Digital Blog - Ourgreenfish

ยกระดับ การศึกษาออนไลน์ปี 2025 อย่างยั่งยื่นด้วย CRM

เขียนโดย OURGREENFISH TEAM - 3 ธ.ค. 2024, 7:00:00

การศึกษาออนไลน์ ปี 2025 เป็นที่นิยมและการแข่งขันสูง การมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและตอบโจทย์ผู้เรียนเป็นสิ่งสำคัญที่ธุรกิจการศึกษาออนไลน์ต้องใส่ใจ CRM ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือในการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า แต่เป็นตัวช่วยสำคัญในการวิเคราะห์พฤติกรรม ติดตามความต้องการ และสร้างการเชื่อมต่อระหว่างผู้เรียนกับธุรกิจได้อย่างล้ำลึก ด้วยเหตุนี้ ทำให้ CRM เป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับการศึกษาออนไลน์ให้เป็นที่น่าประทับใจในปี 2025 รวมไปถึงในอนาคตด้วย

ทำไม CRM จึงสำคัญกับการศึกษาออนไลน์ในปี 2025?

ธุรกิจการศึกษาออนไลน์ในปัจจุบันเผชิญความท้าทายมากมาย ทั้งจากพฤติกรรมผู้เรียนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและการคาดหวังในประสบการณ์ที่เฉพาะตัว CRM ช่วยให้การเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ตอบสนองความต้องการได้อย่างแม่นยำ และยังเป็นตัวขับเคลื่อนให้ธุรกิจสามารถสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้เรียนได้อย่างมั่นคง โดย CRM จะช่วยในด้านต่าง ๆ ดังนี้

  • เก็บข้อมูลผู้เรียนอย่างเป็นระบบเพื่อความเข้าใจที่แท้จริง

CRM ช่วยเก็บข้อมูลพฤติกรรมการเรียนรู้ ประวัติการสมัครเรียน ความถี่ในการเข้าใช้แพลตฟอร์ม และการตอบสนองต่อคอร์สต่าง ๆ ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาประมวลผลเพื่อสร้างโปรไฟล์ผู้เรียนแต่ละรายได้อย่างละเอียด ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถมอบประสบการณ์การเรียนรู้ที่เฉพาะเจาะจงได้

  • แบ่งกลุ่มผู้เรียนและปรับเนื้อหาให้เหมาะสม (Personalized Learning)

ความแตกต่างในความสนใจและเป้าหมายของผู้เรียนแต่ละคนเป็นสิ่งที่ CRM จับได้อย่างละเอียด โดยการแบ่งกลุ่มผู้เรียนตามประวัติการเรียนและการตอบสนองต่อเนื้อหา ทำให้ธุรกิจสามารถแนะนำคอร์สและเนื้อหาที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มได้ ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ตรงใจและกระตุ้นให้ผู้เรียนกลับมาใช้งานอีกครั้ง

  • การสร้างความผูกพันกับผู้เรียน (Student Engagement)

CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถส่งข้อความส่วนตัวหาผู้เรียน เช่น การส่งข้อความหรืออีเมลอัตโนมัติที่ตอบโจทย์แต่ละบุคคล ทำให้ผู้เรียนรู้สึกได้รับการดูแลเป็นพิเศษ อาจเป็นการเชิญชวนเข้าร่วมเวิร์กช็อปหรือการแจ้งเตือนเกี่ยวกับกิจกรรมพิเศษในคอร์สเรียน การสร้างความสัมพันธ์เชิงปฏิสัมพันธ์นี้ช่วยเสริมความรู้สึกว่าได้รับการดูแลจากผู้ให้บริการและสร้างความประทับใจที่ยั่งยืน รวมถึง CRM ยังช่วยให้ผู้เรียนสามารถติดตามความคืบหน้าของตัวเองในคอร์สเรียน และทำให้เกิดความรู้สึกผูกพันกับธุรกิจได้มากขึ้น

