การทำโฆษณาออนไลน์ในปัจจุบันนี้มีด้วยกันหลายรูปแบบ แต่รูปแบบที่ได้รับความนิยมและเห็นบ่นที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Facebook Ads ที่สามารถทำโฆษณาออนไลน์ได้ทั้งบนแพลตฟอร์ม Facebook และ Instagram แต่ต่อให้เป็น Instagram ก็ต้องทำผ่านเฟซบุ๊กอีกอยู่ดี
ซึ่งสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำ Facebook Ads อาจเกิดความสงสัยในขั้นตอนของการสร้างแคมเปญว่า เลือก Objective Facebook Ads อย่างไรดี ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทำไมบางทีเลือกตัวใดตัวนึงไป แต่กลับได้ผลลัพธ์ไม่ตรงกับที่คิดไว้ วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน…
เรียนรู้วิธี เลือก Objective Facebook Ads
ก่อนที่จะเริ่มสร้างแคมเปญ อย่างแรกที่เราต้องทำเป็นอันดับแรกนั้นก็คือการ เลือก Objective Facebook Ads แต่ก็มีอีกหลายคนที่พึ่งเริ่มต้นทำโฆษณาบนเฟซบุ๊กที่ไม่รู้ว่าต้องเลือกตัวไหน ถึงจะตรงกับเป้าหมายของแต่ละแคมเปญ ซึ่งObjectiveแต่ละตัวมี 3 หมวดเป็นดังนี้
หมวดการรับรู้ (Awareness)
หมวดการรับรู้จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเห็นโพสต์หรือโฆษณาในแคมเปญของเรา สามารถเข้าถึงคนจำนวนมากๆ ได้ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 วัตถุประสงค์ คือ
- การรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness)
ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้แบรนด์ของเรา โดยที่ไม่ได้คาดหวังไลก์, คอมเม้นต์ หรือแชร์ใดๆ แค่ต้องการให้จดจำโฆษณาและแบรนด์ได้
- การเข้าถึง (Reach)
หากเป้าหมายของคุณคือการเข้าถึงมากที่สุดและให้กลุ่มเป้าหมายเห็นโฆษณาของคุณซ้ำๆ วัตถุประสงค์นี้เหมาะสมที่สุด
หมวดการพิจารณา (Consideration)
หมวดนี้จะเน้นการที่ให้ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กับโพสต์ของคุณ ไม่ว่าจะทางใดก็แล้วแต่ โดยมีทั้งหมด 6 วัตถุประสงค์ คือ
- จำนวนผู้เข้าชม (Traffic)
เมื่อคุณต้องการให้ผู้ใช้งานไปยังนอก Facebook เช่น อ่านบทความบนเว็บไซต์, ดูข้อมูลสินค้าผ่านทางหน้า Landing Page เป็นต้น โดยจะโชว์ไปยังผู้ใช้งานบน Facebook ที่มีแนวโน้มจะคลิกลิงก์ของคุณมากที่สุด
- การมีส่วนร่วม (Engagement)
เป็นการโชว์โฆษณาโดยต้องการให้มีการไลก์, คอมเม้นต์, แชร์ ถ้าโพสต์ของคุณมีตัวใดตัวหนึ่งที่มี Organic สูงๆ นี่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดและวัตถุประสงค์นี้ยังเหมาะกับการทำ Remarketing
- จำนวนการติดตั้งแอป (App Installs)
วัตถุประสงค์ของตัวเลือกนี้คือต้องการให้กลุ่มเป้าหมายดาวน์โหลดติดตั้งแอปพลิเคชันของคุณ โดยจะแสดงบนมือถือเท่านั้น
- จำนวนการรับชมวิดีโอ (Video Views)
ถ้าคุณต้องการทำวิดีโอและต้องการให้กลุ่มเป้าหมายดูวิดีโอคุณจนจบ เหมาะสำหรับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ สามารถปรับแต่งได้ 3 รูปแบบ คือ ThruPlay, 10-second Video Views, 2-second Continuous Video Views
- การสร้างลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย (Lead Generation)
เหมาะสำหรับการเก็บข้อมูลลูกค้า เพื่อนำไปทำ CRM ได้
- ข้อความ (Message)
เฟซบุ๊กจะทำการส่งโฆษณาไปยังผู้ที่มีแนวโน้มจะส่งข้อความทาง Facebook Messenger มากที่สุด และยังมี Sponsored Messenger ที่ส่งโฆษณาไปยังแอปของกลุ่มเป้าหมายโดยตรง
หมวดคอนเวอร์ชัน (Conversion)
หมวดนี้มีวัตถุประสงค์แล้วว่ากลุ่มเป้าหมายต้องกระทำอะไรบ้างอย่าง มี 3 วัตถุประสงค์ คือ
- คอนเวอร์ชัน (Conversion)
หากลุ่มเป้าหมายที่จะให้เกิดการกระทำอย่างใดอย่างนึงกับเว็บไซต์ เช่น ซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ เป็นต้น เพื่อกระตุ้นยอดขาย หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ ต้องทำการติด Facebook Pixel ก่อน
- ยอดขายจากแค็ตตาล็อก (Catalog Sale)
ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ทำเว็บไซต์แบบ E-commerce เป็นอย่างมาก ซึ่งจะทำงานเหมือนเป็นแค็ตตาล็อกสินค้า แถมยังสามารถเลือก Remarketing คนที่เคยเข้ามาดูสินค้าออนไลน์ของคุณได้ด้วย
- การเยี่ยมชมหน้าร้าน (Store Traffics)
หากคุณต้องการให้คนที่อยู่ใกล้พื้นที่ที่คุณมีหน้าร้านเข้ามาเยี่ยมชมหน้าร้านของคุณ ตัวเลือกนี้จะช่วยให้คุณเข้าถึงคนในพื้นที่นั้นได้
เพียงเท่านี้ ก็สามารถยิงโฆษณาเฟซบุ๊กได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นตามที่ธุรกิจของคุณต้องการแล้ว ผู้ที่กำลังเริ่มต้นทำ Facebook Ads ที่ยังไม่รู้กลุ่มเป้าหมายหรือไม่รู้วัตถุประสงค์ในการทำ อาจทดลองทำโฆษณาแค่แคมเปญเล็กๆ เพื่อดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก่อนได้ แล้วค่อยขยายขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ดีกว่าเดิม
อ่านบทความเพิ่มเติม : โฆษณา FACEBOOK มีข้อดีอย่างไร และทำไมถึงต้องเป็น FACEBOOK
ที่มา : [2], [3]
Supattra Ammaranon x Ourgreenfish