Digital Blog - Ourgreenfish

Topic Cluster ตัวช่วยเพิ่มโอกาสติดอันดับบน Search Engine

เขียนโดย สุพัตรา อัมรานนท์ - 23 มิ.ย. 2020, 3:00:00

การทำ SEO (Search Engine Optimization) มีความสำคัญต่อบทความและเว็บไซต์คุณ ถ้าอยากให้บทความขึ้นไปอยู่อันดับแรก ๆ ของหน้า Search Engine ต้องเริ่มนำกลยุทธ์การทำ SEO เข้ามาใช้ แต่หลาย ๆ คนก็รู้จักและนำมาใช้กันเยอะมากขึ้น แต่กลยุทธ์ SEO มีมากมายหลายวิธี และอีกวิธีหนึ่งที่อยากแนะนำให้รู้จักและช่วยให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นคือ Topic Cluster

Topic Cluster เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้การจัดหมวดหมู่ของบทความสำหรับการทำ SEO นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการขึ้นไปอยู่ในอันดับต้น ๆ ของหน้าแรกบน Search Engine และยังช่วยเพิ่ม Traffic เข้าสู่เว็บไซต์ได้อีกด้วย เว็บไซต์ที่มีการทำ Content Marketing ส่วนใหญ่จะรู้จักเครื่องมือนี้เป็นอย่างดี แต่ก่อนที่จะเริ่มต้นทำ Topic Cluster ควรมีการวางแผน จัดการกับบทความเหล่านั้นของคุณก่อน ว่าต้องมีบทความกี่ประเภท แต่ละบทความควรไปอยู่หมวดหมู่ไหน ดังนั้นมาทำความรู้จักหลักของการจัดกลุ่ม ซึ่งมีด้วยกัน 2 ประเภท ดังนี้

  1. Pillar Content คอนเทนต์หลัก ที่ได้คัดเลือกมาแล้วว่าคอนเทนต์นี้เป็นคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาดึงดูดและน่าสนใจ สามารถทำให้เกิดการกระทำต่อจากนี้ได้ เปลี่ยนให้ผู้อ่านมาเป็น Lead โดยปกติแล้วใน 1 Topic Cluster จะมี Pillar Content ได้เพียง 1 คอนเทนต์เท่านั้น ซึ่งในแต่ละบทความหลักควรจะมีการนำเสนอบริการ ในรูปแบบต่าง ๆ ที่ทำให้ได้ข้อมูลมาเพื่อนำไปใช้ทำการตลาดต่อได้
  2. Clusters Content คอนเทนต์ที่คอยเสริมความรู้ความเข้าใจเพิ่มเติมจากคอนเทนต์หลัก เนื้อหาเป็นประโยชน์และเอื้อต่อคอนเทนต์หลัก สามารถใส่ลิงก์เพื่อเชื่อมโยงระหว่างตัว Clusters Content กับตัว Pillar Content นอกจากนี้ยังต้องเป็นคอนเทนต์ที่อยู่ในหมวดหมู่เดียวกันด้วย  

Topic Cluster ทำงานอย่างไร?

ก่อนอื่นอย่างที่ได้บอกไปข้างต้นว่าต้องมีการวางแผนจัดหมวดหมู่ด้วยตัวเองก่อน แบ่งให้ชัดเจน ว่าต้องการให้คอนเทนต์แนวนี้อยู่ในหมวดหมู่ไหน หลังจากนั้น ลองมองหาเครื่องมือที่ช่วยในการทำ Topic Cluster ในทีนี้จะพูดถึง HubSpot ซอฟต์แวร์ที่ช่วยทำ Marketing Automation และ Sales Automation ซึ่งมีเครื่องมือสำหรับการทำท็อปปิกคลัสเตอร์โดยเฉพาะ

จากรูปจะเห็นว่า Pillar Content มักจะอยู่ตรงกลางและเชื่อมต่อกับ Clusters Content ด้วยไฮเปอร์ลิงก์ ส่วนไฮเปอร์ลิงก์นี่แหละคือส่วนสำคัญ เพราะถ้าหากว่าลิงก์ของทั้งสองไม่เชื่อมต่อกัน ก็จะไม่เกิดผลลัพธ์ใด ๆ ตามมาทั้งนั้น ดังนั้นในคอนเทนต์หลักก็จำเป็นจะต้องมีลิงก์ของตัวคลัสเตอร์คอนเทนต์อยู่ด้วย

ประโยชน์ของการทำ Topic Cluster

ถึงตรงนี้ จะมาพูดเกี่ยวกับประโยชน์ของการทำ Topic Cluster ซึ่งมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

  1. เพิ่ม Traffic ให้เว็บไซต์มากขึ้น
    นี่เป็นเครื่องมือที่ดีมาก ๆ สำหรับการเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์ สมมติหากผู้อ่านค้นหาเจอคอนเทนต์หลัก ก็จะเจอคอนเทนต์อื่น ๆ ที่เชื่อมไว้ในคลัสเตอร์เดียวกันและโอกาสที่ผู้อ่านจะคลิกเพื่ออ่านต่อก็มีสูง ซึ่งจะช่วยให้เกิด Traffic บนเว็บไซต์ได้อย่างดี
  2. อัตรา Bounce Rate ลดลง
    พอมีโอกาสในการคลิกคอนเทนต์ที่ได้ทำคลัสเตอร์ไว้สูง ทำให้อัตราการเกิด Bounce Rate ลดลง ผู้อ่านเมื่ออ่านคอนเทนต์จบจะไม่ปิดหน้าเว็บไซต์ในทันที แต่อาจกดอ่านคอนเทนต์ต่อไปที่แสดงบนหน้านั้น ๆ
  3. เพิ่มโอกาสในการขาย
    ขณะที่วางแผนจัดหมวดหมู่คอนเทนต์ ก็ต้องมีการวางแผนไว้อยู่แล้วว่าจะนำคอนเทนต์ไหนมาเป็น Pillar และคอนเทนต์นั้นต้องเป็นคอนเทนต์ที่สามารถเปลี่ยนผู้อ่านให้มาเป็นลูกค้าได้และคอนเทนต์อื่น ๆ ที่เป็นคลัสเตอร์ ก็เป็นคอนเทนต์ที่ดึงดูดผู้อ่านได้เช่นกัน ดังนั้นการที่จะเพิ่มโอกาสในการขายจึงไม่ใช่เรื่องยาก 
  4. โอกาสในการติดอันดับบนหน้า Search Engine มากขึ้น
    เรื่องที่ผู้ที่ทำ SEO ให้ความสำคัญและการทำ Topic Cluster ก็เข้ามาช่วยให้เรื่องนี้ได้ดีทีเดียว ถ้าเกิดคอนเทนต์ใดคอนเทนต์หนึ่งในคลัสเตอร์ติดอันดับและมีผู้เข้ามาอ่านเยอะ ก็จะช่วยกระจาย Traffic ไปยังคอนเทนต์อื่น ๆ ได้ ส่งผลให้มีโอกาสในการติดอันดับบนหน้า Search Engine ได้ดีมากยิ่งขึ้น

แต่ Topic Cluster ก็แอบมีข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ ตรงที่เมื่อสร้างขึ้นมาแล้ว ต้องคอยมาเช็กอยู่เสมอ ๆ ว่าลิงก์ยังเชื่อมกันอยู่ไหม เมื่อมีคอนเทนต์ใหม่มา ก็ต้องมาเพิ่มเข้าไปยังคลัสเตอร์ของหมวดหมู่ที่แบ่งไว้ อาจทำให้เสียเวลา แต่เมื่อผลลัพธ์ออกมา ก็จะคุ้มค่ากับสิ่งที่ทำ เพราะอย่างไร วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีสำหรับผู้ที่ทำการตลาดด้วยกลยุทธ์ SEO และ Inbound Marketing

 

 

Supattra Ammaranon x Ourgreenfish