การทำ Digital Marketing ไมใช่แค่การเปิดเพจเฟซบุ๊กแล้วยิงแอดอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีองค์ประกอบอีกหลายอย่างที่เราต้องนำมาเป็นส่วนผสมในการทำการตลาด ซึ่งต้องนำความรู้พื้นฐานด้านการตลาดมาประยุกต์ใช้กับเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อช่วยขับเคลื่อนกลยุทธ์ของเราให้ไปสู่เป้าหมายได้ โดยมี 6 แทคติกด้าน Digital Marketing ที่เราทุกคนรู้ก่อนที่จะลงมือทำการตลาดในยุคดิจิทัล
โซเชียลมีเดีย คือช่องทางโฆษณายอดนิยมของกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ เพราะโซเชียลมีเดียคือพื้นที่ที่รวมเอาผู้บริโภคทั่วโลกไว้ด้วยกัน เรามีหน้าที่เข้าไปประกาศตัวตนบนแพลตฟอร์ต่าง ๆ เพื่อให้เป็นที่รู้จเกมากขึ้น โดยโซเชียลมีเดียที่เป็นช่องทางที่สำคัญต่อการทำการตลาดในประเทศไทย ได้แก่ Facebook, Instagram, Twitter, YouTube และ Line นอกจากโซเชียลมีเดียจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดแล้ว นักการตลาดยังใช้โซเชียลมีเดียจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ เป็นแทคติกในการดึงกลุ่มเป้าหมายเข้ามาชมเว็บไซต์หลักของตัวเองอีกด้วย และเก็บข้อมูลลูกค้าเข้ามาในระบบ และใช้สื่อสารกับลูกค้าเก่าและหาลูกค้าใหม่ได้เสมอด้วยการทำแอดโฆษณา หากวันนี้ธุรกิจของใครยังมีกลยุทธ์การตลาดบนโซเชียลมีเดียไม่แข็งแรงพอแนะนำให้เรียนรู้ให้มากขึ้นศึกษาดูการงานของคู่แข่งหรือหาที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อสร้างกลยุทธ์ในการทำ Digital Marketing Plan ที่เหมาะสมกับธุรกิจของเรา
Content Marketing คือหัวใจสำคัญของการทำการตลาด เพราะเนื้อหาการตลาดสามารถดึงดูดลูกค้าเข้ามาติดตามและสนใจสินค้าหรือบริการได้ อาจจะเป็น Blog, Video, E-Books หรือโพสต์ที่เผยแพร่ตามสื่อต่าง ๆ เช่นเดียวกับภาพกราฟิกที่ต้องสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจได้ในภาพเดียว คอนเทนต์ที่ดีต้องสามารถช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาของลูกค้าได้ เช่น ช่วยให้ความรู้กับลูกค้าในเรื่องที่พวกเขากำลังหาคำตอบอยู่ การทำคอนเทนต์คือหัวใจสำคัญที่จะเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาสอบถามซื้อสินค้าหรือบริการ โดยเทคนิคในการทำคอนเทนต์เราจะต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี ว่าลูกค้าของเรามีปัญหาเรื่องอะไร ต้องการสินค้าหรือบริการแบบไหน ลูกค้าที่รู้จักแบรนด์แต่ยังไม่เคยซื้อต้องนำเสนอคอนเทนต์แบบไหน ลูกค้าที่มีแนวโน้มที่จะซื้อต้องทำคอนเทนต์แบบไหนส่งไปให้เขา นอกจากมีเนื้อหาที่ดีแล้ว เราต้องวางแผนทำคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอด้วย อย่าห่างหายไปนานจนลูกค้าลืมเรา ดังนั้น การเพาะปลูกคอนเทนต์ที่มีประโยชน์อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการเขียนบทความลงเว็บไซต์ก็สามารถกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ในอนาคต
หากธุรกิจของเรามีเว็บไซต์และต้องการให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาบน Google การทำ SEO คือสิ่งจำเป็นมาก ๆ ต่อการเพิ่มโอกาสให้คนค้นหาเว็บไซต์ของเราเจอได้ง่าย ๆ การปรับปรุงเว็บไซต์และเนื้อหาบนเว็บไซต์ คืออีกหนึ่งเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญในการทำการตลาดสมัยใหม่ และเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ สำหรับนักการตลาดที่ต้องมีทักษะด้าน SEO เพราะกลยุทธ์การทำคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพบนเว็บไซต์นั้นไม่ใช่เพียงแค่คิด Topic และเขียนบทความเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จะต้องเริ่มศึกษาถึงเทรนด์การค้นหาและปรับปรุงบทความเดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