  • การเพิ่มความภักดีของผู้เรียน (Student Retention)

CRM สามารถนำเสนอโปรแกรมความภักดีหรือข้อเสนอพิเศษที่กระตุ้นให้ผู้เรียนลงทะเบียนคอร์สใหม่ ๆ และกลับมาเรียนซ้ำ การติดตามผลการเรียนและการให้คำแนะนำเพิ่มเติมในหัวข้อที่ผู้เรียนสนใจช่วยให้ผู้เรียนมีความพึงพอใจในการใช้บริการของธุรกิจ และเพิ่มโอกาสในการกลับมาเรียนต่อเนื่อง

EdTech การนำเทคโนโลยีเพื่อการศึกษามาปรับใช้ในยุคดิจิทัล

วิธีใช้ CRM ช่วยธุรกิจการศึกษาออนไลน์ปรับตัวรับกับความต้องการที่เปลี่ยนไปในปี 2025

  1. การเก็บข้อมูลเชิงลึกเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เรียน
    • CRM ช่วยเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้บริการ เช่น คอร์สที่ผู้เรียนเลือก ระยะเวลาในการเรียน และการตอบสนองต่อการสื่อสารต่างๆ
    • ข้อมูลเหล่านี้นำไปสู่การสร้างโมเดลพฤติกรรมผู้เรียน เช่น ผู้เรียนที่ชอบคอร์สเรียนสั้นๆ หรือผู้เรียนที่เน้นความรู้เฉพาะด้าน เมื่อธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกนี้ได้ ก็จะสามารถออกแบบคอร์สเรียนและการสื่อสารที่ตอบโจทย์ผู้เรียนแต่ละกลุ่มได้อย่างตรงจุด
  2. การแบ่งกลุ่มผู้เรียน (Segmentation)
    • การใช้ CRM ในการแบ่งกลุ่มผู้เรียนตามความต้องการ ช่วงอายุ พฤติกรรมการเรียนรู้ หรือเป้าหมายการเรียน ทำให้ธุรกิจสามารถส่งข้อเสนอพิเศษหรือโปรโมชันเฉพาะกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • ตัวอย่างเช่น การแบ่งกลุ่มผู้เรียนเป็นกลุ่มที่สนใจพัฒนาทักษะเฉพาะด้านหรือกลุ่มที่ต้องการเรียนรู้ต่อเนื่องในระยะยาว แล้วสร้างคอนเทนต์หรือข้อเสนอเฉพาะที่เหมาะกับแต่ละกลุ่มเพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วม
  3. การสร้างเนื้อหาที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย (Personalized Content)
    • CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างเนื้อหาที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น โดยอิงจากข้อมูลการเรียนและความสนใจที่ได้จากระบบ CRM
    • ตัวอย่างเช่น การส่งอีเมลแนะนำคอร์สใหม่ที่ตรงกับเนื้อหาที่ผู้เรียนเคยลงทะเบียนในอดีต หรือการส่งข้อมูลบทความที่มีความเกี่ยวข้องกับคอร์สที่ผู้เรียนสนใจ ช่วยเพิ่มความพึงพอใจและโอกาสในการลงทะเบียน
  4. การติดตามและให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์
    • CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามผู้เรียนในคอร์สได้แบบเรียลไทม์ เช่น การติดตามความคืบหน้าของผู้เรียนในคอร์ส และการแจ้งเตือนให้ผู้เรียนกลับมาเรียนเมื่อพบว่าผู้เรียนหยุดเรียนไป
    • การแจ้งเตือนและการให้คำแนะนำในเวลาเหมาะสมช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนรู้สึกถึงการดูแลที่ใส่ใจ และเพิ่มโอกาสที่ผู้เรียนจะเรียนจบคอร์สหรือสนใจเรียนเพิ่มเติมในอนาคต
  5. การให้การสนับสนุนและตอบคำถามอย่างรวดเร็ว
    • CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อคำถามและการร้องขอของผู้เรียนได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการใช้แชทบอท หรือการใช้ระบบตอบอัตโนมัติในช่วงเวลานอกทำการ
    • การให้การสนับสนุนที่รวดเร็วทำให้ผู้เรียนรู้สึกถึงความเอาใจใส่และเพิ่มโอกาสในการสร้างความภักดีต่อธุรกิจ

