Digital Blog - Ourgreenfish

Marketing Trends : แนวโน้มการตลาดปี 2024 ด้วยข้อมูลจากนักการตลาดทั่วโลกมากกว่า 1,400 คน

เขียนโดย OURGREENFISH TEAM - 3 เม.ย. 2024, 6:00:00

Marketing Trends : คุณอาจหวังว่าจะมีเวลาและทรัพยากรไม่จำกัดในการทำงานที่วุ่นวาย คิดไอเดียที่เปลี่ยนแปลงเกม และมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้แก่ลูกค้าได้ในท้ายที่สุด ถึงแม้ว่า AI จะกลายเป็นผู้ช่วยของนักการตลาดในการทำภารกิจต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่ทว่าก็ทำให้ภาพรวมและการแข่งขันทางการตลาดของเราต้องพัฒนาเร็วยิ่งขึ้นไปด้วย โดยข้อมูลจากการสำรวจนักการตลาด B2B และ B2C จำนวน 1,460 คนทั่วโลก เราจะมาเจาะลึกถึงเทรนด์การตลาดยอดนิยมในปี 2024 วิธีที่ AI จะเปลี่ยนอุตสาหกรรมของเราอย่างต่อเนื่อง และวิธีที่คุณสามารถเอาชนะใจลูกค้าในยุคนี้ได้

Marketing Trends : การค้นพบที่สำคัญ

  • AI กลายเป็นผู้ช่วยทางการตลาดขั้นสูงสุดที่รวดเร็ว แต่ยังคงเผชิญกับอุปสรรคในการนำไปใช้ เช่น ข้อกังวลด้านความปลอดภัยของงาน ชื่อเสียงของแบรนด์ และการขาดความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้งาน

  • ในปี 2024 โซเชียลมีเดียสามารถขับเคลื่อน ROI ที่สูงขึ้นกว่าที่เคย เนื่องจากแอปพลิเคชันเหล่านี้พัฒนาไปสู่แพลตฟอร์ม E-commerce ที่ราบรื่น 

  • แอปพลิเคชันที่เน้นวิดีโอเป็นหลัก เช่น TikTok, Instagram และ YouTube จะมีการเติบโตมากที่สุดในปี 2024 แต่ทว่า Facebook ก็ยังคงถูกใช้มากที่สุดและเชื่อมโยงกับ Instagram เพื่อให้ได้ ROI สูงสุด

  • วิดีโอแบบสั้นให้ ROI ของ Content สูงสุด จะได้รับการลงทุนมากกว่ารูปแบบอื่น ๆ ทั้งหมด 

  • นักการตลาดจะหันมาใช้การกำหนดเป้าหมายบนโซเชียลมีเดีย ข้อมูลจาก first-party และเครื่องมือ AI เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลังจากที่ Chrome ยุติการใช้คุกกี้ของ third-party

Marketing Trends ยอดนิยมปี 2024

  1. Marketing Trends : AI กลายเป็นผู้ช่วยด้านการตลาด Content ขั้นสูงสุด 

เราไม่สามารถพูดคุยเกี่ยวกับแนวโน้มทางการตลาดได้หากไม่มี AI โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ AI กำลังกลายเป็นผู้ช่วยทางการตลาดขั้นสูงสุดที่รวดเร็ว โดยนักการตลาด 64% ใช้มันแล้ว และ 38% ของผู้ที่ยังไม่ได้วางแผนที่จะเริ่มในปี 2024 ซึ่ง Sean Downey ประธาน Google ประจำอเมริกาและพันธมิตรระดับโลก เชื่อว่านี่จะเป็นเทรนด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปี 2024 เขาบอกกับ HubSpot ว่า "ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่ในปี 2024 เทรนด์การตลาดที่สำคัญที่สุดจะมุ่งเน้นไปที่ความเป็นไปได้ของ AI โดยในปัจจุบัน นักการตลาดต้องเผชิญกับความท้าทายจากความคาดหวังของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และพฤติกรรมการบริโภคในภูมิทัศน์ของสื่อ ซึ่งกระจัดกระจายและเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น"

เขากล่าวเสริมว่า "AI กำลังเข้ามาช่วยในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงสำหรับทุกคน รวมถึงนักการตลาดด้วย ที่จริงแล้ว นอกเหนือจากการเชื่อมโยงแบรนด์และผลิตภัณฑ์เข้ากับผู้คนแล้ว นักการตลาดยังต้องเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตให้กับบริษัทของตนอีกด้วย"

