ความเข้าใจผิด Digital Marketing นั้นมีอยู่มากมาย แต่ในประสบการณ์ของผู้เขียนที่เคยเจอมา มีความเข้าใจผิดอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทางคนที่จะเริ่มศึกษา หรือทำอาชีพ Digital Marketing ในเบื้องต้น หรือแม้กระทั่งคนทั่วไป ลองมาอ่านกันดูว่า ตรงกับสิ่งที่คิดกันไว้หรือไม่
เข้าใจอยู่ว่าการทำ Digital Marketing ย่อมเป็นที่คาดหวังผลลัพธ์เป็นเรื่องธรรมดา แต่การคาดหวังควรเป็นในด้านของ Results และวัดด้วย KPI มาตั้งแต่ต้น แต่ถ้าหากคิดว่าการทำ Digital Marketing จะทำให้คุณรวยแบบไม่รู้เรื่อง สินค้าขายดีถล่มทลาย โดยที่ไม่ได้วางแผนอะไรเลย นับว่าเป็นการคาดหวังที่ดูเลื่อนลอยมากเกินไป หรือแม้กระทั่งคิดว่าจะมี Results ที่การันตี ROI (Return of investment) ก็แทบที่จะเป็นไปไม่ได้เลย อย่างมากก็อาจเป็นเพียงการพยากรณ์ KPI เท่านั้น
การที่สินค้าจะขายได้ นอกเหนือจะวางแผนเกี่ยวกับ Digital Marketing เป็นอย่างดีแล้ว ยังต้องมีสินค้าและบริการหลังการขายที่ดี และยังคงต้องวางแผนธุรกิจเป็นอย่างดีเช่นกัน จะมาฝากความหวังทั้งหมดกับ Digital Marketing เพียงอย่างเดียวก็อาจไม่ตอบโจทย์เท่าไรนัก
การทำ Digital Marketing ก็ย่อมคล้ายกับการทำการตลาดแบบดั้งเดิม นั่นคือมีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายโดยตรง เช่นการเช่าป้ายบิลบอร์ด การซื้อสื่อออฟไลน์ หรือการซื้อสื่อออนไลน์ โดยการใช้เครื่องมืออย่างเช่น Facebook Ads, Google Ads หรือ Native Ads ก็ตาม ยังไม่รวมไปถึงค่าโปรดักชันต่าง ๆ เช่นการทำวิดีโอ หรือการทำแบนเนอร์ ต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายโดยตรงที่มากที่สุดของการทำการตลาดทีเดียว
ส่วนค่าใช้จ่ายแฝงของการทำ Digital Marketing ที่หลายคนนึกไม่ถึงคือค่าจ้างพนักงานที่มีความรู้เกี่ยวกับ Digital Marketing ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด แต่ใช่ว่าจะจ้างเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการทำ Content Marketing ซึ่งต้องมีนักเขียน การทำรูปภาพกราฟิก ก็ต้องมีตำแหน่งกราฟิก หรือการทำตัดต่อวิดีโอ รวมไปถึงการทำเว็บไซต์ ก็ย่อมต้องมี Web Developer ซึ่งในทีม Digital Marketing เรียกได้ว่าเป็นทีมใหญ่เลยทีเดียว ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงเช่นกัน
เรียน Digital Marketing สำหรับบุคคลทั่วไป ควรเลือกจากอะไร
แน่นอนว่าการใช้เงินมากเพื่อการใช้เงินบนในเครื่องมือต่าง ๆ ย่อมได้ผลมากขึ้น สามารถเร่งเวลาได้ถ้าหากคุณมีงบประมาณที่มากพอ แต่ในบางกลยุทธ์จำเป็นที่จะต้องใช้เวลา เช่นการทำ Search Engine Optimization หรือที่เรารู้จักกันว่า SEO จำเป็นที่จะต้องทำคอนเทนต์ในเว็บไซต์เป็นจำนวนมาก และต้องมีทิศทางที่ชัดเจน ไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีภายใน 1-2 เดือน ขั้นต่ำอย่างน้อยใช้ระยะเวลา 6 เดือนขึ้นไป กว่าจะเริ่มเห็นผล ทำให้หลายคนถอดใจไปก่อน เพราะเห็นผลได้ช้านั่นเอง
หรือการทำให้แบรนด์เป็นที่ไว้วางใจ จำเป็นที่ต้องสั่งสมชื่อเสียงเป็นระยะเวลายาวนาน แบรนด์ที่เกิดใหม่จะยังไม่เป็นที่รู้จักกับผู้บริโภค ทำให้ความไว้วางใจมีไม่สูงเท่าแบรนด์ที่เกิดมานาน ดังนั้นการสร้างแบรนด์ หรือการทำการตลาดในบางวิธี จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาเช่นเดียวกัน
อยากให้ทุกคนได้เข้าใจของการทำ Digital Marketing ว่าจุดประสงค์การทำ Digital Marketing ที่แท้จริงนั้นคืออะไร จากนั้นจึงวัดความสำเร็จด้วยการใช้ KPI ที่เหมาะสมของแต่ละธุรกิจ และมองว่า Digital Marketing เป็นอีกหนึ่งวิธีการทำการตลาดในอีกรูปแบบหนึ่งเท่านั้น ยังคงจำเป็นที่จะต้องทำการตลาดแบบออฟไลน์ควบคู่กันไปด้วย
Thanakarn Lertsudwichai x Ourgreenfish