<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

กลยุทธ์หลักของ MarTech คือการให้ความสำคัญกับ Data

เมื่อเราก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่แวดวงการตลาดมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ข้อมูล หรือ Data จะกลายเป็นรากฐานที่สำคัญของ MarTech ซึ่งนักการตลาดในปัจจุบันสามารถเข้าถึงแหล่งรวมข้อมูลที่ละเอียดและกว้างกว่าที่เคย ทำให้เกิดคำถามที่ว่าธุรกิจควรพัฒนากลยุทธ์จากข้อมูลที่มีให้เกิดผลลัพธ์ที่จับต้องได้อย่างไร ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลไปจนถึงการจัดเก็บ และปรับใช้กับกลยุทธ์ ไม่ว่าเราจะอยู่ในอุตสาหกรรมใดก็ตาม การจัดการกับข้อมูลคือส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากกลยุทธ์การตลาดของเราได้ หากวันนี้องค์กรของเรากำลังมุ่งหน้าที่จะนำ MarTech มาใช้ เรามาดูวิธีการและการจัดการกับข้อมูลไปพร้อม ๆ กันครับ


การรวบรวมข้อมูลผู้ใช้บริการหรือคนที่มีโอกาสเป็นลูกค้า

ในปัจจุบัน นักการตลาดสามารถเก็บข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายช่องทาง บางครั้งแหล่งข้อมูลที่สําคัญที่สุดคือข้อมูลของบุคคลที่มาจากฐานผู้ใช้เอง การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น สื่อโซเชียลมีเดีย หรือแอปพลิเคชัน สามารถให้ข้อมูลที่สามารถใช้งานได้อย่างน่าเชื่อถือด้วยต้นทุนที่ต่ำ ตัวอย่างเช่น การลงทะเบียนผู้ใช้ในระบบที่ส่งเสริมการตลาดของเรา (ระบบ CRM หรือ Loyalty) ที่สามารถให้ข้อมูลการใช้สินค้าหรือบริการของลูกค้า

อย่างไรก็ตามการรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้เป็นสิ่งสําคัญที่เราต้องคำนึงถึงข้อบังคับทางกฎหมายและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ซึ่งผู้ออกกฎหมายเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลลูกค้าทั่วโลกมีความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของการรวบรวมข้อมูลของผู้คน โดยทุก ๆ องค์กรหรือนักการตลาดต้องไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวจากข้อมูลของแต่ละบุคคล เพื่อให้เราประสบความสําเร็จในการใช้ข้อมูลมาขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดในระยะยาว เราต้องออกแบบวิธีการรวบรวมข้อมูลของลูกค้าหรือผู้ที่สนใจสินค้าเข้ามาร่วมแคมเปญด้วยความยินยอมเสมอ

ในปัจจุบันมีหลายองค์กรหันมาใช้ MarTech เพื่อเก็บข้อมูลขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น

การได้ข้อมูลมาจากผู้เชี่ยวชาญหรือเอเจนซี่ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าแหล่งข้อมูลที่สําคัญอีกแหล่งหนึ่งที่เราได้มานั้นเป็นข้อมูลที่มีคุณภาพ เอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญด้าน Marketing Technology มีประโยชน์อย่างยิ่งสําหรับเป็นที่ปรึกษาให้กับธุรกิจต่าง ๆ ที่ยังปรับตัวไม่ทันกับโลกของการตลาดสมัยใหม่ เอเจนซี่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกโดยละเอียดกับธุรกิจที่มาใช้บริการ ซึ่งสามารถช่วยให้เรามีโอกาสในการขายมากขึ้น

New Marketing Plan MarTech Plan

เราจะจัดเก็บข้อมูลของเราไว้ที่ใด เราสามารถใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน

เมื่อเรารู้วิธีในการเก็บข้อมูลแล้ว ความท้าทายต่อไปคือการหาวิธีจัดเก็บข้อมูลและมีความสามารถในการใช้ข้อมูลได้ทุกที่ในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ในอนาคตแพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลจะมีความสำคัญและซับซ้อนมากขึ้น การสร้างโครงสร้างพื้นฐานการจัดการข้อมูลของเราอาจมีราคาแพงขึ้น อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมี Marketing Software เกิดขึ้นมาให้เราได้เลือกใช้มากมาย โดยที่เราไม่ต้องลงทุนกับการติดตั้งหรือเขียนโค้ดขึ้นมาเอง ซึ่งมีข้อดีในแง่ของความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และเปิดใช้งานง่าย มีนักพัฒนามากมายเสนอบริการจัดการข้อมูลที่หลากหลายเช่นกัน ทั้ง CRM Software หรือเครื่องมือ MarTech อื่น ๆ เราเห็นว่าการจัดการข้อมูลบน Cloud มีความสำคัญมากขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ในตอนนี้มีข้อมูลบน Cloud จำนวนมหาศาลถูกนำไปใช้งานตามวัตถุประสงค์ของแต่ละธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะกิจกรรมด้านการตลาดนั้นคือหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เน้นการเข้าถึงลูกค้าด้วยข้อมูลผ่านเครื่องมือ MarTech ต่าง ๆ

 

การพัฒนากลยุทธ์ด้านข้อมูลแบบครบวงจร

ปัจจุบันธุรกิจต่าง ๆ มีวิธีการในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลในปริมาณที่มากขึ้น อย่างไรก็ตามการมีแผนกลยุทธ์ด้านข้อมูลที่ดีไม่ได้หมายความว่าทุกธุรกิจจะมีกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพเสมอไป ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ ไปจนถึงการใช้แดชบอร์ด มักถูกนำไปใช้ในลักษณะที่ไม่เป็นระบบ ดังนั้นเราเลือกเครื่องมือจัดการข้อมูลที่เหมาะสมกับธุรกิจของตัวเองจริง ๆ จึงจะส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพ นักการตลาดสมัยใหม่ได้ให้ความสำคัญกับการนำข้อมูลมาประยุกต์ใช้มากขึ้นในธุรกิจต่าง ๆ และผู้บริหารยุคใหม่ยังให้ความสนใจกับการพัฒนากลยุทธ์ด้านข้อมูลแบบครบวงจรอีกด้วย

Inbound Marketing Webinar

คำถามสำคัญที่ต้องถามก่อนเริ่มใช้กลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

เราวางแผนจะทำอะไรกับข้อมูล กลยุทธ์ข้อมูลที่ดีต้องมีวัตถุประสงค์ที่เป็นรูปธรรม และมีกรอบเวลา หรือ Timeline ที่ชัดเจน ว่าเราเก็บข้อมูลมาเพื่อวัตถุประสงค์ใด จะเสร็จตามเป้าหมายเมื่อไหร่ เช่น บางแดชบอร์ดเหมาะสมกับการวิเคราะห์กับข้อมูลบางประเภท เราต้องมีกลยุทธ์ที่เฉพาะเจาะจงกับข้อมูลชุดนั้น ๆ แต่ละกลยุทธ์ควรคำนึงถึงการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลในทุกขั้นตอนของ Customer Journey ตั้งแต่โฆษณาที่กำหนดเป้าหมายตามภูมิศาสตร์หรือพฤติกรรม ไปจนถึงกลยุทธ์หลังการขายที่มีข้อมูลสำหรับต่อยอดทำ CRM Marketing

 

การลดขนาดข้อมูลให้เหลือน้อยที่สุดก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

ระบบการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากที่องค์กรของเราใช้ อาจไม่ได้สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงโลกที่เน้นข้อมูลเป็นศูนย์กลางแบบในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น ข้อมูลการขายของเราอาจถูกแยกออกจากข้อมูลเกี่ยวกับการสงเสริมโฆษณา ซึ่งอาจแยกได้จากข้อมูลการวิจัยและการทดลองต่าง ๆ ในขณะที่เราพัฒนากลยุทธ์เราจะเริ่มเห็นข้อมูลที่ดีหรือข้อมูลที่จำเป็นขึ้นมาชัดเจนมากขึ้น เราควรพยายามลดการสะสมข้อมูลให้เหลือน้อยที่สุด คัดกรองให้เหลือแต่กลุ่มที่มีโอกาสจะเป็นลูกค้าของเราเท่านั้น ที่สำคัญควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องมือ MarTech ต่าง ๆ สามารถเชื่อมต่อกันได้และเอื้ออำนวยต่อการแบ่ง Segment เฉพาะกลุ่ม ดังนั้น ทุกการตัดสินใจด้วยข้อมูล เราต้องคำนึงถึงเหตุผลของการใช้ให้ได้มากที่สุด

การเก็บข้อมูลมาคัดกรองให้เหลือแต่คนที่มีโอกาสเป็นลูกค้า คือหนึ่งในกลยุทธ์การเก็บข้อมูล

วางกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data Driven Marketing) คือเรื่องที่ทุกธุรกิจในปัจจุบันรวมถึง Startup จำเป็นต้องใส่ใจเกี่ยวกับการนำข้อมูลมาใช้ แม้ว่าเครื่องมือในการรวบรวมและวิเคราะห์จะมีราคาถูก และมีให้บริการอยู่ทั่วไป แต่กลยุทธ์ก็ยังคงเป็นหัวใจสำสัญของการทำธุรกิจอยู่เสมอ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าข้อมูลจะต้องกลายเป็นส่วนสำคัญต่อการดำเนินงานของทุก ๆ องค์กร เพื่อให้ประสบความสำเร็จในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลนี้ เราต้องเข้าใจว่าเรากำลังรวบรวมข้อมูลไปทำอะไรและเพราะอะไร

ถ้าอยากรู้แนวทางการทำการตลาดสมัยใหม่ แนะนำให้ศึกษา New Marketing Plan เพิ่มเติม คลิก www.ourgreenfish.com 

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

Recent Posts