สิ่งที่น่าสนใจ เมื่อเราดูว่านักการตลาดมองว่า AI ถูกนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร โดย 60% กล่าวว่า AI จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยที่ช่วยให้พวกเขาปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ ได้ ในขณะที่ 20% มองว่า AI เข้ามาแทนที่มนุษย์ แต่ไม่มีการโต้แย้งว่า AI ได้สร้างความฮือฮาให้กับโลกแห่งการตลาดในปี 2024 

85% ของนักการตลาดกล่าวว่า Generative AI ได้เปลี่ยนวิธีการสร้าง Content ในปี 2024 และ 63% กล่าวว่าในปี 2024 Content ส่วนใหญ่จะถูกสร้างขึ้นอย่างน้อยบางส่วนด้วยความช่วยเหลือของ Generative AI 

นักการตลาดที่ใช้ Generative AI ต่างเห็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม โดยกล่าวว่าสิ่งนี้ช่วยให้พวกเขาสร้าง Content คุณภาพสูงขึ้นและทำงานได้ดีขึ้น ดังที่ Briana Rogers หัวหน้าฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Miro บอกว่า "นักการตลาดจะต้องเรียนรู้วิธีบูรณาการ AI เข้ากับงานของพวกเขา" เธออธิบายว่า "พื้นที่นี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเราจำเป็นต้องทดลองกับทุกสิ่ง เช่น การใช้ประโยชน์จาก Machine Learning เพื่อปรับปรุงการซื้อโฆษณา หรือการสร้างแบบจำลองมูลค่าเชิงคาดการณ์ของลูกค้า ไปจนถึงพื้นที่ใหม่ ๆ เช่น การระบุรูปแบบในการวิจัยและข้อมูลผู้ใช้ ช่วยเหลือในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และสร้างแคมเปญสำหรับลูกค้าแบบเต็มรูปแบบโดยขับเคลื่อนด้วย AI"

81% ของนักการตลาดที่ใช้ Generative AI กล่าวว่าสามารถช่วยพวกเขาในบทบาทของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเรื่องดหล่านี้

  • ปรับปรุงคุณภาพของ Content ที่พวกเขาสร้าง (85%)
  • สร้าง Content ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น (84%)
  • สร้าง Content มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (82%)
  • สร้าง Content ที่เป็น Personalized มากขึ้น (77%) 

ยิ่งไปกว่านั้น 56% ของนักการตลาดที่ใช้ Generative AI ในการสร้าง Content กล่าวว่า Content นี้ทำงานได้ดีกว่า Content ที่สร้างขึ้นโดยไม่มี AI

นอกจากนี้ การสำรวจของเรายังแสดงให้เห็นว่านักการตลาดที่ใช้เครื่องมือ AI หรือระบบอัตโนมัติ มีแนวโน้มมากกว่า 95% ที่กล่าวว่ากลยุทธ์การตลาดของตนมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ใช้ แต่ข้อจำกัดที่สำคัญก็คือ AI ไม่ควรเข้ามาแทนที่ทีม Content ทั้งหมดของคุณ ลูกค้าของคุณจะไม่ต้องการสิ่งนี้ และแพลตฟอร์มอย่าง Google ก็ไม่ต้องการเช่นกัน 

 

นักการตลาดใช้ AI เพื่อสร้าง Content อย่างไร

นักการตลาดที่เราสำรวจบอกเราว่า การใช้งาน Generative AI อันดับต้น ๆ คือการใช้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล การวิจัย และการสร้าง Content 

ที่มา : https://blog.hubspot.com/marketing/hubspot-blog-marketing-industry-trends-report

เมื่อพูดถึงการสร้าง Content นักการตลาดไม่ได้แทนที่นักเขียนหรือครีเอทีฟด้วย AI แต่พวกเขาใช้ AI เป็นหลักแทน ทั้งในเรื่อง

  • การระดมความคิดหรือมุมมองใหม่ ๆ 
  • ปรับเปลี่ยน Content ที่สร้างไว้สำหรับผู้ชม รูปแบบ หรือช่องทางอื่น ๆ
  • การเขียนสำเนาหรือโครงร่างพื้นฐาน
  • สร้างภาพหรือวิดีโอพื้นฐาน

