytics มา สามารถสมัครทั้ง 2 ตัวและทำงานควบคู่กันไปได้ อาจได้ข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมมาใช้ในการทำงานได้ แต่ถ้าถามว่าให้เปลี่ยนไปใช้ถาวรเลยดีไหม ก็คงต้องบอกว่าไว้รอเวอร์ชันเต็มที่ครบสมบูรณ์ก่อนค่อยเปลี่ยนไปใช้งานละกัน

ใครที่กำลังเริ่มต้นใช้งาน อยากสมัครและติดตั้งด้วยตัวเองสามารถทำตามวิธีข้างต้นได้เลย จะเห็นได้ว่าแต่ละขั้นตอนนั้นไม่ยากเลย และใช้เวลาสั้น ๆ เท่านั้น ก็สามารถเก็บข้อมูลที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์มาใช้วางแผนการตลาดของคุณต่อไปได้เลย

 

Supattra Ammaranon x Ourgreenfish