การปรับกลยุทธ์ด้วยข้อมูลจาก CRM เพื่อพัฒนาการศึกษาออนไลน์ในปี 2025 อย่างยั่งยืน

  1. การประเมินผลตอบรับและปรับปรุงคอร์สเรียนอย่างสม่ำเสมอ
    • ข้อมูลจาก CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ผลตอบรับของผู้เรียนที่มีต่อคอร์สเรียนแต่ละประเภทได้ เช่น การติดตามคอร์สที่ได้รับความนิยม และการระบุคอร์สที่มีผลตอบรับไม่ดี
    • การนำข้อมูลจาก CRM มาใช้ปรับปรุงเนื้อหาและการนำเสนอ ช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาคอร์สที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของผู้เรียนได้ดียิ่งขึ้น
  2. การคาดการณ์แนวโน้มและตอบสนองต่อความต้องการในอนาคต
    • การใช้ CRM ในการวิเคราะห์แนวโน้มการลงทะเบียนของผู้เรียนช่วยให้ธุรกิจสามารถคาดการณ์ความต้องการในอนาคตได้ เช่น คอร์สที่มีแนวโน้มจะได้รับความนิยมในปีหน้า
    • การเตรียมคอร์สเรียนใหม่ที่ตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาความสนใจของผู้เรียนและเพิ่มรายได้ในระยะยาว
  3. การสร้างโปรแกรมความภักดีที่ตรงใจผู้เรียน
    • CRM สามารถช่วยให้ธุรกิจออกแบบโปรแกรมความภักดี เช่น การสะสมแต้มสำหรับการลงทะเบียนคอร์สหรือการเชิญเพื่อนเข้าร่วมเรียน การสร้างข้อเสนอพิเศษที่ตอบโจทย์ผู้เรียนแต่ละกลุ่มช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาผู้เรียนเก่าและดึงดูดผู้เรียนใหม่ได้ในเวลาเดียวกัน
    • การเสนอส่วนลดหรือสิทธิพิเศษสำหรับผู้เรียนที่กลับมาเรียนซ้ำช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้เรียนเกิดความภักดีต่อแบรนด์
  4. การสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับผู้เรียนในระยะยาว
    • CRM ช่วยให้ธุรกิจสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับผู้เรียน โดยการส่งข้อความแสดงความห่วงใย เช่น การแสดงความยินดีเมื่อผู้เรียนสำเร็จคอร์ส หรือการแนะนำคอร์สขั้นสูงที่น่าสนใจ
    • ความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับผู้เรียนทำให้ธุรกิจสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้เรียนและรักษาความภักดีในระยะยาว

ในปี 2025 การนำ CRM มาปรับใช้ในธุรกิจการศึกษาออนไลน์ไม่ใช่แค่การเก็บข้อมูลหรือส่งโปรโมชันทั่วไป แต่เป็นการสร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่ผู้เรียนรู้สึกถึงความใส่ใจและความเป็นส่วนตัว ธุรกิจที่สามารถประยุกต์ใช้ข้อมูลจาก CRM ได้อย่างเต็มที่ จะมีความยืดหยุ่นและความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนได้อย่างรวดเร็ว การใช้ CRM ไม่เพียงแต่ทำให้การศึกษาออนไลน์ยั่งยืน แต่ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้เรียน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตอย่างมั่นคงในยุคดิจิทัล

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

สร้างแคมเปญการตลาด ที่ทรงพลังด้วย CRM : เคล็ดลับเจาะใจลูกค้า