Digital Blog - Ourgreenfish

SEO vs PPC คืออะไร? วิธีไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน

Written by สุพัตรา อัมรานนท์ | 29 ธ.ค. 2020, 4:34:53

อยากสร้าง Traffic ให้กับเว็บไซต์ มีผู้เข้าชมให้มากกว่าเดิม จะใช้วิธีไหนถึงจะช่วยในส่วนนี้ได้? SEO และ PPC เป็นอีกหนึ่งวิธีของการทำ Digital Marketing ที่ช่วยให้มีการเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น แม้จะมีวิธีอื่น ๆ มากมาย แต่ 2 วิธีนี้ยังถือได้ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดอยู่ดี แต่ก่อนที่จะมาดูกันว่าทั้ง 2 วิธีนี้ วิธีไหนจะดีกว่ากันหรือวิธีไหนที่ใช้บ่อยกว่ากัน เราควรทำความเข้าใจถึงกระบวนการทำงานและวิธีใช้งานของมันกันก่อนตัดสินใจใช้งาน เพื่อให้ได้ใช้วิธีที่เหมาะสมกับเว็บไซต์คุณมากที่สุด

SEO คืออะไร

SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นวิธีที่คุณจะได้รับการเข้าชมที่มีคุณภาพต่อเว็บไซต์ แม้กระบวนการนี้จะใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าที่จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่คุณจะเห็นได้เลยว่าผลลัพธ์ที่ออกมานั้นจะน่าพอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งการทำ SEO จะไต่ระดับเว็บไซต์ของคุณตามคะแนนที่วัดโดยอัลกอริทึมของ Google ซึ่งตรงนี้ก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป

จุดเด่นของ SEO

  • ทำได้ฟรี ไม่ต้องเสียเงิน
    การใช้งาน SEO นั้นสามารถทำได้ฟรีไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น หากคุณยินยอมที่เสียเวลาในการค้นหา Keyword ที่ดีที่สุดและใช้ประโยชน์จากคำเหล่านั้นสำหรับเว็บไซต์ของคุณ โดยการหา Keyword นั้นทำได้ง่าย เพราะในปัจจุบันมีเครื่องมือที่สามารถช่วย Research คำเหล่านั้นได้มากมาย ช่วยให้คุณหา Keyword ได้เหมาะสมกับเว็บไซต์คุณมากที่สุดด้วย
  • มีความน่าเชื่อถือ
    ถ้าหากเว็บไซต์ของคุณได้รับการจัดอยู่ใน 2-3 อันดับหน้าแรกแล้ว เว็บไซต์ของคุณจะได้รับความน่าเชื่อถืออย่างมากในตลาด แสดงให้เห็นว่ามีผู้เข้าชมเว็บไซต์คุณเป็นอย่างมาก แต่ถ้าหากเว็บไซต์ของคุณไปอยู่ในอันดับล่าง ๆ อาจทำให้ตวามน่าเชื่อถือนั้นลดน้อยลงไปเลย
  • ทำ Local Name
    คุณสามารถใช้ SEO ในการเข้าถึง Local และใช้เครื่องมือสำหรับ Local อย่าง Google My Business ได้ เพื่อให้คนในพื้นที่นั้น ๆ สามารถค้นหาคุณเจอ แถมยังเพิ่มการเข้าชมที่แปลภาษาท้องถิ่นได้ด้วย
  • เติบโตอย่างแน่นอน
    และอย่างที่ทราบกันดีว่าถ้าหากเว็บไซต์ที่คุณทำ SEO ได้ไต่ไปอยู่ในอันดับแรก ๆ แล้ว อันดับของคุณก็จะอยู่แบบนั้นได้นาน แม้ว่าคุณจะเลิกทำเว็บไซต์นั้นแล้ว คุณก็จะยังรักษาระดับไว้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง

จุดด้อยของ SEO

  • ใช้เวลานาน
    แม้จะใช้งานได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่ก็ต้องแลกกับระยะเวลาที่ยาวนานในการทำ ส่วนมากใช้เวลากันหลายเดือนในการพยายามที่จะให้เกิดการรับชมมากขึ้นก่อนที่จะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ถ้าหากคุณต้องการจะให้ได้ผลลัพธ์ในหน้าแรกทันที SEO อาจไม่ใช่วิธีที่ตอบโจทย์การทำงานของคุณ
  • ไม่มีสิ่งที่การันตีว่าจะได้ผล
    ไม่ได้มีอะไรมาการันตีว่า ถ้าหากแคมเปญนี้คุณทำ SEO แล้ว จะได้ผลลัพธ์ที่ดีถ้าหากคุณไม่ลงมือทำเลยทันที อย่างที่ทราบว่า SEO นั้นใช้เวลาในการทำยาวนาน และความยาวนานนั้นอาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจก็ได้ ดังนั้น หากต้องการที่จะทำ SEO จริง ๆ คุณจึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการศึกษาเรื่องนี้พอสมควร

