เรียน Digital Marketing สำหรับบุคคลทั่วไป ควรเลือกจากอะไร

เรียน Digital Marketing ที่ไหนดี? นี่อาจจะเป็นคำถามแรกในใจของคนที่อยากจะเรียน Digital Marketing ซึ่งตัวแปรหลายตัวมีปัจจัยมากที่ส่งผลต่อการเรียน Digital Marketing ลองมาดูกันก่อนดีกว่าว่าหลักสูตรของ Digital Marketing

ซึ่งหลักสูตรของ Digital Marketing นั้นสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 แบบ ใหญ่ ๆ คือ

1. หลักสูตรระยะยาว
   เรียนหลายชั่วโมง มีทั้งเปิดในมหาวิทยาลัยและนอกมหาวิทยาลัย การเรียนหลักสูตรระยะยาวมีข้อดีหลายอย่างคือการเรียนการสอนที่มีข้อมูลครบถ้วน มีรายละเอียด และเรียนอย่างครอบคลุม บางที่อาจมีประกาศนียบัตรให้ด้วย ทำให้หลายคนตัดสินใจเลือกเรียนแบบหลักสูตรระยะยาว แต่ก็มีข้อที่ควรระวังเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เรียนต่อเนื่องเป็นระยะยาวนาน ทำให้ลายคนอาจตัดสินใจไม่เลือกเรียนหลักสูตรระยะยาวก็ได้
2. หลักสูตรระยะสั้น
   เป็นหลักสูตรกะทัดรัด ใช้เวลาเรียนเพียง 1- 2 วันเท่านั้น ส่วนมากแล้วการเรียนหลักสูตรระยะสั้นมักจะได้รับความนิยมมากกว่าแบบระยะยาว เนื่องจากข้อดีของการเรียนหลักสูตรระยะสั้นคือ ใช้เวลาน้อยกว่าหลักสูตรระยะยาวมาก หากไม่สะดวกก็สามารถเลือกลงในวันอื่น ๆ ได้ อีกทั้งราคาประหยัด บางที่เริ่มต้นเพียงหลักพันเท่านั้น แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดทางด้านระยะเวลา ทำได้อาจได้ข้อมูลไม่ครบถ้วนเท่ากับหลักสูตรระยะยาวนั่นเอง

วิเคราะห์ Google Analytics เว็บไซต์ของเรา จำเป็นต้องดูค่าอะไรบ้าง

3 สิ่ง ที่ทุกคนจำเป็นต้องรู้ก่อนใช้ Google Ads

จัดกลุ่ม Keyword ใน Google Ads อย่างไร ให้โฆษณาออกมาดี CTR สูง

ความเข้าใจผิด Digital Marketing 3 อย่าง ที่ควรเปลี่ยนความคิดเสียใหม่

เรียน Digital Marketing ควรเลือกจากอะไรเป็นสำคัญ?

ถึงแม้ว่า Digital Marketing มีหลักสูตร และสถานที่ที่เปิดให้เรียนมากมาย เราจำเป็นที่จะต้องเลือก แล้วเราควรเลือกจากอะไรดี แน่นอนทาง Ourgreenfish สรุปมาให้เป็นข้อดังนี้

• หลักสูตรสามารถนำไปใช้ต่อยอดได้ และอัพเดตอยู่สม่ำเสมอ
  Digital Marketing มีการแยกย่อยหลักสูตรหลากหลายขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เรียน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนแบบเวิร์กช้อปเน้นการใช้เครื่องมืออย่าง Facebook Ads, Google Ads, Line@ รวมไปถึงแนวคิดของ Digital Marketing ต่าง ๆ แน่นอนว่าผู้เรียนควรเลือกจากสิ่งที่ตัวเองสนใจ และต้องการนำไปใช้งานจริง ๆ เพราะมิฉะนั้น เรียนไปแล้วไม่นำไปต่อยอด หรือใช้ต่อ ทำให้สิ่งที่เรียนมาสูญเปล่า และอย่าลืมว่าตัวหลักสูตรเองจำเป็นที่จะต้องอัพเดตความรู้อยู่อย่างสม่ำเสมอ เนื่องจาก Digital Marketing เป็นความรู้ที่มาเร็วไปเร็ว ความรู้ในวันนี้ อีกสักปีหรือสองปีอาจตกยุคไปเรียบร้อย ดังนั้นตัวหลักสูตรเองต้องปรับให้สดใหม่เสมอ ลองอ่านหลักสูตรแล้วพิจารณาดูว่าจะให้ประโยชน์กับเราได้แค่ไหน

เริ่มโฆษณาออนไลน์ จะเริ่มจาก Facebook Ads หรือ Google Ads ก่อนดี?

