ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า Facebook Ads กับ Boost Post เป็นการโฆษณาบน Facebook เหมือนกัน แต่แตกต่างกันตรงที่วัตถุประสงค์ของการใช้งาน เมื่อกล่าวแบบนี้แล้ว ก็จะเกิดคำถามต่ออีกว่าการโฆษณาแบบไหนดีกว่ากันถ้าเทียบระหว่างสองอันนี้ ก่อนอื่นจะต้องทำความรู้จักก่อนว่า รูปแบบการโฆษณาที่ว่ามันคืออะไร แล้วเราสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการทำ Digital Marketing แล้วเราจะรู้ถึงข้อแตกต่างของมันนั่นเอง
เป็นการโฆษณาบน Facebook ซึ่งการโฆษณาประเภทนี้ จะมีตัวเลือกให้สำหรับผู้ที่จะทำการโฆษณาได้เลือกตามความต้องการ เพื่อให้สอดคล้องกับแคมเปญที่กำลังทำอยู่ อย่างเช่น ต้องการ Page likes ต้องการ Traffic ให้คลิกไปยังเว็บไซต์ ต้องการให้ Download ติดตั้ง App ต้องการให้คนดูวิดีโอ ต้องการ Leads กรอกข้อมูลเข้ามา หรือ Message ก็ทำได้
และจะต้องมีผู้จัดการดูแลบัญชีโฆษณาของคุณ โฆษณา Facebook มีตัวเลือกมากที่สุดสำหรับผู้ลงโฆษณาและประเภทโฆษณาที่คุณเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแคมเปญของคุณ
อัลกอริทึม Facebook ปัจจัยไหนที่ส่งผลต่อโพสต์ใน Facebook สูงสุด
โดยส่วนใหญ่ถ้าหากเป็นการโฆษณาพวก ประชาสัมพันธ์ โปรโมทสินค้าและบริการ Brand Awareness จะใช้เป็นพวก Single Image (Banner) หรือแบบ Carousel นั่นเอง
การ Boost Post ก็เป็นรูปแบบการโฆษณาแบบพื้นฐานของ Facebook แค่คุณกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ใส่เงิน ระยะเวลาในการโฆษณา โพสต์ที่เราได้ทำการกดซื้อโฆษณา จะช่วยให้มีคนเห็นโพสต์ของคุณเป็นจำนวนมาก เพราะมันจะขึ้นไปโชว์ใน News feed ของกลุ่มเป้าหมายที่คุณวางไว้ โดยปกติจะใช้การ Boost Post เมื่อเราอยากได้การตอบรับจากผู้ชม เช่น likes, Comments หรือ Shares
และค่อยใช้รูปแบบ Facebook Ads เป็นการ Remarketing กลับไปยังกลุ่มคนที่เคยเข้ามายังโพสต์หรือเพจหรืออะไรก็ตามที่เป็นของเราได้ เพื่อย้ำให้คนจำ
1.วัตถุประสงค์ของการใช้งาน Objective เพราะสำหรับคนมักจะเข้าใจว่า ทำไมเราซื้อโฆษณาแล้ว แล้วทำไมคนถึงกดไลก์ กดแชร์ ได้ไม่เท่ากับคนอื่นที่เขาโพสต์โฆษณาทั้งๆ ที่เป็นประเภทเดียวกัน เป็นเพราะเราทำผิดหรือเปล่า ถึงได้ยอดไลก์กับแชร์ต่ำ
ต้องย้อนกลับมาถามตัวเองว่า วัตถุประสงค์ของเราต้องการทำเพื่ออะไร ถ้าต้องการการยอดไลก์ยอดแชร์ ก็แค่ปรับกลุ่มให้ใหญ่ขึ้น ใส่เงินให้มากขึ้น ก็มีโอกาสที่จะได้ยอดไลก์กับแชร์ก็จะมีมากขึ้น กลับกันถ้าคุณต้องการโฆษณาเพื่อขายของโดยระบุ Location กลุ่มเป้าหมายก็แคบลง คนที่เห็นก็จะเป็นแค่คนที่อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้ โอกาสที่จะเห็นก็มีน้อยกว่า จึงไม่แปลกที่ยอดไลก์กับแชร์จะต่ำนั่นเอง แต่โอกาสที่จะได้ลูกค้าที่แท้จริงก็มีมากขึ้น
2.แตกต่างกันตรงที่แบบ Facebook Ads จะมี Call To Action เป็นปุ่มที่สามารถตอบสนองกับผู้บริโภคได้ เช่น Shop now, Sign Up, Learn More หรือ Send Message
3.ถ้าอยากกระตุ้นให้คนได้รับข่าวสารและแสดงการตอบรับ Post Engagement ก็ควรใช้เป็น Boost post นั่นเอง
จากที่กล่าวมาโดยรวมแล้วมีประโยชน์ทั้งคู่ อยู่ที่กระบวนการทำงานของแต่ละคน ว่ามีวัตถุประสงค์ ต้องการทำเพื่ออะไร เพื่อเลือกใช้เครื่องมือให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ถ้าคุณกำลังมองหา Digital Agency ในการช่วยทำการตลาดออนไลน์ Ourgreenfish สามารถช่วยคุณได้ ทำไมถึงต้องใช้ Digital Agency ในการทำการตลาดออนไลน์
สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter
Aphikiat Techajarupun X Ourgrrenfish