PPC คืออะไร

PPC หรือ Pay Per Click การจ่ายแบบต่อคลิกที่คุณจะได้ผลลัพธ์ทันทีที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ค้นหา Keyword นั้น สามารถแสดงโฆษณาถัดจากคำค้นหา แต่คุณจะต้องจ่ายก็ต่อเมื่อมีคนคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์ของคุณ ส่วนใหญ่ธุรกิจที่ต้องการได้ผลลัพธ์ทันที ไม่ต้องการรอนาน ๆ มักจะใช้วิธีนี้ในการโปรโมทเว็บไซต์ของตัวเอง

จุดเด่นของ PPC

  • เห็นผลลัพธ์ทันที
    นี่คือเหตุผลที่ทำให้หลาย ๆ บริษัทเลือกที่จะใช้ PPC เนื่องจากว่าเป็นวิธีที่ทำให้คุณเห็นผลลัพธ์ทันที แตกต่างจาก SEO ที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะติดอันดับแรก ๆ ของหน้าการค้นหา แถมยังช่วยให้คุณเข้าถึงเป้าหมายที่ต้องการเข้าเว็บไซต์คุณได้อย่างตรงจุด
  • เข้าถึงเป้าหมายของคุณ
    อย่างที่บอกว่า PPC สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการได้ทันที แต่ไม่เพียงกำหนดสถานที่ตั้งของผู้ใช้ได้ แต่สามารถเจาะข้อมูลเชิงลึกอย่างอายุหรือรายได้ของพวกเขาเหล่านั้น เพียงแต่ว่าถ้าต้องการเข้าถึงส่วนนั้น ต้องเสียเงินเพิ่มเพียงเท่านั้นเอง
  • ทุกคนจะเห็นแบรนด์ของคุณ
    ไม่ว่าใครก็ตามที่ค้นหา Keyword ที่เกี่ยวข้องก็จะได้เห็นเว็บไซต์ของคุณในอันดับต้น ๆ ของการค้นหาทันที ช่วยเพิ่มการมองเห็นของแบรนด์และส่งเสริมเว็บไซต์ของคุณ

จุดด้อยของ PPC

  • ราคาสูง
    เมื่อเทียบกับ SEO ที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว ก็นับว่าแพงอยู่ทีเดียว คุณจะต้องจ่ายเงินทุกครั้งที่มีคนกดคลิกเข้าเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ได้มีงบประมาณมากพอสำหรับการลงทุนในตรงนี้ วิธีนี้อาจจะไม่เหมาะ
  • เสียเงินโฆษณา โดยไม่ได้ผลลัพธ์กลับมา
    ในบางครั้ง โฆษณาของคุณอาจโชว์ในหน้าแรกจริง มีผู้เข้าชมคลิกมาจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเขาคลิกเข้ามาในเว็บไซต์คุณแล้ว เขาจะทำอะไรต่อหรือเขาจะซื้อสินค้าของคุณต่อ ดังนั้น การที่คุณลงทุนจ่ายค่าโฆษณาไป บางทีคุณอาจไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังไว้ก็ได้เช่นกัน

จะเห็นได้ว่าทั้ง SEO และ PPC นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป แต่ก็พอจะบอกผู้อ่านทุกคนได้ทันทีแหละว่า วิธีไหนที่เหมาะกับเว็บไซต์หรือธุรกิจของคุณมากกว่ากัน บางทีอาจจะเหมาะทั้งสองอย่างแต่ก็คนละแคมเปญ อาจจะเป็นไปได้ ถ้าหากว่าเรานำไปปรับใช้และทดลองดูทั้ง 2 วิธี ในวันนึงคุณอาจจะเจอแนวทางที่เหมาะสมและดีที่สุดกับธุรกิจคุณเพียงแค่วิธีเดียวเลยก็ได้ ทั้ง SEO และ PPC ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องที่ทุกธุรกิจจำเป็นต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจการทำงานของมัน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด

 

ที่มา : [1]