Sales CRM เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกับข้อมูลลูกค้าและโอกาสทางการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เจ้าของธุรกิจสามารถวัดและวิเคราะห์ประสิทธิภาพการขายได้อย่างถูกต้อง ต่อไปนี้คือ 4 Metrics ที่สำคัญในการวัดประสิทธิภาพการขายที่เจ้าของธุรกิจควรรู้จัก
Conversion Rate คืออัตราส่วนของโอกาสทางการขายที่แปลงเป็นการขายจริง โดยการวัด Conversion Rate จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถประเมินว่ากลยุทธ์การขายและการตลาดของตนมีประสิทธิภาพเพียงใด
Conversion Rate = (จำนวนการขาย / จำนวนโอกาสทางการขาย) × 100
ตัวอย่าง: หากธุรกิจมีโอกาสทางการขาย 100 โอกาส และสามารถปิดการขายได้ 25 รายการ Conversion Rate จะเท่ากับ 25% การวิเคราะห์อัตรานี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับกลยุทธ์การขายเพื่อเพิ่ม Conversion Rate ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Sales Cycle Time คือระยะเวลาที่ใช้ในการปิดการขายตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงจบการขาย การติดตามระยะเวลานี้ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถเข้าใจประสิทธิภาพของทีมขายและประเมินว่ามีปัญหาใดที่อาจส่งผลกระทบต่อการขายได้
Sales Cycle Time = วันที่ปิดการขาย - วันที่เริ่มต้น
ตัวอย่าง: หากธุรกิจใช้เวลาเฉลี่ย 30 วันในการปิดการขาย แสดงว่ามีโอกาสที่จะต้องพัฒนากระบวนการขายเพื่อให้สามารถปิดการขายได้เร็วขึ้น ซึ่งอาจช่วยเพิ่มจำนวนการขายในแต่ละเดือน
Sales Forecast คือการคาดการณ์ยอดขายในอนาคต โดยอิงจากข้อมูลการขายที่ผ่านมา การมี Sales Forecast ที่แม่นยำจะช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถวางแผนกลยุทธ์การขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีการประเมิน Sales Forecast:
ใช้ข้อมูลประวัติการขาย
พิจารณาแนวโน้มของตลาด
ประเมินการตลาดและกิจกรรมการส่งเสริมการขาย
ตัวอย่าง: หากธุรกิจมีแนวโน้มการเติบโต 10% ต่อปี และคาดการณ์ยอดขายในปีนี้ที่ 1,000,000 บาท Sales Forecast จะอยู่ที่ 1,100,000 บาทในปีถัดไป การมี Sales Forecast ที่ชัดเจนจะช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดสรรทรัพยากรและวางแผนกลยุทธ์การขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การวางแผนกลยุทธ์การขายเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดทิศทางและวิธีการในการเข้าถึงลูกค้าและสร้างยอดขาย ในการใช้ Sales CRM เพื่อวางแผนกลยุทธ์การขาย เจ้าของธุรกิจควรพิจารณาข้อมูลที่ได้จากเมตริกส์ทั้งสามด้านข้างต้น
การวางแผนกลยุทธ์การขายควรคำนึงถึงการปรับปรุง Conversion Rate ลด Sales Cycle Time และการตั้ง Sales Forecast ที่ถูกต้อง เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การใช้ข้อมูลจาก Sales CRM ยังช่วยในการติดตามผลและปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างเช่น หากพบว่าการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์มีผลดีกับยอดขาย เจ้าของธุรกิจอาจพิจารณาเพิ่มงบประมาณในการทำการตลาดออนไลน์และพัฒนากลยุทธ์ที่มุ่งเน้นไปที่แพลตฟอร์มเหล่านั้น
เพิ่มประสิทธิภาพทีมขายในยุคดิจิทัลด้วย Sales CRM
Sales CRM เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถวัดประสิทธิภาพการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการติดตาม Conversion Rate, Sales Cycle Time และ Sales Forecast ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถวางแผนและปรับกลยุทธ์การขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มโอกาสในการขายและทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน และการใช้ Sales CRM อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้เจ้าของธุรกิจไม่เพียงแค่เข้าใจประสิทธิภาพการขาย แต่ยังสามารถปรับปรุงกลยุทธ์การขายให้เหมาะสมกับตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอได้ด้วย
อ่านบทความเพิ่มเติม : การเพิ่มยอดขาย E-Commerce ด้วยการใช้ CRM อย่างมีประสิทธิภาพ
อ่าน E-Book เพิ่มเติม : Digital Marketing Trends In 2024 : มัดรวมเทรนด์การตลาดมาแรงในปี 2024 ที่คุณไม่ควรพลาด