ทำตามแผน การตลาด แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเป็นเพราะ?

การวางแผน การตลาด เป็นเรื่องที่ดี เป็นแนวทางเพื่อที่จะทำงานได้อย่างมีขั้นตอนที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น บางคนทำตามแผนการตลาดที่วางไว้ประสบความสำเร็จ แต่บางคนทำตามแผนแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเป็นเพราะอะไรเรามาดูกัน

วางแผน การตลาด ไม่ประสบความสำเร็จเพราะ?

ที่คุณว่าไม่ประสบความสำเร็จนั้น คุณสามารถบอกได้หรือเปล่าว่ามันไม่สำเร็จเพราะอะไร ถ้าคุณตอบได้แสดงว่าคุณมีการวัดผลที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานมันก็เลยยังคงไม่ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าคุณวัดผลคุณรู้แล้วว่ามันไม่ Achieve คุณก็แค่หาวิธีใหม่ที่มันน่าจะให้ผลลัพธ์ดีกว่า หลายธุรกิจไม่กล้าที่จะเปลี่ยนวิธีเพราะติดคำว่า “กลัว” กลัวว่าเปลี่ยนวิธีการแล้ว มันจะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ผมขอบอกเลยว่าอย่าไปกลัว เพราะการวางแผนมันเป็นเพียงแค่แนวทางที่จะทำให้เราทำงานได้อย่างมีกระบวนการและมีขั้นตอนที่ชัดเจน เพราะฉะนั้น “อย่าฝืนถ้ามันไม่ใช่ทางที่ใช่” ไม่ใช่ว่ามีแผนแล้วจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการหรือขั้นตอนในแผนได้ เปลี่ยนเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า แต่ยังคง“วัตถุประสงค์เดิม”

 เปลี่ยนความยุ่งยากในการวางแผน การตลาด ให้เป็นเรื่องง่ายๆ

คิดเอง หรือ มันไม่เป็นไปตาม KPI ที่ตั้งไว้

สิ่งที่สำคัญสำหรับการทำการตลาด คือ ต้องมี KPI (Key Performance Indicator) เพื่อที่จะใช้วัดว่าสิ่งที่คุณทำนั้นว่ามันดีหรือไม่ดี มันได้คุณภาพตรงตามตามความต้องการหรือเปล่า คุณจะสามารถอ้างอิงได้จากตัวเลขที่เกิดขึ้นจริง ไม่ได้วัดจากความรู้สึกหรือคิดไปเอง สิ่งสำคัญต้องวัดให้เป็นและถูกตามกระบวนการ ถ้ามันไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ คุณก็ต้องย้อนกลับมาคิดวิเคราะห์แล้วว่าคุณตั้ง KPI สูงเกินไปหรือเปล่า หรือเป็นเพราะว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นมันยังไม่ดีพอ มันน่าจะมีอะไรที่ดีกว่านี้หรือเปล่า เพียงแต่คุณยังไม่ได้ทำมันแค่นั้น แต่ถ้าคุณได้ลองทำทุกวิถีทางแล้ว แต่มันก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ แบบนี้ถึงจะเรียกได้อย่างเต็มปากว่า มันไม่สำเร็จ

ความไม่ชัดเจน

หลายธุรกิจเมื่อพอทำไปแล้ว มักจะเกิดความไม่ชัดเจน บอกอยากสร้างแบรนด์ แต่กลับถามหายอดขาย ตกลงจะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก หรือ จะขายกันแน่? คุณต้องมีความหนักแน่นในตัวเองก่อนว่าสิ่งที่คุณต้องการมันคืออะไรกันแน่ ถ้าคุณบอกอยากจะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก คุณก็ต้องยอมรับให้ได้ว่าการสร้างแบรนด์นั้นจะไม่ได้ยอดขายเท่ากับการที่คุณเน้นขาย เพราะการทำ Branding จะเป็นการเน้นไปเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ กระตุ้นให้มีการรู้จักตัวแบรนด์มากขึ้น (หรือที่เรามักจะพูดกันว่า Brand Awareness) หวังผลในระยะยาว แต่ในส่วนของ Activation นั้นจะเน้นไปในเรื่องของ “ยอดขาย” โดยการไปกระตุ้นผู้บริโภคให้เกิดการใช้สินค้าหรือบริการหวังผลในระยะสั้นๆ ส่วนใหญ่จะทำเป็นแคมเปญ

นี้แหละมันเลยส่งผลทำให้คุณวัดคุณภาพได้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งมา เพราะคุณทำอีกอย่าง แต่คุณวัดผลอีกอย่าง มันก็เลยทำให้คุณคิดว่ามันไม่ประสบความสำเร็จ

ความจริง กับ ความต้องการ

หลายธุรกิจมักจะฝืนกับสิ่งที่ไม่ใช่ เพราะเกิดจากความต้องการ เห็นคนอื่นทำแล้วก็อยากทำตามบ้าง ถ้าคุณทำตามแล้วมันดีก็ถือว่าโชคดีไป ถ้าคุณทำตามแล้วไม่ดีหละ ดังนั้นก็ต้องยอมรับให้ได้เพราะคุณเลือกที่จะทำตามความต้องการมากกว่าความจริง

สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter

Aphikiat Techajarupun X Ourgreenfish