ในแง่ของประเภทของนักการตลาด Content ใช้ Generative AI ในการผลิตโพสต์บนโซเชียลมีเดีย อีเมล บล็อกโพสต์ รูปภาพ และคำอธิบายผลิตภัณฑ์ แม้ว่าทั้งหมดนี้ฟังดูดี แต่ก็มีข้อกังวลบางประการที่ควรคำนึงถึงเกี่ยวกับ AI  

ที่มา : https://blog.hubspot.com/marketing/hubspot-blog-marketing-industry-trends-report

AI ยังคงเผชิญกับอุปสรรค

การปฏิวัติ AI เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จึงไม่น่าแปลกใจที่นักการตลาดเกือบครึ่งกังวลว่า AI จะเข้ามาแทนที่งานของตน 23% คิดว่านักการตลาดควรหลีกเลี่ยงการใช้ Generative AI เลย แต่จากวิธีที่นักการตลาดใช้ AI จริง ๆ มันไม่ได้มาแทนที่งานของพวกเขา แต่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยมากกว่า

ในบรรดานักการตลาดที่ใช้ Generative AI เพื่อเขียนข้อความ มีเพียง 6% เท่านั้นที่ใช้มันเพื่อเขียน Content ทั้งหมดให้พวกเขา 45% ใช้สำหรับสร้างแนวคิด หรือแรงบันดาลใจ 31% ใช้สำหรับสร้างโครงร่าง และ 18% ใช้เพื่อการร่างครั้งแรก  

ที่มา : https://blog.hubspot.com/marketing/hubspot-blog-marketing-industry-trends-report

นอกจากนี้ 95% ของนักการตลาดที่ใช้ Generative AI ในการเขียนข้อความจะทำการแก้ไขข้อความ โดย 44% ใช้แก้ไขข้อความที่สำคัญ อีกประเด็นหนึ่งคือการบูรณาการ AI เข้ากับขั้นตอนการทำงานของนักการตลาด โดย 46% รู้สึกหนักใจกับโอกาสนี้ ข่าวดีก็คือ ธุรกิจต่าง ๆ กำลังพยายามอย่างเต็มที่ โดยนักการตลาด 40% กล่าวว่าบริษัทของตนได้จ้างพนักงานใหม่โดยเฉพาะเพื่อช่วยให้ทีมของตนใช้ประโยชน์จาก AI ได้

เมื่อพูดถึงการนำ AI ไปใช้โดยรวม

  • 53% ของนักการตลาดได้ผสานรวมสิ่งนี้เข้ากับขั้นตอนการทำงานประจำวันหรือภายในงานที่จำเป็น
  • 10% ยังอยู่ในช่วงทดลอง
  • 36% ไม่ใช้ AI เลย แต่ 38% ของนักการตลาดเหล่านี้จะเริ่มใช้ในปี 2024

ข้อกังวลประการหนึ่งที่นักการตลาด 60% มีร่วมกันก็คือ AI สามารถทำลายชื่อเสียงของแบรนด์ได้ เนื่องจากอคติ การลอกเลียนแบบ หรือการไม่สอดคล้องกับคุณค่าของแบรนด์ นี่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณใช้ AI เป็นผู้ช่วย คุณจะต้องแก้ไขและเฝ้าดูผลลัพธ์ทุกขั้นตอน เมื่อตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้เช่นกัน เครื่องมือ AI บางส่วนได้เปิดตัวความสามารถในการจัดหาและตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ปล่อยออกมาแล้ว ตัวอย่างเช่น Bard ของ Google จะอนุญาตให้คุณตรวจสอบผลลัพธ์อีกครั้งด้วยข้อมูลที่มีอยู่บนเว็บ เพื่อแจ้งให้คุณทราบว่ามีแหล่งข้อมูลอื่นที่สามารถยืนยันได้หรือไม่ ในขณะเดียวกันก็ให้ลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องด้วย

โชคดีที่บริษัทต่างๆ จ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการนำ AI ไปใช้ นักการตลาดก็สบายใจได้มากขึ้นที่จะใช้ AI เป็นตัวช่วย และเครื่องมือ AI ก็แม่นยำและเชื่อถือได้มากขึ้น เราคาดการณ์ว่าข้อกังวลข้างต้นจะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วในไม่ช้า

 

 

ช่องทางการตลาดยอดนิยม

  1. Marketing Trends : โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางการตลาดที่ให้ ROI สูงสุด เนื่องจากมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับ E-Commerce 

โซเชียลมีเดียถือเป็นช่องทางการตลาดอันดับ 1 อย่างไม่ต้องสงสัย ไม่เพียงแต่ให้ ROI สูงสุด แต่ยังมีนักการตลาดถึง 43% ใช้อีกด้วย

ช่องทางการตลาดยอดนิยมที่ใช้ในปัจจุบัน

  • โซเชียลมีเดีย 43%
  • อีเมล 33%
  • เว็บไซต์และบล็อก SEO 32%

ช่องทางเหล่านี้ถูกใช้โดยเปอร์เซ็นต์สูงสุดของผู้ตอบแบบสอบถามการตลาดทั่วโลกในการสำรวจแนวโน้มการตลาดในไตรมาสที่ 4 ปี 2023 

เหตุผลที่โซเชียลมีเดียมีประสิทธิภาพ ก็เพราะมันกลายเป็นช่องทางการค้นหาและซื้อผลิตภัณฑ์ นักการตลาดสามารถตั้งค่าร้านค้าเสมือนจริงเพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ราบรื่นให้แก่นักช้อป ตั้งแต่การค้นหาไปจนถึงคำแนะนำจากอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงการซื้อในแอปพลิเคชัน และการบริการลูกค้าผ่าน DM โดยการสำรวจแนวโน้มผู้บริโภค พบว่า 64% ของ Gen Z, 59% ของ Millennials และ 47% ของ Gen X ค้นหาผลิตภัณฑ์ผ่านโซเชียลมีเดียในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้น โซเชียลมีเดียยังเป็นช่องทางการค้นหาผลิตภัณฑ์ยอดนิยมสำหรับ Gen Z และ Millennials โดย Gen X และ Boomers ก็เริ่มปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเพื่อใช้งานโซเชียลมีเดีย

ยิ่งไปกว่านั้น 17% ของผู้ใช้โซเชียลมีเดียซื้อผลิตภัณฑ์โดยตรงในแอปพลิเคชันในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยในเวลานั้น หนึ่งในสี่ซื้อของตามคำแนะนำของอินฟลูเอนเซอร์ และ 19% ส่ง DM เพื่อบริการลูกค้า นอกจากนี้ ทุกครั้งที่เราทำการสำรวจแนวโน้มผู้บริโภค ตัวเลขเหล่านี้ก็มักจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่นักการตลาดจะหันมาใช้การขายผ่านโซเชียลมีเดีย 

แบบสำรวจการขายผ่านโซเชียลของเราพบว่า 87% ของนักการตลาด บอกว่าขายบนโซเชียลมีเดียนั้นมีประสิทธิภาพ และ 59% รายงานว่าผลักดันยอดขายผ่านโซเชียลมีเดียได้มากกว่าในปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน นักการตลาด 27% ใช้เครื่องมือการขายผ่านโซเชียลมีเดีย 23% ใช้ประโยชน์จากการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ และ 22% ใช้ DM ของโซเชียลมีเดียสำหรับการบริการลูกค้า ทำให้นักการตลาดวางแผนที่จะลงทุนในช่องทางเหล่านี้มากขึ้นในปี 2024 

แนวโน้มและรูปแบบ Content ยอดนิยม

  1. Marketing Trends : แอปพลิเคชันที่เน้นวิดีโอเป็นหลัก เช่น TikTok, Instagram และ YouTube เติบโตเร็วที่สุด แต่อย่าละเลย Facebook

นักการตลาดรายงานว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เน้นวิดีโอเป็นหลักนั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุดและให้ ROI ที่ดีที่สุด Instagram และ Facebook เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์ม ROI สูงสุด ตามมาด้วย YouTube, TikTok, LinkedIn และ X 

ที่มา : https://blog.hubspot.com/marketing/hubspot-blog-marketing-industry-trends-report

Facebook ยังคงเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยม (57%) รองลงมาคือ Instagram (55%), YouTube (52%), TikTok (44%), X (39%) และ LinkedIn (37%) ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Facebook ยังคงมีความโดดเด่น แต่แพลตฟอร์มที่เน้นวิดีโอเป็นหลัก เช่น TikTok, YouTube และ Instagram จะเห็นการลงทุนเพิ่มขึ้นในปี 2024 56% ของนักการตลาดที่ใช้ TikTok จะเพิ่มการลงทุนในปีหน้า ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาแพลตฟอร์มอย่าง YouTube และ Instagram 

ในแง่ของการใช้งานครั้งแรก 27% ของนักการตลาดที่ไม่ใช้ YouTube ในแผนการตลาดปี 2024 ตามมาด้วย TikTok (25%), Facebook (24%) และ Instagram (23%) แต่การแข่งขันโซเชียลมีเดียที่แท้จริงในยุคนี้ระหว่าง X และ Threads แบบสำรวจของเราแสดงให้เห็นว่านักการตลาดยังคงใช้ Twitter เวอร์ชันใหม่ล่าสุด โดย 68% คาดว่าจะเห็นความสำเร็จมากขึ้นในปี 2024 ด้วย X ขณะที่นักการตลาดเพียง 32% คาดหวังว่า Threads จะประสบความสำเร็จมากขึ้นในปี 2024 มากกว่า X ปัจจุบันมีนักการตลาดเพียง 11% เท่านั้นที่ใช้ Threads และ 13% ของผู้ที่ไม่ได้ใช้ Threads วางแผนที่จะลองใช้ Threads เป็นครั้งแรกในปี 2024

 

  1. Marketing Trends : วิดีโอแบบสั้นให้ ROI สูงสุด และจะเห็นการเติบโตสูงสุดจากรูปแบบ Content ทางการตลาดในปี 2024

เนื่องจาก TikTok ปลุกกระแสความนิยมวิดีโอแบบสั้น ทุกวันนี้ แทบจะไม่มีการแข่งขันใด ๆ เลย เพราะวิดีโอแบบสั้นกลายเป็นรูปแบบ Content การตลาดอันดับ 1 โดยนักการตลาดส่วนใหญ่บอกว่าวิดีโอนี้ให้ ROI สูงสุด และได้รับความนิยมมากที่สุดเช่นกัน โดยนักการตลาด 44% เลือกใช้ แม้ว่าวิดีโอแบบสั้นจะครองตลาดมาหลายปีแล้ว แต่วิดีโอจะยังคงมีการเติบโตมากที่สุดในปี 2024 โดยนักการตลาดวางแผนที่จะลงทุนกับวิดีโอดังกล่าวมากกว่ารูปแบบอื่น ๆ  

ที่มา : https://blog.hubspot.com/marketing/hubspot-blog-marketing-industry-trends-report

นักการตลาด 26% วางแผนที่จะลงทุนในวิดีโอแบบสั้นมากกว่ารูปแบบอื่น ๆ ในปี 2024 นอกจากนี้ 57% ของนักการตลาดที่ใช้ประโยชน์จากวิดีโอแบบสั้นจะเพิ่มการลงทุนในปี 2024 ยิ่งไปกว่านั้น นักการตลาด 30% ที่ไม่ใช้วิดีโอแบบสั้นจะเริ่มใช้มันในปี 2024 

ที่มา : https://blog.hubspot.com/marketing/hubspot-blog-marketing-industry-trends-report

  1. Marketing Trends : นักการตลาดจะลงทุนกับอินฟลูเอนเซอร์รายย่อย 

การตลาดด้วยอินฟลูเอนเซอร์ไม่เพียงแต่จะมีประสิทธิภาพสูงสุดและจะเติบโตต่อไปในปี 2024 แต่อินฟลูเอนเซอร์ยังส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อมากยิ่งขึ้นอีกด้วย โดย 86% ของนักการตลาดด้วยอินฟลูเอนเซอร์กล่าวว่าการตลาดด้วยอินฟลูเอนเซอร์มีประสิทธิภาพสำหรับบริษัทของพวกเขาในปี 2023 และการสำรวจแนวโน้มผู้บริโภคของเราแสดงให้เห็นว่า 1 ใน 4 ผู้ใช้โซเชียลมีเดียซื้อผลิตภัณฑ์ตามคำแนะนำของอินฟลูเอนเซอร์ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้น 33% จากเมื่อปี 2022

การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์จะเห็นการเติบโตในปี 2024 โดยนักการตลาด 50% ที่ใช้การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์วางแผนที่จะเพิ่มการลงทุน และ 20% ของผู้ที่ไม่ใช้ประโยชน์จากการตลาดนี้วางแผนที่จะลองใช้เป็นครั้งแรกในปีหน้า แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ นักการตลาดกำลังค้นพบความสำเร็จมากขึ้นในการทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์รายย่อยที่มีผู้ติดตามอยู่ระหว่าง 10,000 ถึง 100,000 คน มากกว่าคนดัง (หรือที่รู้จักในชื่อ Macro หรือ Mega Influencer) ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก โดยนักการตลาดประมาณครึ่งหนึ่งทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์หรือครีเอเตอร์ในปี 2023 และ 64% ทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์รายย่อย ทำให้พวกเขากลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหตุผลที่ใหญ่ที่สุดคือการทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์รายย่อยมีราคาถูกกว่า ทำให้ง่ายต่อการสร้างความร่วมมือระยะยาว รวมไปถึงสร้างการมีส่วนร่วม และภักดีได้ง่าย

ที่มา : https://blog.hubspot.com/marketing/hubspot-blog-marketing-industry-trends-report

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ติดตามไม่ใช่ทุกอย่างอีกต่อไป รายงานแนวโน้มโซเชียลมีเดีย ปี 2023 พบว่าเมื่อพูดถึงวิธีที่นักการตลาดที่มีอิทธิพลตัดสินใจว่าผู้สร้างคนใดที่จะเป็นพันธมิตรด้วย พวกเขาพูดถึงคุณภาพเป็นอันดับแรก จึงทำให้เห็นว่า Content มีความสำคัญมากกว่าจำนวนผู้ติดตามที่พวกเขามี

ที่มา : https://blog.hubspot.com/marketing/hubspot-blog-marketing-industry-trends-report

ความท้าทายด้านการตลาดที่รออยู่ข้างหน้า

  1. Marketing Trends : นักการตลาดหันมาใช้การกำหนดเป้าหมายบนโซเชียลมีเดียและข้อมูลของ first-party เพื่อตอบสนองต่อการเลิกใช้คุกกี้ของ third-party ของ Chrome

กฎระเบียบความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นเป็นอุปสรรคสำหรับนักการตลาดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลง iOS ไปจนถึง GDPRP และแผนการของ Google ที่จะยุติการใช้คุกกี้ของ third-party เนื่องจากผู้บริโภค 84% ในการสำรวจแนวโน้มผู้บริโภค กล่าวว่าความเป็นส่วนตัวของข้อมูลคือสิทธิมนุษยชน ความคิดเห็นของสาธารณชนจึงเปลี่ยนไปสู่การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลมากขึ้น ในด้านนักการตลาด 84% กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ของพวกเขาในปี 2023 โดยในปีนี้ การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่นักการตลาดคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อพวกเขามากที่สุด ได้แก่

  • การเลิกใช้คุกกี้ third-party ของ Google Chrome เป็นข้อกังวลของนักการตลาด (47%)
  • คุณสมบัติการปกป้องความเป็นส่วนตัวของ Apple iOS (41%)
  • GDPR กฎการคุ้มครองข้อมูลทั่วไป (40%)

ปัญหาคือนักการตลาดยังไม่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ โดย 81% กล่าวว่ากิจกรรมทางการตลาดของพวกเขาอาศัยคุกกี้ของ third-party ในระดับหนึ่ง และนักการตลาดประมาณหนึ่งในห้ากล่าวว่าพวกเขาไม่พร้อมที่จะสูญเสียการเข้าถึงคุกกี้เหล่านี้ นอกจากนี้ 76% ของนักการตลาดกล่าวว่าการยกเลิกคุกกี้ของ third-party จะทำให้การตลาดยากขึ้น 

แล้วนักการตลาดกำลังจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร? 47% กล่าวว่าบริษัทของพวกเขากำลังสำรวจทางเลือกอื่นนอกเหนือจากคุกกี้ของ third-party โดยมีการกำหนดเป้าหมายบนโซเชียลมีเดียและข้อมูลจาก first-party ถือเป็นโซลูชันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยนักการตลาด 25% กำลังสำรวจโฆษณาบนโซเชียลมีเดียที่ตรงเป้าหมาย ตามมาด้วยการรวบรวมข้อมูลจาก first-party (25%), Google Topics API (21%), การโฆษณาตามบริบท (15%) และตัวระบุสากล (14%) 

ที่มา : https://blog.hubspot.com/marketing/hubspot-blog-marketing-industry-trends-report

การตลาดส่วนบุคคลด้วยข้อมูลจาก first-party และ AI

แม้จะก้าวไปสู่ Personalized และการพูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับการมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ของลูกค้า แต่เรารู้ว่ายังมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงอีกมาก การสำรวจของเราแสดงให้เห็นว่านักการตลาดเพียง 35% กล่าวว่าลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวจากแบรนด์ของตน และผู้บริโภคเพียง 65% กล่าวว่า Content ที่พวกเขาเห็นจากแบรนด์รู้สึกเข้าถึงได้ 

ที่มา : https://blog.hubspot.com/marketing/hubspot-blog-marketing-industry-trends-report

ยิ่งไปกว่านั้น นักการตลาดส่วนใหญ่ยังขาดข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย โดยมีเพียง 65% เท่านั้นที่บอกว่าตนมีข้อมูลคุณภาพสูงของกลุ่มเป้าหมาย เมื่อเราถามนักการตลาดว่าพวกเขารู้อะไรเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของตน น้อยกว่าครึ่งรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายเสพ Content จากที่ใด ข้อมูลประชากร ความสนใจและงานอดิเรก ผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาสนใจ และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของพวกเขา

ที่มา : https://blog.hubspot.com/marketing/hubspot-blog-marketing-industry-trends-report

เหตุใดสิ่งนี้จึงสำคัญมาก? การได้รับข้อมูลนี้ช่วยให้คุณสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวให้กับกลุ่มเป้าหมาย หรือลูกค้าได้อย่างแท้จริง ซึ่ง 96% ของนักการตลาดกล่าวว่าเพิ่มโอกาสที่ผู้ซื้อจะกลายเป็นลูกค้าประจำ และ 94% บอกว่า Personalized ช่วยเพิ่มยอดขาย ยิ่งไปกว่านั้น นักการตลาดที่แบรนด์มอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวให้กับลูกค้า มีแนวโน้มมากกว่า 215% ที่จะกล่าวว่ากลยุทธ์การตลาดของพวกเขาในปีนี้มีประสิทธิภาพมาก เมื่อเทียบกับนักการตลาดของแบรนด์ที่ไม่ได้นำเสนอประสบการณ์แบบเฉพาะตัว

ดังที่เราได้กล่าวไว้ในแนวโน้มก่อนหน้านี้ กฎระเบียบด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลทำให้การทำPersonalized ของคุณยากขึ้นเล็กน้อย แต่ทว่ายังมีโอกาสใหม่ด้วยข้อมูลจาก first-party ซึ่งเป็นข้อมูลที่รวบรวมจากลูกค้าของคุณโดยตรง ไม่เพียงแต่มีคุณภาพที่สูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อมูลเฉพาะของลูกค้าและธุรกิจของคุณด้วย พร้อมกับให้ข้อมูลเชิงลึกที่ดีขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย AI 

ในขณะที่เราทุกคนใช้เครื่องมือ AI ในเชิงสร้างสรรค์ แต่ทว่าเมื่อคุณรวม AI เข้ากับข้อมูลทางธุรกิจของคุณเอง จะช่วยให้นักการตลาดสามารถนำเสนอประสบการณ์ที่มีความเกี่ยวข้องสูงและเป็นส่วนตัวได้มากยิ่งขึ้น โดย 77% ของนักการตลาดที่ใช้ Gen. AI กล่าวว่าสิ่งนี้ช่วยให้พวกเขาสร้าง Content ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ปรับแต่งประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับจากแบรนด์ของตน (72%) ปรับปรุงประสบการณ์โดยรวมของลูกค้า (71%) และเข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้น (71%) 

 ที่มา : https://blog.hubspot.com/marketing/hubspot-blog-marketing-industry-trends-report

  1. Marketing Trends : นักการตลาดยังคงประสบปัญหากับข้อมูลที่ขาดการเชื่อมต่อ 

ในรายงานสถานะการตลาดของปีที่แล้ว การตัดสินใจขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเป็นทั้งกลยุทธ์อันดับต้น ๆ และความท้าทายที่นักการตลาดกำลังเผชิญอยู่ และในขณะที่ AI และเทรนด์อื่น ๆ  อาจทำให้คุณเชื่อเป็นอย่างอื่น แต่ในปี 2024 ข้อมูลก็ยังคงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย ทั้งนี้ข้อมูลทางการตลาด ทีม และเครื่องมือต่าง ๆ ก็ยังคงขาดการเชื่อมต่อ ซึ่งเป็นการขัดขวางไม่ให้องค์กรได้รับข้อมูลแบบองค์รวม และลดคุณภาพของข้อมูล เราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่าวิกฤตของการขาดการเชื่อมต่อ โดยนักการตลาดประมาณ 1 ใน 4 กล่าวว่าเป็นการยากที่จะแชร์ข้อมูลกับทีมอื่น ๆ และรับข้อมูลที่พวกเขาต้องการจากทีมอื่น ๆ ในบริษัทของตนด้วยเช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้น นักการตลาด 23% กล่าวว่าวิธีการจัดเก็บข้อมูลการตลาดที่บริษัทไม่สามารถเข้าถึงได้ และเพียง 26% กล่าวว่าข้อมูลการตลาดของตนได้รับการบูรณาการเข้ากับเครื่องมือที่พวกเขาใช้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ นักการตลาดเพียง 59% เท่านั้นที่กล่าวว่าเครื่องมือที่พวกเขาใช้นั้นเชื่อมโยงถึงกัน แบบสำรวจในปี 2023 ยังพบว่านักการตลาดที่มีเครื่องมือ ข้อมูล และทีมที่เชื่อมต่อกันมีประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างมาก

วิธีแก้ปัญหา : แหล่งข้อมูลแหล่งเดียว

ในขณะที่ 93% ของนักการตลาดที่มีแหล่งข้อมูลเพียงแหล่งเดียวกล่าวว่าสิ่งนี้เป็นประโยชน์ต่อองค์กรของพวกเขา แต่นักการตลาดเพียง 65% เท่านั้นที่บอกเราว่าพวกเขามีข้อมูลดังกล่าว แหล่งข้อมูลเพียงแหล่งเดียวจัดการความท้าทายหลัก ๆ ที่นักการตลาดมองเห็นได้จากการขาย การตลาด การขาดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างทีม และ ทีมขาย โดยใช้เครื่องมือที่แตกต่างกัน เพราะความยากลำบากในการแบ่งปันข้อมูลระหว่างทีมล้วนเป็นข้อเสียเปรียบที่สำคัญ  

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อทีมขายและการตลาดไม่สอดคล้องกัน? นักการตลาดบอกว่าเปลืองงบประมาณ สูญเสียยอดขายและโอกาสในการขาย รวมไปถึงลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดี โดยนักการตลาดที่มีความสอดคล้องกับทีมขายของตนนั้น มีแนวโน้มมากกว่า 26% ที่กลยุทธ์การตลาดของพวกเขาในปีนี้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่สอดคล้องกับทีม

วิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงในการใช้แหล่งข้อมูลแห่งเดียวคือการใช้ CRM และ HubSpot ซึ่งรวมข้อมูลเข้ากับเครื่องมือและเพิ่มการจัดตำแหน่งระหว่างทีม โดย 86% ของนักการตลาดที่ใช้ CRM กล่าวว่ามีประสิทธิภาพในการปรับปรุงการวางแนวทางระหว่างทีมและนักการตลาดด้วยแหล่งข้อมูลเพียงแหล่งเดียว และ 56% การตลาดมีแนวโน้มที่จะสอดคล้องกับทีมขายมากกว่าผู้ที่ไม่มี นอกจากนี้ 76% ของนักการตลาดที่มี CRM กล่าวว่าสิ่งนี้สำคัญต่อความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดโดยรวม และ 57% กล่าวว่า ในปี 2023 CRM มีความสำคัญต่อพวกเขามากขึ้น 

 

Marketing Trends : ในปี 2023 นักการตลาดที่ใช้ CRM มีแนวโน้มมากกว่า 128% ที่กลยุทธ์การตลาดของพวกเขามีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อเทียบกับนักการตลาดที่ไม่ใช้ CRM ยิ่งไปกว่านั้น 93% ของนักการตลาดที่ใช้ HubSpot CRM กล่าวว่ากลยุทธ์การตลาดของพวกเขามีประสิทธิภาพ สุดท้ายนี้ AI ยังมีประสิทธิภาพมากในการปรับปรุงการเชื่อมต่อ โดยนักการตลาดที่ใช้ AI กล่าวว่าช่วยให้องค์กรแบ่งปันข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น (74%) และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ (73%) >>> อ่าน E-Book เพิ่มเติม : Digital Marketing Trends In 2024 : มัดรวมเทรนด์การตลาดมาแรงในปี 2024 ที่คุณไม่ควรพลาด

 

อ้างอิงจาก : The 2024 State of Marketing & Trends Report: Data from 1400+ Global Marketers