Master Blog - Ourgreenfish

Wearable Tech นวัตกรรมใหม่และการติดตามสุขภาพ

เขียนโดย OURGREENFISH TEAM - Jul 10, 2024 7:00:00 AM

เทคโนโลยีสวมใส่ได้ หรือ Wearable Technology กำลังกลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะในด้านการดูแลสุขภาพและการติดตามสุขภาพส่วนบุคคล ด้วยความสามารถในการเก็บข้อมูลสุขภาพที่สำคัญแบบเรียลไทม์ และการสื่อสารกับอุปกรณ์อื่นๆ Wearable Tech จึงเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการส่งเสริมสุขภาวะและการป้องกันโรคที่หลากหลายมากขึ้น

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี Wearable สำหรับการติดตามสุขภาพ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยี Wearable ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ของความแม่นยำของเซ็นเซอร์ ความเล็กและความสะดวกในการสวมใส่ และอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น นอกจากนี้ Wearable ยุคใหม่ยังสามารถเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับแอปพลิเคชันและอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างราบรื่น ผ่านเทคโนโลยีไร้สายอย่างบลูทูธหรือ Wi-Fi ทำให้สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์และสร้างข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์มากขึ้น

เช่น Apple Watch Series 6 ได้เพิ่มความสามารถในการวัดระดับออกซิเจนในเลือด (Blood Oxygen) และทำคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ได้แม่นยำยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามสุขภาพหัวใจได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับแอป Fitness+ สำหรับการออกกำลังกายที่บ้าน พร้อมเชื่อมต่อข้อมูลกับ iPhone เพื่อแสดงสถิติการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์อีกด้วย

ประเภทของ Wearable Tech ที่ใช้ในการดูแลสุขภาพ

ปัจจุบันมี Wearable Tech หลากหลายรูปแบบที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพ ตั้งแต่สายรัดข้อมือ (Wristband) ที่ติดตามการเคลื่อนไหวและการนอนหลับ นาฬิกาอัจฉริยะ (Smartwatch) ที่วัดอัตราการเต้นหัวใจและความดันโลหิต ปลอกแขนวัดความดัน (Blood Pressure Cuff) ที่สามารถส่งข้อมูลเข้าแอปในสมาร์ตโฟนโดยตรง ไปจนถึงแว่นตาอัจฉริยะ (Smart Glasses) ที่ช่วยผู้ป่วยตาบอดในการมองเห็นและเดินทาง รวมถึงแผ่นแปะอัจฉริยะ (Smart Patch) ที่ติดตามระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวานอีกด้วย

เช่น Fitbit แบรนด์ Wearable ชั้นนำ มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ตั้งแต่ Fitbit Charge ที่เน้นการนับก้าว ติดตามการออกกำลังกาย ไปจนถึง Fitbit Sense ที่มีคุณสมบัติขั้นสูง เช่น การวัดอุณหภูมิผิวหนัง การประเมินระดับความเครียด ไปจนถึงการตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เป็นต้น

ประโยชน์ของ Wearable Tech ในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค

Wearable Tech มีประโยชน์มากมายในการช่วยให้ผู้คนดูแลสุขภาพตัวเองได้ดียิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่การกระตุ้นให้ผู้คนเคลื่อนไหวมากขึ้นผ่านการนับจำนวนก้าวและแคลอรี่ที่เผาผลาญ การแจ้งเตือนให้ลุกขึ้นเดินหลังจากนั่งนานๆ ซึ่งช่วยลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง นอกจากนี้ข้อมูลสุขภาพที่ได้จาก Wearable เช่น อัตราการเต้นหัวใจ รูปแบบการนอนหลับ และระดับความเครียด ก็ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจภาวะสุขภาพของตัวเองมากขึ้น และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคอ้วน เบาหวาน เป็นต้น

เช่น Samsung Galaxy Watch มีฟีเจอร์ Smart Caddie ที่แนะนำเป้าหมายจำนวนก้าวในแต่ละวัน พร้อมให้กำลังใจและคำแนะนำในการออกกำลังกาย ช่วยให้ผู้ใช้รักษาแรงจูงใจในการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีโหมด Stress Tracker ที่ตรวจจับความเครียดผ่านการวัดชีพจรและแนะนำการฝึกหายใจเพื่อผ่อนคลาย ช่วยลดความเสี่ยงของโรคที่เกิดจากความเครียดสะสม

การบูรณาการ Wearable Tech เข้ากับระบบสุขภาพและการแพทย์

อีกมิติหนึ่งของการใช้ Wearable Tech คือการนำมาใช้งานร่วมกับระบบสุขภาพและการรักษาพยาบาล ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลจาก Wearable เข้ากับระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ของโรงพยาบาล แพทย์จะสามารถติดตามอาการของคนไข้แบบต่อเนื่องนอกโรงพยาบาล เช่น ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน การวัดความดันโลหิตของผู้ป่วยความดันสูง และอัตราการเต้นของหัวใจของผู้ป่วยโรคหัวใจ เป็นต้น การมีข้อมูลสุขภาพที่ละเอียดและต่อเนื่องจะช่วยให้แพทย์สามารถปรับแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนเฝ้าระวังและเตือนล่วงหน้าหากพบความผิดปกติได้อีกด้วย

เช่น Omron HeartGuide นาฬิกาข้อมือที่สามารถวัดความดันโลหิตได้แม่นยำเทียบเท่าเครื่องวัดมาตรฐานทางการแพทย์ พร้อมระบบแจ้งเตือนส่งข้อมูลให้ญาติหรือแพทย์หากพบความผิดปกติหรือภาวะฉุกเฉิน และยังสามารถเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับแพลตฟอร์ม Omron Connect ที่ช่วยให้แพทย์ติดตามข้อมูลของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงได้แบบเรียลไทม์ด้วย

 

ความท้าทายและข้อพิจารณาด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล

อย่างไรก็ตาม การใช้ Wearable Tech เพื่อติดตามสุขภาพก็ยังคงมีความท้าทายและข้อกังวลที่ต้องพิจารณา โดยเฉพาะในเรื่องของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล เพราะ Wearable สามารถเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เช่น ตำแหน่งที่อยู่ พฤติกรรมประจำวัน ไปจนถึงสัญญาณชีพต่างๆ หากข้อมูลเหล่านี้ถูกเปิดเผยหรือถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ก็จะกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้อย่างมาก ดังนั้นทั้งผู้ผลิต Wearable และผู้ให้บริการด้านสุขภาพจึงต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ ผ่านการเข้ารหัสข้อมูล การขอความยินยอมในการใช้ข้อมูล ไปจนถึงการกำหนดนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้ในการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้งาน

Wearable Tech นับเป็นนวัตกรรมที่น่าจับตามองในวงการสุขภาพ ด้วยศักยภาพในการปฏิวัติรูปแบบการดูแลสุขภาพ ทั้งการส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพที่ดี การเฝ้าระวังความเสี่ยงของโรค และการบูรณาการเข้ากับระบบการแพทย์เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะยังคงมีข้อท้าทายด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่ต้องจัดการ แต่เมื่อนำมาใช้งานอย่างเหมาะสม Wearable Tech ก็มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการยกระดับสุขภาวะและคุณภาพชีวิตของผู้คนในอนาคตอย่างแน่นอน

อ่านบทความเพิ่มเติม : ทักษะเทคโนโลยีและไอที ที่ตลาดดิจิทัลต้องการมากที่สุด

อ่าน E-Book เพิ่มเติม : Digital Marketing Trends In 2024 : มัดรวมเทรนด์การตลาดมาแรงในปี 2024 ที่คุณไม่ควรพลาด