Digital Transformation หมายถึงการเปลี่ยนแปลงโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อสอดรับกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หรือถ้าเป็นในทางธุรกิจและองค์กร ความหมายจะคล้ายคลึงกัน คือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบองค์กรอย่างมีกลยุทธ์ และใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย เพื่อให้ทันตามโลกเศรษฐกิจ และยังคงดำเนินต่อไป ก่อนที่จะโดน Digital Disruption เข้าเล่นงานนั่นเอง
Digital Transformation หมายถึง? มีองค์ประกอบอะไรบ้าง?
แนวคิด Digital Transformation การปรับตัวมีหลากหลายทฤษฎี แต่ที่กำลังจะแนะนำคือเป็นหลักการจาก ionology ที่เห็นว่ามีประโยชน์ต่อองค์กรและบริษัท ซึ่งการที่จะทำ Digital Transformation มีองค์ประกอบด้วยกันอยู่ 5 อย่างคือ
- Strategy กลยุทธ์ของธุรกิจ
กลยุทธ์ของธุรกิจนับว่าเป็นจุดสำคัญ เพื่อที่จะทำให้องค์กรไปถึงจุดมุ่งหมาย
- Staff & Customer Engagement การสื่อสารทั้งพนักงานและลูกค้า
การสื่อสารจำเป็นต้องมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิด Loyalty ทั้งพนักงานและลูกค้า
- Culture of Innovation เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร
เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่จะคอยหล่อเลี้ยงให้พนักงานอยู่กับองค์กรไปนานๆ แต่แค่วัฒนธรรมองค์กรดียังไม่พอ ยิ่งมีเทคโนโลยีหรือความรู้ส่งเสริม จะช่วยทำให้พนักงานเก่งขึ้น
- Technology เทคโนโลยี
เทคโนโลยีไม่เพียงแค่อุปกรณ์เท่านั้น แต่ต้องเป็นทั้งระบบขององค์กร รวมทั้งทรัพยากรคน พยายามใช้เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งในองค์กร ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- Data & Analytics ข้อมูลนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
ในยุคนี้ใครมีข้อมูลเป็นเหมือนขุมทรัพย์ เพียงแค่จำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์ แล้วนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ให้ถูกด้าน
Digital Transformation คืออะไร…ใช้ทำอะไรได้บ้างในโลกธุรกิจ
องค์กรที่จะเตรียมปรับเปลี่ยนด้วย Digital Transformation จึงควรทำให้ครบทั้ง 5 ข้อ ถึงจะเรียกว่าเป็นการทำให้องค์กรเข้าสู่ Digital Transformation อย่างแท้จริง ไม่สามารถขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปได้ เพราะถ้าขาดอย่างใดไปอย่างหนึ่งจะทำให้ Digital Transformation เกิดปัญหากับองค์กรได้ ลองดูตามภาพด้านล่างนี้
- Digitization มีพร้อมทุกอย่างแต่ขาดกลยุทธ์
Strategy คือกลยุทธ์เปรียบดั่งแผนที่ ที่ทำให้องค์กรเดินหน้าต่อไปได้โดยที่ไม่หลงทาง เป็นการตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน ดังนั้นเมื่อขาดกลยุทธ์ ก็เหมือนกับเรือที่ไร้หางเสือ เป็นเพียงแค่เปลี่ยนวิธีการทำงานในรูปแบบดั้งเดิมเป็นดิจิทัลเพียงเท่านั้น แต่ก็ยังไม่ถึงขั้น Digital Transformation
- Resistance เกิดการต่อต้านจากพนักงานและลูกค้า
หากขาด Staff & Customer Engagement สื่อสารกันไม่ลงตัว หรือขาดความเข้าใจทั้งลูกค้าและพนักงาน มีโอกาสูงที่พนักงานและลูกค้าจะเกิดการต่อต้านความเปลี่ยนแปลง ยังไม่พอยังขาดความร่วมมืออย่างจริงใจ ทำให้เสียโอกาสในการปรับเปลี่ยนองค์กรไปสู่ Digital Transformation
- Incoherent Action ขาดนวัตกรรมในวัฒนธรรมองค์กร
เมื่อขาดความเข้าใจในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ทำให้เกิดความล้มเหลวในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ทำให้บุคลากรขาดความรู้ ความสามารถที่จะนำไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์กับบริษัทได้ ดังนั้นการเพิ่มพูนความรู้ให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร ทำให้เกิดพนักงานที่เก่ง และนำความสามารถมาใช้ประโยชน์ได้สูงสุด
- Frustration ความขัดข้องของการ Digital Transformation เมื่อปราศจากเทคโนโลยี
แน่นอนว่าเทคโนโลยีคือหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิด Digital Transformation ในองค์กร หากปราศจากเทคโนโลยีแล้ว องค์กรก็เหมือนโดนขัดขวางไม่สามารถทำให้เกิด Digital Transformation ได้ หรืออีกนัยหนึ่งคือมีเทคโนโลยี แต่ขาดความรู้ความสามารถในการนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กรเช่นกัน
- Stagnation องค์กรจะไม่เติบโตเมื่อขาดการใช้ประโยชน์จากข้อมูล
อย่างที่กล่าวไป ในยุคนี้ข้อมูล Data นับว่ามีประโยชน์มหาศาล แต่ยิ่งมีข้อมูลมาก ก็มีความจำเป็นในการจัดเรียงให้เป็นหมวดหมู่ และนำข้อมูลมาวิเคราะห์ จากนั้นจึงนำไปใช้ประโยชน์ แต่เมื่อองค์กรมีข้อมูลในมือมาก แต่ไม่นำข้อมูลนั้นมาใช้ เท่ากับว่าองค์กรนั้นจะไม่เจริญเติบโต
สุดท้าย ก่อนที่องค์กรจะเริ่มต้นทำ Digital Transformation จึงควรมีความพร้อม และพัฒนาทั้ง 5 ด้านไปพร้อมกัน ถ้าหากองค์กรเดินหน้า ก็จะสามารถก้าวผ่าน Digital Disruption และดำเนินต่อไปได้นั่นเอง
Thanakarn Lertsudwichai X Ourgreenfish
ที่มาและรูปภาพจาก [1]