โฆษณาวิดีโอ มีการสร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอออกมามากมาย โดยเฉพาะในโลกของ Digital Marketing อีกทั้งยังมีการแข่งขันกันสูง เป็นเพราะคอนเทนต์วิดีโอทำให้เกิด Engagement ค่อนข้างมาก มากกว่าการโพสต์เพียงแค่ข้อความหรือรูปภาพ การแชร์โพสต์คอนเทนต์วิดีโอลงใน Social Media
การที่จะให้โฆษณาวิดีโอของเราประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์นั้น ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ก็พอมีแนวทางอยู่บ้างที่จะเรียกยอดไลก์ ยอดแชร์ได้ ซึ่งประกอบกันด้วยหลายส่วน เช่น
ความคิดสร้างสรรค์ในงานโฆษณา มีความสำคัญอย่างไร?
งานนี้เรียกได้ว่าเป็นงานหนักของเหล่าครีเอทีฟ และฝ่ายโปรดักชั่นอยู่ไม่น้อย เพราะ แล้วเรื่องแบบไหนล่ะ ที่จะให้คนต้องแชร์? การที่คนคนหนึ่งจะแชร์วิดีโอ ลงในสื่อโซเชียลมีเดีย มีปัจจัยอยู่ 3 ประการ
แน่นอนว่าทุกสิ่งที่เราโพสต์ลงหน้าวอลล์ของเรา คือการบ่งบอกความเป็นตัวตนของเราเอง ซึ่งแนวคิด และ Theme ของโฆษณาวิดีโอ จะมีส่วนทำให้แต่ละคนที่มีไลฟ์สไตล์ แนวคิดที่คล้ายๆ กันแชร์วิดีโอของคุณนั่นเอง
ข้อมูลข่าวสารเหล่านี้ เมื่อถูกบรรจุลงไปในคลิปโฆษณาวิดีโอ ว่าสิ่งที่คุณต้องการสื่อนั้น ให้ข้อมูลแบบไหน สื่อสารเข้าใจได้หรือไม่ ถ้าหากเข้าใจ ผู้คนกดแชร์ต่อ นั่นเท่ากับว่าการทำวิดีโอของคุณประสบความสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว
โฆษณาวิดีโอที่ดี ควรทำให้ผู้รับชมมีอารมณ์ร่วม ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์เศร้าโศก แปลกใจ โกรธแค้น ตกใจ เฮฮา ซึ่งอารมณ์เหล่านี้จะช่วยให้คนอื่นๆ แชร์คลิปโฆษณาได้ง่ายขึ้น และไม่รู้สึกน่าเบื่อจนเกินไป
เนื่องจากการโฆษณาวิดีโอบนโลกออนไลน์ ถึงแม้จะไม่บังคับความยาวของวิดีโอก็ตาม ไม่เหมือนกับสื่อออฟไลน์อย่างทีวี แต่เพื่อผลที่ดีที่สุด คือไม่ควรทำวิดีโอนานจนเกินไป ควรเล่าเรื่องให้สั้น กระชับ รวบรัด ใช้เวลาไม่มาก และควรทำให้ดูน่าติดตามตั้งแต่ต้นคลิปของวิดีโอ ไม่เกิน 5 วินาทีแรก ตรึงผู้ชมให้ดูวิดีโอจนจบทั้งคลิปได้ นับว่าเป็นผลสำเร็จในเบื้องต้น ถ้าให้เปรียบเทียบกับเพลง ก็เหมือนนำเอาท่อนฮุกมาใส่ในช่วงแรก ทำให้ติดหูและจดจำบทเพลงได้นั่นเอง
[embed]https://www.youtube.com/watch?v=yyTo0I50YRQ[/embed]
การใส่ความเป็นมนุษย์ลงในโฆษณาวิดีโอ หมายถึงการฉากที่ตัวละครแสดงความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงถึงความมีน้ำใจ เรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัว รวมถึงฉากต่างๆ ที่มอบความอบอุ่นให้ ซึ่งวิดีโอที่ใส่ความเป็นมนุษย์ลงไป จะมีแนวโน้มที่ผู้คนจะรับชมและแชร์มากกว่าวิดีโอทั่วๆไป เห็นได้จากวิดีโอโฆษณาของ คายาริ ที่ปล่อยออกมาปี 2559 เรียกได้ว่าโดนใจผู้ชมไปเต็มๆ
และจะดียิ่งขึ้นถ้าหากมีประสบการณ์ร่วมพ่วงเข้าไปด้วย ถึงแม้ว่าแต่ละคนย่อมมีประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาแตกต่างกัน แต่ในวัฒนธรรมกระแสหลักในแต่ละยุค คนที่ใช้ชีวิตผ่านมาในช่วงนั้น ต่างก็มีประสบการณ์ร่วมกัน สามารถดึงจุดนี้มาใช้กับโฆษณาได้เช่นกัน
อย่ากลัวที่จะศึกษาผลงานของคู่แข่ง โดยเฉพาะคู่แข่งที่อยู่ธุรกิจสายงานเดียวกับคุณ เพื่อศึกษาว่าทำคอนเทนต์วิดีโออย่างไร มีประสิทธิภาพแค่ไหน และให้ถามตัวเองว่าสิ่งใดที่ธุรกิจคู่แข่งทำ และไม่ได้ทำ ดูรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และไม่เพียงแค่ศึกษาวิธีการโฆษณาในวิดีโอเท่านั้น ให้ดูรวมไปถึงลักษณะการตอบและให้บริการลูกค้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต่างมีผลต่อธุรกิจเช่นกัน
เมื่อผลิตวิดีโอเป็นผลสำเร็จ ก็ถึงเวลาเผยแพร่และโฆษณาแล้ว ไม่ว่าคุณจะลงโฆษณาในแพลตฟอร์มไหนก็ตาม สิ่งที่นักการตลาดออนไลน์ที่ดีควรพึงกระทำ คือการบันทึกผลโฆษณาเป็นระยะ ว่า Engagement ยอดไลก์ ยอดแชร์ เท่าไรแล้ว เพื่อศึกษาถึงจุดเด่นและจุดบกพร่อง รวมถึงเปรียบเทียบกับผลงานที่ผ่านมา เพราะสิ่งที่เราพลาดไป ไม่มีการบอกเราตรงๆ แต่เราต้องใช้ข้อมูลเพื่อประมวลผล เพื่อให้รู้ถึงจุดบกพร่องนั้น และอย่าลืมว่าต้องปรับปรุงแก้ไขในชิ้นงานต่อไปด้วย
ที่มาบางส่วนจาก
marketingprofs.com/articles/2017/31987/five-ways-to-make-the-most-of-video-for-marketing