3 ความผิดพลาดโฆษณา Facebook Ads และ Google Ads เมื่อจัดการด้วยตัวเอง

• วิทยากรต้องมีประสบการณ์จริง มีความรู้จริง
  ผู้สอนที่ดีอย่างน้อยต้องมีความรู้ในด้านนั้น ๆ เชิงลึก และแค่มีความรู้ยังไม่พอ แต่ต้องมีประสบการณ์ในการทำงานจริงอีกด้วย ประสบการณ์ของ Digital Marketing ก็มีความหลากหลาย ตั้งแต่การใช้แนวคิด การวางแผน การใช้เครื่องมือ รวมไปถึงการทำงานร่วมกับหลากหลายประเภทธุรกิจ เพราะผู้ที่มาเรียนนั้นแน่นอนว่าต้องมาจากหลากหลายประเภทธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนที่อยากมีความรู้เพิ่มเติม เจ้าของกิจการขนาดเล็กที่ต้องการให้สินค้าขายดี หรือแม้กระทั่งนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการทักษะก่อนที่จะทำงานจริง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมวิทยากรถึงควรจะต้องมีความรู้ที่ครอบคลุม และมีประสบการณ์ที่หลากหลายควบคู่กันไป
  
  
• วันเวลาและสถานที่ต้องพร้อม สะดวกเดินทาง
  แน่นอนว่าสถานที่ของการไปเรียน จำเป็นที่จะต้องเดินทางสะดวก ยิ่งโดยเฉพาะอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าได้ยิ่งดีมาก เพราะไม่จำเป็นที่จะต้องขับรถมาเอง หลีกเลี่ยงรถติด ส่วนวันเวลานั้น ขึ้นอยู่กับเราเป็นหลักแน่นอนว่าสำหรับเหล่าคนที่ทำงานประจำ ถ้าได้วันที่เรียนเป็นเสาร์หรืออาทิตย์ก็จะดีมาก ส่วนสถานที่ห้องเรียนต้องมีความพร้อมทั้งในด้านอาหาร ต้องจัดเตรียมให้กับผู้เข้าเรียน มีการแบ่งเวลาพัก ตารางเวลาว่าวันนี้จะเรียนอะไรบ้าง

วิธีใช้ Negative Keywords สำหรับมือใหม่ แบบฉบับเจาะลึก ใช้เป็นแน่นอน

[How To] วิธีกำหนด กลุ่มเป้าหมาย Facebook ให้แคบลงแบบ Narrow Audience

[How to] โฆษณา Facebook แบบมือโปร เปลี่ยนรูปตาม Placement อัตโนมัติ ตามใจสั่ง

Rules บน Facebook Ads คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ช่วยอะไรได้บ้าง

Remarketing Lists for Search Ads คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ควรจะทำดีไหม?

Instagram ดูโฆษณา ที่กำลังใช้งานอยู่ได้แล้ว

จะเห็นได้ว่าการเลือกเรียน Digital Marketing จำเป็นต้องตัดสินใจ เพื่อให้เกิดผลประโยชน์กับตัวเองมากที่สุด ซึ่งทาง Ourgreenfish ร่วมกับเว็บไซต์ Digital Marketing Wow ได้เปิดหลักสูตรระยะสั้นเป็นจำนวนทั้งสิ้น 4 หลักสูตรด้วยกัน

• Digital Marketing Mix
  ช่องทางไหน…ส่วนผสมอย่างไร? ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ รู้จักช่องทาง รู้จักการวางแผนส่วนผสม ประเมินผลเป็นและการปรับปรุงแก้ไข มุ่งเน้นความรู้ความเข้าใจในแนวคิด เครื่องมือ และเครื่องมือเชิงลึกที่จะนำมาใช้ในการวางแผนให้ได้ผลดียิ่งขึ้น วางแผนและเลือกช่องทางที่เหมาะสมกับธุรกิจ รู้จักการตั้ง KPI ให้สัมพันธ์กับวัตถุประสงค์ สามารถวิเคราะห์และประเมินผลเพื่อปรับปรุงแผนงานได้
  
  
• Inbound Marketing
  เรียนรู้แนวคิดการทำ Digital Marketing ด้วย Inbound Marketing รู้ลึก รู้จริง กับการตลาดดิจิทัลในรูปแบบของ Inbound Marketing ที่แตกต่าง โดยเป็นหลักสูตรสำหรับบุคคลทั่วไป โดยต้องการแนวคิดในรูปแบบใหม่ ที่แตกต่างจาก Digital Marketing แบบเดิม มุ่งเน้นความรู้ความเข้าใจในแนวคิด และเทคนิค การทำ Inbound Marketing
  
  
• Facebook Ads (Workshop)
  ใช้ Facebook Ads ให้เป็น จากพื้นฐานสู่แอดวานซ์ เน้นเวิร์กชอป ทำจริง ลงมือจริง ทั้งแบบ Traffic, Engagement, Video View, Message, Page Like และ Lead Generation สำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการความรู้ในด้านโฆษณาของ Facebook เริ่มตั้งแต่การเรียนรู้โฆษณาในขั้นพื้นฐาน จนไปถึงแบบเจาะลึก ได้เวิร์คช้อปกันจริง ทำโฆษณาจริง เห็นผลจริง รู้กระบวนการโฆษณาของ Facebook ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ว่าระบบทำงานเป็นอย่างไร รวมไปถึงทริกเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการโฆษณาบน Facebook

• Google Ads (Workshop)
  ใช้ Google Ads ให้เป็น จากพื้นฐานสู่แอดวานซ์ เน้นเวิร์กชอป ทำจริง ลงมือจริง เริ่มตั้งแต่การเรียนรู้โฆษณาในขั้นพื้นฐาน จนไปถึงแบบเจาะลึก ได้เวิร์คช้อปกันจริง ทำโฆษณาจริง ตั้งแต่ Paid Search, Display, Video รู้กระบวนการโฆษณาของ Google Ads ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ว่าระบบทำงานเป็นอย่างไร รวมไปถึงทริกเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการโฆษณาบน Google Ads

หริอสามารถคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่าง เพื่ออ่านรายละเอียดของหลักสูตรต่าง ๆ เพิ่มเติม

https://digitalmarketingwow.com/training/