ลูกค้าไม่ได้เลือกซื้อสินค้าเพียงเพราะ "คุณภาพ" หรือ "ราคา" เท่านั้น แต่ยังเลือกแบรนด์ที่สามารถสะท้อนตัวตนของพวกเขาได้ ดังนั้น Brand Personality จึงเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความผูกพันทางอารมณ์ระหว่างลูกค้าและธุรกิจ
Brand Personality คืออะไร? และทำไมถึงสำคัญต่อแบรนด์ของคุณ?
Brand Personality หรือ บุคลิกภาพของแบรนด์ เปรียบเสมือนลักษณะนิสัยของคนที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมโยงและจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ยิ่งแบรนด์ของคุณมีบุคลิกที่ชัดเจน ลูกค้าก็จะมีโอกาสจดจำและภักดีต่อแบรนด์มากขึ้น
ทำไม Brand Personality ถึงสำคัญ?
- สร้างความแตกต่าง – ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง การมีบุคลิกเฉพาะตัวช่วยให้แบรนด์ของคุณโดดเด่น
- เพิ่มความภักดีของลูกค้า (Brand Loyalty) – ลูกค้ามักจะผูกพันกับแบรนด์ที่มีบุคลิกที่ตรงกับค่านิยมของพวกเขา
- ทำให้การสื่อสารมีเอกลักษณ์ – แบรนด์ที่มีบุคลิกชัดเจนสามารถสร้างเนื้อหาและการตลาดที่สอดคล้องกัน
ตัวอย่างเช่น Nike มีบุคลิกของ "The Hero" ซึ่งสื่อถึงพลังและความมุ่งมั่น ส่งผลให้แคมเปญของแบรนด์เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและการผลักดันให้ผู้คน "Just Do It"
วิธีใช้ Archetype 12 แบบของแบรนด์ เพื่อกำหนดบุคลิกที่โดดเด่น
Archetype ของแบรนด์ เป็นแนวคิดที่ Carl Jung นักจิตวิทยาชื่อดังเสนอขึ้นมา ซึ่งสามารถแบ่งบุคลิกแบรนด์ออกเป็น 12 ประเภทหลัก ๆ โดยแต่ละแบบสะท้อนถึงค่านิยมและพฤติกรรมของลูกค้า
วิธีเลือก Archetype ที่เหมาะกับแบรนด์คุณ
- พิจารณาค่านิยมของแบรนด์ – แบรนด์ของคุณมีเป้าหมายอะไร? ต้องการสร้างแรงบันดาลใจ หรือเป็นผู้ให้ความรู้?
- เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย – ลูกค้าของคุณให้ความสำคัญกับอะไร? ชอบความสนุก หรือมองหาความมั่นคง?
- ดูตัวอย่างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ – ศึกษาแบรนด์ที่มี Archetype ใกล้เคียงกับสิ่งที่คุณต้องการ
เทคนิคการนำ Brand Personality ไปใช้ในทุกจุดสัมผัสของลูกค้า (Touchpoints)
Brand Personality ไม่ควรถูกจำกัดอยู่แค่โฆษณาหรือแคมเปญการตลาด แต่ควรถูกนำไปใช้ในทุกจุดที่ลูกค้าโต้ตอบกับแบรนด์
- การออกแบบแบรนด์ (Brand Identity)
- โลโก้ – ควรสะท้อนบุคลิกของแบรนด์ เช่น แบรนด์ที่มีบุคลิก "The Hero" ควรมีโลโก้ที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง เช่น Nike
- สีของแบรนด์ – สีมีผลต่อจิตวิทยาผู้บริโภค เช่น สีแดงของ Coca-Cola ให้ความรู้สึกพลังงานและความสุข
- การสื่อสารและการตลาด (Brand Communication)
- Social Media – คำพูดและโทนเสียงของโพสต์ควรตรงกับบุคลิกแบรนด์ เช่น Wendy’s ใช้ภาษากวนๆ บน Twitter เพราะเป็นแบรนด์ที่มีบุคลิกแบบ "The Jester"
- Email Marketing – ภาษาที่ใช้ในอีเมลควรสะท้อนบุคลิกของแบรนด์ เช่น Apple ใช้ข้อความที่เรียบง่ายและสร้างแรงบันดาลใจ
- ประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience)
- บรรจุภัณฑ์ (Packaging) – การออกแบบบรรจุภัณฑ์ควรสะท้อนบุคลิกแบรนด์ เช่น Tiffany & Co. ใช้กล่องสีฟ้าอ่อนที่หรูหรา
- บริการลูกค้า (Customer Service) – น้ำเสียงและวิธีการให้บริการควรตรงกับ Brand Personality เช่น Zappos เน้นการบริการที่เป็นกันเองและอบอุ่น
- เนื้อหาและการเล่าเรื่อง (Brand Storytelling)
- โฆษณาและคอนเทนต์ – ควรเล่าเรื่องในแบบที่สอดคล้องกับบุคลิกแบรนด์ เช่น Red Bull ที่มุ่งเน้นการสร้างแรงบันดาลใจและความตื่นเต้น
สร้าง Brand Personality ให้แข็งแกร่งและแตกต่าง
การสร้าง Brand Personality เป็นมากกว่าการออกแบบโลโก้หรือเลือกสีของแบรนด์ แต่เป็นการกำหนดบุคลิกที่ชัดเจนและนำไปใช้ในทุก Touchpoint ของลูกค้า แบรนด์ที่มีบุคลิกที่แข็งแกร่งและสอดคล้องกัน จะสามารถสร้างความจดจำและความภักดีได้ดีกว่าแบรนด์ที่ไม่มีตัวตนที่แน่นอน
- เลือก Archetype ที่เหมาะสมกับแบรนด์ของคุณ
- สื่อสารและแสดงออกถึงบุคลิกแบรนด์ผ่านทุกช่องทาง
- ทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าสอดคล้องกับบุคลิกของแบรนด์
อ้างอิง : Business Explained. (2024). Brand Development Explained by Business Explained. Retrieved from [bit.ly/3Qgk14W]
อ่านบทความเพิ่มเติม :
ปั้นแบรนด์ด้วยตัวเลข : BRAND AWARENESS METRICS ที่ไม่ควรมองข้าม
ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com