อีเมล คือเครื่องมือที่ยังคงจำเป็นสำหรับการทำการตลาดในยุคนี้ ยิ่งคนส่วนใหญ่ในยุคนี้มีอีเมลส่วนตัวกันทุกคน ก็จะยิ่งส่งผลให้การทำการตลาดด้วยอีเมลเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ B2B หรือ B2C ต่างต้องใช้อีเมลในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับลูกค้า เช่น ดาวน์โหลด E-Book หรือเป็นข้อมูลที่กระตุ้นให้คลิกต่อไปที่เว็บไซต์ ยิ่งเป็นเนื้อหาแบบเจาะจงบุคคลมากเท่าไหร่ Email Marketing ยิ่งจำเป็นมาก ๆ เพราะนักการตลาดมักจะใช้อีเมลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการทำ Personalization Marketing เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีและสร้างโอกาสในการขายในระยะยาว
คือลักษณะของโฆษณาที่ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงการขายเพียงอย่างเดียว ซึ่งบางโฆษณาหรือบางบทความไม่ได้มีลักษณะที่แสดงให้เห็นว่ากำลังโฆษณา แต่เป็นเหมือนข้อมูลที่เป็นประโยชน์และให้ข้อมูลด้านการศึกษาที่ตรงกับเว็บไซต์หรือสินค้าของเรา หากเราอยากทำการตลาดให้ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายมาติดตามบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Twitter, Facebook, LinkedIn และ Instagram, และจากการค้นหา Blog บน Google เราสามารถทำ Native Ads ได้ 2 ประเภท คือ Sale Content ที่เกี่ยวกับสินค้าและบริการ หรือ None Sale-Content ที่เน้นเนื้อหาสาระมากกว่าการขายแบบ Hard Sale ข้อดีของ Native Ads คือมีอัตราการคลิกสูง และยังเป็นการคลิกที่มีคุณภาพอีกด้วย เพราะกลุ่มเป้าหมายตั้งใจเข้าไปอ่านเนื้อหาโดยตรง
อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของการทำการตลาดในยุคนี้คือ Retargeted Ads เป็นวิธีการจัดการข้อมูลอย่างชาญฉลาด โดยเรานำข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่มาทำ Retargeted Ads เหมือนวิธีการที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วคือการยิงโฆษณาไปหากลุ่มลูกค้าที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเรา เช่น คนที่เคยเข้ามาดูเว็บไซต์ คนที่เคยทำการคลิกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Like Comment Share จากโพสต์ในโซเชียลมีเดีย หรือการทำ CRM ดึงข้อมูลลูกค้าที่อยู่ในระบบมาทำ Remarketing ก็สามารถทำได้ เพื่อให้คนที่คุ้นเคยกับแบรนด์อยู่แล้วได้กลับมาซื้อซ้ำและส่วนคนที่ยังไม่เคยซื้ออาจกลายเป็นลูกค้าของเราในอนาคต
ในยุคปัจจุบันถ้าเราคิดจะเริ่มต้นทำการตลาด เราต้องเรียนรู้และเข้าใจพื้นฐานการตลาดก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่ง Segment หากลุ่มเป้าหมายที่ใช่ การวิเคราะห์คู่แข่ง การวาง Market Positioning และที่สำคัญคือการฝึกใช้เครื่องมือพื้นฐานด้านการตลาด ถึงแม้เราอาจจะไม่ได้เก่งหมดทุกด้าน แต่อย่างน้อยถ้าได้รู้องค์ประกอบโดยรวมของการทำ Digital Marketing ก็จะทำให้เราวางแผนการตลาดได้อย่างครอบคลุม
บทความที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณ
8 แนวทางหลักใน การทำ DIGITAL MARKETING พร้อมวิธีการใช้งาน