โฆษณา Google Adwords นั้น ต้องเข้าใจถึงระบบคิดค่าใช้จ่ายในเบื้องต้นก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งเรียกว่า Bid Strategy คือการจ่ายเงินในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเราสามารถเลือกกำหนดเองได้ ในแต่ละแคมเปญ ซึ่ง Google Adwords มักจะแบ่งการกำหนดค่าใช้จ่ายออกเป็น 4 รูปแบบใหญ่ๆ ด้วยกัน
โมเดลการคิดเงินของ โฆษณา Google Adwords
- CPC (Cost per Click) คืออะไร
คือการจ่ายเงินเมื่อมีการคลิกโฆษณาของเราเท่านั้น นั่นหมายถึงไม่ว่าโฆษณาจะโชว์ไปกี่ครั้งก็ตาม แต่ถ้าหากไม่มีการคลิก เท่ากับเรายังไม่ต้องจ่ายเงิน นับว่าเป็นข้อดีมากๆ เหมือนกับเราได้ลงโฆษณาให้คนเห็นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าจะไม่มีคนคลิกเลยก็ตาม เหมาะสำหรับธุรกิจสินค้าและบริการที่เน้นยอดคนคลิกเข้าเว็บไซต์ เพราะเท่ากับเราจ่ายเงินตามที่มีคนเข้าคลิกจริง เหมาะสำหรับการโฆษณาทั้งในรูปแบบ Paid Search และ Display
- CPA (Cost per Action, Cost per Acquisition) คืออะไร
CPA จะมีคุณสมบัติที่คล้ายกับ CPC เพียงแต่แตกต่างกันเล็กน้อย CPA คือการเน้นการกระทำอย่างเช่น การสั่งซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือ Conversion (คอนเวอร์ชัน) นั่นเอง ซึ่งระบบจะพยายามประมวลผล มุ่งเน้นส่งโฆษณายังยังคนที่จะทำให้เกิด Conversion ให้มากที่สุดนั่นเอง ดังนั้นจึงเหมาะกับเว็บไซต์ที่เป็นอีคอมเมิร์ซเป็นหลักนั่นเอง
- CPM (Cost per Thousand Impressions) คืออะไร
CPM จะแตกต่างจาก CPC และ CPA เพราะจะคิดเงินก็ต่อเมื่อมีการแสดงโฆษณาจำนวนครบ 1,000 ครั้ง ดังนั้นต่อให้มีคนคลิกเป็นจำนวนหลายครั้ง ก็จะไม่ถูกคิดเงินเพิ่ม เพราะคิดเงินตามจำนวนที่โฆษณาแสดงโชว์นั่นเอง ซึ่งเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการสร้างโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้โดยเฉพาะ (Brand Awareness) ซึ่งวิธีการคิดเงินแบบนี้จะไม่ปรากฏใน Paid Search แต่จะมีใน Display Network
- CPV (Cost per View) คืออะไร
CPV คือหลักการคิดเงินแบบนับตามจำนวนยอดรับชม ซึ่งจะปรากฏในเฉพาะการโฆษณารูปแบบวิดีโอ ซึ่งการนับยอดรับชมของ YouTube นั้น ในปัจจุบันอยู่ที่ 30 วินาที ถึงจะนับเป็น 1 วิว แต่ถ้าวิดีโอนั้นมีความยาวน้อยกว่า 30 วินาที ก็จะนับวิวเมื่อดูจนจบวิดีโอ นั่นหมายความว่าถ้าหากวิดีโอปราศจากการรับชม เท่ากับเราไม่ต้องเสียเงิน
ทำไมการ Search จึงสำคัญต่อการทำ Digital Marketing
ระบบการประมูลการคลิกคิดเงินของ Google Adwords (Maximum CPC bid limit)
ทิ้งท้ายกันกันด้วยระบบการประมูลการคลิกของ Google Adwords นั่นคือถ้าหาก Paid Search ใช้คีย์เวิร์ดที่มีคู่แข่งเป็นจำนวนมาก จะส่งผลต่อการจัดลำดับตำแหน่งของโฆษณาอย่างแน่นอน Google Adwords จะใช้ระบบการประมูลการคลิก เพื่อจัดลำดับโฆษณา การใส่จำนวนเงินลงใน Maximum CPC bid limit มาก นั่นหมายถึงการจัดลำดับโฆษณาของเราจะสูงตามไปด้วย
ซึ่งหลายคนกังวลไปว่า ถ้าใส่จำนวนเงินลงใน Maximum CPC bid limit ยิ่งสูง จะเสียเงินมากยิ่งขึ้น เป็นการเข้าใจถูกเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ถ้าหากคียเวิร์ดนั้นมีคู่แข่งเป็นจำนวนน้อย อาจจะใช้เงินไม่ถึงที่กำหนดไว้เสียด้วยซ้ำ และระบบการประมูลคลิกคิดเงินยังนำไปใช้ใน Display อีกด้วย
สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter