Digital Blog - Ourgreenfish

เคล็ด(ไม่)ลับ สร้าง Brand Personality ให้แข็งแกร่งและแตกต่าง

เขียนโดย OURGREENFISH TEAM - 1 มี.ค. 2025, 6:00:00

ลูกค้าไม่ได้เลือกซื้อสินค้าเพียงเพราะ "คุณภาพ" หรือ "ราคา" เท่านั้น แต่ยังเลือกแบรนด์ที่สามารถสะท้อนตัวตนของพวกเขาได้ ดังนั้น Brand Personality จึงเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความผูกพันทางอารมณ์ระหว่างลูกค้าและธุรกิจ

Brand Personality คืออะไร? และทำไมถึงสำคัญต่อแบรนด์ของคุณ?

Brand Personality หรือ บุคลิกภาพของแบรนด์ เปรียบเสมือนลักษณะนิสัยของคนที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมโยงและจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ยิ่งแบรนด์ของคุณมีบุคลิกที่ชัดเจน ลูกค้าก็จะมีโอกาสจดจำและภักดีต่อแบรนด์มากขึ้น

ทำไม Brand Personality ถึงสำคัญ?

  • สร้างความแตกต่าง – ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง การมีบุคลิกเฉพาะตัวช่วยให้แบรนด์ของคุณโดดเด่น
  • เพิ่มความภักดีของลูกค้า (Brand Loyalty) – ลูกค้ามักจะผูกพันกับแบรนด์ที่มีบุคลิกที่ตรงกับค่านิยมของพวกเขา
  • ทำให้การสื่อสารมีเอกลักษณ์ – แบรนด์ที่มีบุคลิกชัดเจนสามารถสร้างเนื้อหาและการตลาดที่สอดคล้องกัน

ตัวอย่างเช่น Nike มีบุคลิกของ "The Hero" ซึ่งสื่อถึงพลังและความมุ่งมั่น ส่งผลให้แคมเปญของแบรนด์เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและการผลักดันให้ผู้คน "Just Do It"

วิธีใช้ Archetype 12 แบบของแบรนด์ เพื่อกำหนดบุคลิกที่โดดเด่น

Archetype ของแบรนด์ เป็นแนวคิดที่ Carl Jung นักจิตวิทยาชื่อดังเสนอขึ้นมา ซึ่งสามารถแบ่งบุคลิกแบรนด์ออกเป็น 12 ประเภทหลัก ๆ โดยแต่ละแบบสะท้อนถึงค่านิยมและพฤติกรรมของลูกค้า

วิธีเลือก Archetype ที่เหมาะกับแบรนด์คุณ

  1. พิจารณาค่านิยมของแบรนด์ – แบรนด์ของคุณมีเป้าหมายอะไร? ต้องการสร้างแรงบันดาลใจ หรือเป็นผู้ให้ความรู้?
  2. เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย – ลูกค้าของคุณให้ความสำคัญกับอะไร? ชอบความสนุก หรือมองหาความมั่นคง?
  3. ดูตัวอย่างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ – ศึกษาแบรนด์ที่มี Archetype ใกล้เคียงกับสิ่งที่คุณต้องการ

เทคนิคการนำ Brand Personality ไปใช้ในทุกจุดสัมผัสของลูกค้า (Touchpoints)

Brand Personality ไม่ควรถูกจำกัดอยู่แค่โฆษณาหรือแคมเปญการตลาด แต่ควรถูกนำไปใช้ในทุกจุดที่ลูกค้าโต้ตอบกับแบรนด์

  1. การออกแบบแบรนด์ (Brand Identity)
  • โลโก้ – ควรสะท้อนบุคลิกของแบรนด์ เช่น แบรนด์ที่มีบุคลิก "The Hero" ควรมีโลโก้ที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง เช่น Nike
  • สีของแบรนด์ – สีมีผลต่อจิตวิทยาผู้บริโภค เช่น สีแดงของ Coca-Cola ให้ความรู้สึกพลังงานและความสุข
  1. การสื่อสารและการตลาด (Brand Communication)
  • Social Media – คำพูดและโทนเสียงของโพสต์ควรตรงกับบุคลิกแบรนด์ เช่น Wendy’s ใช้ภาษากวนๆ บน Twitter เพราะเป็นแบรนด์ที่มีบุคลิกแบบ "The Jester"
  • Email Marketing – ภาษาที่ใช้ในอีเมลควรสะท้อนบุคลิกของแบรนด์ เช่น Apple ใช้ข้อความที่เรียบง่ายและสร้างแรงบันดาลใจ
  1. ประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience)
  • บรรจุภัณฑ์ (Packaging) – การออกแบบบรรจุภัณฑ์ควรสะท้อนบุคลิกแบรนด์ เช่น Tiffany & Co. ใช้กล่องสีฟ้าอ่อนที่หรูหรา
  • บริการลูกค้า (Customer Service) – น้ำเสียงและวิธีการให้บริการควรตรงกับ Brand Personality เช่น Zappos เน้นการบริการที่เป็นกันเองและอบอุ่น
  1. เนื้อหาและการเล่าเรื่อง (Brand Storytelling)
  • โฆษณาและคอนเทนต์ – ควรเล่าเรื่องในแบบที่สอดคล้องกับบุคลิกแบรนด์ เช่น Red Bull ที่มุ่งเน้นการสร้างแรงบันดาลใจและความตื่นเต้น

สร้าง Brand Personality ให้แข็งแกร่งและแตกต่าง

การสร้าง Brand Personality เป็นมากกว่าการออกแบบโลโก้หรือเลือกสีของแบรนด์ แต่เป็นการกำหนดบุคลิกที่ชัดเจนและนำไปใช้ในทุก Touchpoint ของลูกค้า แบรนด์ที่มีบุคลิกที่แข็งแกร่งและสอดคล้องกัน จะสามารถสร้างความจดจำและความภักดีได้ดีกว่าแบรนด์ที่ไม่มีตัวตนที่แน่นอน

  • เลือก Archetype ที่เหมาะสมกับแบรนด์ของคุณ
  • สื่อสารและแสดงออกถึงบุคลิกแบรนด์ผ่านทุกช่องทาง
  • ทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าสอดคล้องกับบุคลิกของแบรนด์

อ้างอิง : Business Explained. (2024). Brand Development Explained by Business Explained. Retrieved from [bit.ly/3Qgk14W]

อ่านบทความเพิ่มเติม :

ปั้นแบรนด์ด้วยตัวเลข : BRAND AWARENESS METRICS ที่ไม่ควรมองข้าม

ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com