Sales CRM เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ทีมขายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ด้วยการติดตามและวิเคราะห์ผลงานของทีม การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาทักษะและฝึกอบรมทีมขาย เพราะหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจในโลกดิจิทัล คือ การทำให้ทีมขายทำงานได้อย่างมีมีประสิทธิภาพ ดังนั้น เราจะมาเจาะลึกเทคนิคเหล่านี้ พร้อมยกตัวอย่างที่เป็นที่รู้จักเพื่อเป็นแนวทางให้เจ้าของธุรกิจใช้ในการพัฒนาทีมขายของตนเอง
การติดตามผลงานของทีมขายเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรควรให้ความสำคัญ แต่ในยุคดิจิทัล การติดตามแบบทั่วไปอาจไม่เพียงพอ Sales CRM เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การติดตามผลงานของทีมขายเป็นไปอย่างละเอียดและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขาย เช่น จำนวนการติดต่อลูกค้า จำนวนการปิดการขาย หรือรายได้ที่เกิดจากแต่ละพนักงานขาย
Salesforce หนึ่งในแพลตฟอร์ม Sales CRM ที่ได้รับความนิยม ใช้เครื่องมือรายงานและแดชบอร์ดที่สามารถแสดงผลลัพธ์ได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้จัดการทีมขายสามารถวิเคราะห์ผลงานของพนักงานขายได้ทันที และทำการปรับปรุงกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม
เคล็ดลับ :
ใช้ Sales CRM ในการติดตามข้อมูลการขายทุกขั้นตอน ตั้งแต่การติดต่อครั้งแรกจนถึงการปิดการขาย
วิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้เพื่อดูว่ามีส่วนใดที่สามารถปรับปรุงได้ เช่น ช่วงเวลาที่พนักงานขายประสบความสำเร็จมากที่สุด หรือรูปแบบการสื่อสารที่ลูกค้าตอบรับได้ดีที่สุด
ใช้ข้อมูลนี้ในการปรับเปลี่ยนแผนการขายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทีม
การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้เป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของทีมขาย Sales CRM ช่วยให้การตั้งเป้าหมายเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยการกำหนดตัวชี้วัด (KPIs) ที่เกี่ยวข้องกับผลงานของทีมขาย และติดตามความก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
HubSpot CRM ช่วยให้ธุรกิจตั้งเป้าหมายการขายได้ง่ายและชัดเจน เช่น กำหนดจำนวนลูกค้าใหม่ที่ต้องการได้ในแต่ละเดือน และสามารถวัดผลได้อย่างแม่นยำจากรายงานที่สร้างขึ้นจากข้อมูลในระบบ
เคล็ดลับ :
กำหนดเป้าหมายการขายที่ชัดเจนและสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ เช่น การเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่หรือการเพิ่มรายได้จากลูกค้าปัจจุบัน
ใช้ Sales CRM ในการติดตามความก้าวหน้าและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตามความจำเป็น เพื่อให้ทีมขายสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วัดผลการขายโดยใช้ตัวชี้วัดที่ชัดเจน เช่น อัตราการปิดการขาย ระยะเวลาในการทำการขาย และมูลค่ารวมของการขาย
ข้อมูลจาก Sales CRM ไม่เพียงแต่ช่วยในการติดตามผลงานและตั้งเป้าหมายเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาทักษะและฝึกอบรมทีมขายได้อีกด้วย การนำข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการขายและความสำเร็จของทีมมาใช้ในการออกแบบโปรแกรมการฝึกอบรม จะช่วยให้พนักงานขายสามารถพัฒนาทักษะที่จำเป็นและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้
อย่าง Microsoft Dynamics 365 ก็ใช้ข้อมูลจาก CRM ในการประเมินความต้องการในการฝึกอบรมของพนักงานขายแต่ละคน เช่น การวิเคราะห์ว่าใครมีปัญหาในการปิดการขายในขั้นตอนใดมากที่สุด แล้วให้การฝึกอบรมเฉพาะด้านนั้น เพื่อให้พนักงานขายสามารถพัฒนาทักษะได้ตรงจุด
เคล็ดลับ :
วิเคราะห์ข้อมูลจาก Sales CRM เพื่อระบุทักษะที่พนักงานขายแต่ละคนควรพัฒนา เช่น ความสามารถในการเจรจาต่อรอง หรือความสามารถในการใช้เครื่องมือการขายต่างๆ
ออกแบบโปรแกรมการฝึกอบรมที่ตรงกับความต้องการเหล่านี้ เช่น การจัดอบรมเพิ่มเติมหรือการสร้างโปรแกรมพี่เลี้ยงเพื่อช่วยให้พนักงานขายได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม
ติดตามผลลัพธ์ของการฝึกอบรมโดยใช้ข้อมูลจาก Sales CRM เพื่อประเมินว่าทักษะที่พัฒนาแล้วนั้นส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขายหรือไม่
Sales CRM เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพสูงในการเพิ่มประสิทธิภาพของทีมขาย การใช้เครื่องมือนี้ในการติดตามและวิเคราะห์ผลงาน ตั้งเป้าหมายและวัดผลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาทักษะและฝึกอบรมทีมขาย ไม่เพียงแต่ช่วยให้ทีมขายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล
อ่านบทความเพิ่มเติม : การเพิ่มยอดขาย E-Commerce ด้วยการใช้ CRM อย่างมีประสิทธิภาพ
อ่าน E-Book เพิ่มเติม : Digital Marketing Trends In 2024 : มัดรวมเทรนด์การตลาดมาแรงในปี 2024 ที่คุณไม่ควรพลาด