วางแผน Digital Marketing อาจเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากสักหน่อย แต่เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นการวางแผนแล้ว จำเป็นที่จะต้องใช้ความคิด ความเข้าใจในธุรกิจ รวมไปถึงความรู้ในด้าน Digital Marketing จำเป็นที่จะต้องใช้ศาสตร์เหล่านี้ร่วมกัน ถึงจะสามารถวางแผนได้อย่างรอบคอบ และเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
ทำไมถึงต้อง วางแผน Digital Marketing สำคัญแค่ไหน มีประโยชน์อะไรบ้าง
คำนิยามของ Digital Marketing นั้นจริง ๆ คือการใช้การตลาดผสมผสานกับเครื่องมือ ซึ่งการวางแผนนั้น จะมีขั้นตอนสำคัญอยู่ 4 หลักด้วยกัน
เป็นสิ่งแรกที่เจ้าของธุรกิจมีความเข้าใจสูงสุดอยู่แล้ว โดยเฉพาะธุรกิจที่ทำมานาน มีฐานลูกค้าพอสมควร จะรู้จากประสบการณ์ว่าลูกค้ามาจากช่องทางไหนมากที่สุด สินค้าและบริการชนิดนี้เป็นสั่งซื้อทางออนไลน์ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้จะมีวิธีไหนบ้างที่จะให้ลูกค้ามาที่หน้าร้าน ฯลฯ ซึ่งในแต่ละธุรกิจนั้น สินค้าและบริการมีความแตกต่างกัน ทำให้การวางแผน Digital Marketing ก็ย่อมแตกต่างกันออกไปด้วย
ยกตัวอย่างเช่น คุณทำธุรกิจร้านอาหาร AAA เป็นร้านบุฟเฟต์ชาบู โดยมีจุดแข็งอยู่ที่รสชาติอร่อย มีหลายเมนู คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา แต่มีจุดอ่อนอยู่ที่โลเคชัน มีเพียง 3 สาขา ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก และมีราคาต่อหัวสูงกว่าคู่แข่ง โดยลูกค้าที่นิยมมาที่ร้าน มักจะเป็นนักศึกษา จนถึงวัยทำงาน อายุไม่เกิน 45 ปี มาเป็นกลุ่ม อย่างน้อย 2 คนขึ้นไป ส่วนมากเป็นคนที่อยู่ในละแวกนั้น แต่ก็มีคนต่างถิ่นมาบ้าง เคยโปรโมตบน Facebook เอง แต่ก็ได้ผลตอบรับที่รู้สึกว่ายังไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร เพราะวัดผลได้ไม่ชัดเจนว่าลูกค้ามาจากออนไลน์เป็นจำนวนกี่คน
โฆษณา Facebook Traffic ปลดล็อก ใช้รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสรูปเดียวได้แล้ว
จุดมุ่งหมายของการวางแผนการตลาดครั้งนี้คืออะไร เช่น ต้องขายของให้ได้ สินค้าเป็นที่รู้จัก มีคนเข้ามาใช้บริการมากยิ่งขึ้น ต้องการคนลงทะเบียนเพิ่มมากขึ้น ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือเป้าหมาย และควรจะมีเป้าหมายเดียว เพราะถ้าตั้งเป้าหมายแบบรวม ๆ จะทำให้เราแยกความสำคัญของแต่ละเป้าหมายได้ไม่ชัดเจน และจะทำให้ไม่บรรลุเป้าหมายได้
ยกตัวอย่างต่อจากข้างบน สำหรับธุรกิจร้านอาหารชาบู AAA ต้องการให้มีคนมาทานที่ร้านมากขึ้น โดยใช้สื่อออนไลน์เป็นหลัก อย่างน้อยต้องมีคนมากินที่ร้านเพิ่มขึ้น 30% ในช่วงระยะเวลาที่ทำแคมเปญ
[How To] วิเคราะห์เว็บไซต์คู่แข่ง ง่ายๆ เพียงแค่ใช้ Similarweb.com
ทำ DIGITAL MARKETING อย่างไรให้ได้ผล โดยไม่ต้องรอให้โชคช่วย ก็ขายได้
ขั้นต่อมาคือการวางกลยุทธ์ ที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย การวางกลยุทธ์สามารถทำได้หลายรูปแบบในโลกออนไลน์ ซึ่งตัวแปรสำคัญคืองบประมาณในการทำการตลาด เราสามารถวางกลยุทธ์ให้อยู่ในงบประมาณได้ จากที่เราตั้งใจไว้
ยกตัวอย่างธุรกิจร้านอาหารชาบู AAA จะเน้นใช้กลยุทธ์ Influencer แต่เนื่องจากมีงบประมาณจำกัดในการทำแคมเปญนี้เพียง 200,000 บาท จึงไม่สามารถใช้ Influencer จำนวนมากได้ และยังต้องการโปรโมตเอง เพื่อสร้างการรับรู้โดยทั่วไป เน้นคนที่อยู่ใกล้บริเวณสาขา ซึ่งจะจัดโปรโมชันพิเศษ มา 3 จ่าย 2 สามารถใช้โปรโมชันได้ทุกวัน ทุกเวลา จนกว่าจะสิ้นสุดโปรโมชัน เพื่อให้กลยุทธ์นี้ตอบโจทย์เป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้
สุดท้ายคือการเลือกเครื่องมือ และการวัดผล KPI ที่จะได้ การเลือกเครื่องมือก็ต้องทำให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่เราจะใช้ เครื่องมือ Digital Marketing มีมากมาย ซึ่งเราต้องนำมาปรับใช้ให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น Social Media, Google Ads, Taboola, Influencer ฯลฯ ส่วน KPI คือสิ่งที่วัดผลว่าแคมเปญที่เราทำนั้นดีอย่างไร เช่น Reach, Impressions, Engagement, Click, Conversions ฯลฯ
ตัวอย่างธุรกิจร้านอาหารชาบู AAA จะใช้ Influencer ทั้งหมด 2 เจ้า และ Social Media ชื่อดังอย่าง Facebook, Instagram สำหรับการทำแคมเปญในครั้งนี้ ซึ่ง Influencer มาถ่ายทำและโปรโมตร้านให้ โดยใช้โค้ดส่วนลด มา 3 จ่าย 2 ซึ่ง Influencer จะได้รับโค้ดส่วนลดที่แตกต่างกัน เพราะจะสามารถวัดได้ว่า มีคนเข้ามาจาก Influencer รายใดมากกว่ากัน ส่วนการโปรโมตบน Facebook และ Instagram ทางร้านจะดำเนินการโปรโมตเอง ซึ่งใช้โค้ดส่วนลดที่ไม่เหมือนกับ Influencer เช่นกัน เมื่อจบแคมเปญนี้จะวัดได้ทันทีว่า มีคนมาใช้โปรโมชันจากทางไหนมากที่สุด
ตั้ง KPI DIGITAL MARKETING อย่างไรดี ถึงจะเหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ
Marketing Automation คืออะไร ช่วยอะไรคุณได้บ้างในการทำ Digital Marketing
เทคนิคการรับมือกับ DISRUPTIVE CHALLENGER: คู่แข่งที่คุณต้องรู้ในยุคดิจิทัล
จะเห็นได้ว่า การวางแผน Digital Marketing มีลำดับขั้นตอน คือต้องตั้งเป้าหมายก่อน ตามมาด้วยกลยุทธ์ สุดท้ายคือการวัดผล KPI ซึ่งจะช่วยทำให้การวางแผนเป็นไปอย่างง่ายดายขึ้นนั่นเอง
Thanakarn Lertsudwichai X Ourgreenfish