จัดกลุ่ม Keyword ใน Google Ads ส่วนของ Paid Search นั้น หลายคนอาจลองถูกลองผิด เพื่อค้นหาคำที่ใช่ คำที่ตอบโจทย์ ซึ่งประสบการณ์เป็นสิ่งที่คอยจะช่วยสอนเราว่าคีย์เวิร์ดแบบไหนดีหรือไม่ดี แต่ที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการวางแผนในการเลือกคีย์เวิร์ด หลายคนอาจสงสัยว่าแค่เลือกคีย์เวิร์ดจำเป็นต้องวางแผนด้วยหรือ? คำตอบคือใช่ และเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะการวางแผนและเลือกคีย์เวิร์ดที่ดี จะช่วยทำให้เพิ่มอัตราการคลิก (CTR) ปริมาณการคลิก และคุณภาพของลูกค้าได้อีกด้วย มาดูกันว่าเคล็ดลับอะไรบ้าง ที่จะช่วยให้โฆษณา Paid Search ของคุณดีขึ้นทันตา
สำหรับมือใหม่เข้าใจเป็นเป็นเรื่องตืนตาตื่นใจในการเลือกคีย์เวิร์ด คำนั้นก็ดีคำนี้ก็ใช่ เลยจัดมาให้หมดลงพร้อมกันในแคมเปญเดียว บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ก็จริง แต่ไม่แนะนำให้ทำมากนัก เนื่องจากขยำรวมทุกคีย์เวิร์ดรวมกัน ถึงแม้จะเกี่ยวข้องกันก็ตาม จะทำให้ CTR ของคุณลดลง คีย์เวิร์ดสะเปะสะปะ วัดอะไรแน่นอนไม่ค่อยได้ ดังนั้นควรจัดกลุ่มคีย์เวิร์ด จะแยกออกมาเป็นในแต่ละแคมเปญก็ได้ เพื่อให้ใช้งบแยกขาดออกจากกัน เมื่อจัดกลุ่มคีย์เวิร์ดแล้ว ทำให้คุณวัดผลได้อย่างชัดเจนมากขึ้นว่า คีย์เวิร์ดแบบไหนได้ผลตอบรับที่ดีและมีคนซื้อสินค้า
ยกตัวอย่างเช่นคุณเป็นร้านแว่นตาแล้วคุณลองดูว่าคุณใส่คีย์เวิร์ดแบบนี้
จะเห็นได้ว่าแบบที่ 2 นั้น แบ่งตามหมวดหมู่สินค้าและบริการ รวมไปถึงการซื้อชื่อร้านของคู่แข่ง คุณจะสามารถแยกผลได้ออกมาอย่างชัดเจน ว่ากลุ่มไหนดีหรือไม่ และคุณยังสามารถจัดสรรงบประมาณของแต่ละแคมเปญได้อีกด้วย
เรียน Digital Marketing สำหรับบุคคลทั่วไป ควรเลือกจากอะไร
การคิดคีย์เวิร์ดอาจดูเป็นเรื่องที่น่าปวดหัว ในช่วงแรกคุณอาจมีแรงคิดมากถึง 50-100 คำ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พอคุณจัดกลุ่มคำ และเข้าใจเลือก Match Type ของ Keywords แต่ละประเภทแล้ว ในหนึ่งแคมเปญคุณอาจจะซื้อคีย์เวิร์ดเพียงแค่ 10 คำเท่านั้นเอง ไม่จำเป็นต้องซื้อคำมาก ๆ อีกต่อไปลองดูกลุ่มคำตัวอย่างต่อไปนี้
จะเห็นว่าการใช้คีย์ดเวิร์ดแบบที่ 2 นั้น แทบจะครอบคลุมทดแทนการซื้อคีย์เวิร์ดแบบคำแรกได้แทบทั้งหมด คิดง่ายกว่าเดิม และซื้อคำน้อยลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด สุดท้ายก็อย่าลืมศึกษาเรื่อง Negative Keyword ไว้ด้วย เพราะจะช่วยคัดกรองคำที่ไม่ใช่ออกไป ช่วยเสิร์ฟโฆษณาของเราให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
เมื่อจัดกลุ่มคีย์เวิร์ดและศึกษาเรื่องประเภทของคีย์เวิร์ดแล้ว ก็อย่าลืมใช้ Keyword Planner ให้เกิดประโยชน์ เพราะจะช่วยทำให้เรารู้ราคา Bid อย่างคร่าว ๆ ได้ เพราะถ้าเราไม่รู้ราคา Bid แล้ว Bid ที่ราคาต่ำเกินไป แน่นอนว่าโฆษณาทั้งหมดของเราจะไม่แสดง ที่วางแผนมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า พอเราจัดกลุ่มคีย์เวิร์ดได้แล้ว อัตราการ Bid ของแต่ละแคมเปญก็จะต่างกันออกไป ซึ่งทำให้เราคอยควบคุมได้ ถ้ารู้สึกว่าต้องการให้แคมเปญไหนมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ อาจจะ Bid ให้มากขึ้นที่แคมเปญ หรือจะเลือกเฉพาะบาง Ad Group หรือบางคีย์เวิร์ดก็ย่อมได้
แค่เพียงทำโฆษณา Paid Search จดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้วจำเป็นที่จะต้องเริ่มจากแนวคิดก่อน ถึงจะเริ่มลงลึกไปยังเครื่องมือ เพราะถึงแม้ว่าจะใช้เครื่องมือเป็น แต่ขาดการวางแผนและจัดระเบียบความคิดที่ดี จะทำให้โฆษณาที่เราทำอาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพได้
Thanakarn Lertsudwichai x Ourgreenfish