เราทุกคนต่างรู้ว่าการผลิต คอนเทนต์ เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดเป็นสิ่งสำคัญ แต่คุณกำลังสร้างคอนเทนต์เพื่อเป็นประโยชน์ หรือคุณกำลังพยายามใช้คอนเทนต์เพื่อดึงดูดลูกค้าและปิดการขาย
กุญแจสำคัญในการเพิ่ม ROI ให้สูงที่สุดจากการทำตลาดคอนเทนต์มาจากการปรับใช้คอนเทนต์ให้เหมาะสมกับลูกค้าในทุกช่องทางที่เข้าถึงคุณ
เนื้อหาด้านล่างต่อไปนี้จะเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับ 26 วิธีใช้คอนเทนต์อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้มาเป็นลูกค้าของคุณ ซึ่งจะมีบางช่องทางที่เกี่ยวข้องกัน (ในบทความนี้จะไม่ได้กล่าวถึงการทำตลาดคอนเทนต์ แต่การหาลูกค้าด้วยคอนเทนต์จะเป็นประเด็นหลักของบทความนี้) ดังนั้นเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณมากที่สุด เพื่อนำไปปรับใช้ให้เข้ากับธุรกิจคุณ
คอนเทนต์ SEO
- ลงคอนเทนต์ใหม่อย่างเป็นประจำเพื่อดึงดูดผู้เข้าชมและปรับปรุงเนื้อหาให้มี “ความสดใหม่” (เป็นปัจจัยในการติดอันดับ SEO) ของเว็บไซต์ของคุณ
- อัปเดตคอนเทนต์เก่าๆ ในเว็บไซต์ของคุณเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา เพื่อสร้างการรับรู้ในบรรดาผู้เยี่ยมชมว่าข้อมูลเว็บไซต์ของคุณมีความทันสมัยและถูกต้อง
- สร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการทั่วไปของลูกค้า ในการทำเช่นนั้นได้ คุณจะต้องรวมกลุ่มคีย์เวิร์ดที่แตกต่างกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคีย์เวิร์ดที่ ลูกค้ามุ่งหวังของคุณจะใช้ตัดสินใจ เกี่ยวข้องกับการพูดถึงผลิตภัณฑ์และบริการจากแบรนด์คุณ ซึ่งยังเป็นการปรับปรุงโอกาสในการแสดงผล ให้หน้า search อีกด้วย
- ทำคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาเฉพาะกับความตั้งใจของผู้ซื้อ เพื่อนำทางและเพื่อปรับปรุงสถานะการค้นหาของกลุ่มเป้าหมายที่เริ่มมีความสนใจ
Paid Search และ Social Ads
- พยายามพัฒนา “คอนเทนต์ที่ดึงดูดคนที่มีแนวโน้มจะมาเป็นลูกค้า” ทั้ง Keywords, Ads Text, Callout และ Sitelink และยังต้องจัดกลุ่มโฆษณา (Ads group) เพื่อให้ตรงตามกับความต้องการของลูกค้าที่กำลังค้นหาให้ได้มากที่สุด ทั้งหมดก็เพื่อส่งเสริมอัตราการคลิกผ่าน (CTR) ของ Paid Search ให้มากขึ้น
- เพิ่มคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ (โดย Keywords และ Ads text จะต้องมีความสัมพันธ์กัน และตรงกันกับในหน้า Landing Pages) เพื่อเพิ่ม Quality Score ของโฆษณาให้มากขึ้น อันนี้จะส่งผลทำให้ตำแหน่งโฆษณา และค่าโฆษณา CPC ของคุณดีขึ้น
- ใช้ข้อมูลที่รวบรวมโดย Google Analytics เพื่อระบุช่องว่างของเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณว่ามีเนื้อหาหรือช่องทางไหนที่มีผู้ชมเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะเปลี่ยนพวกเขามาเป็นลูกค้าคุณ
Organic Social Media Marketing
- แชร์คอนเทนต์ทั้งหมดที่สร้างขึ้นในเว็บไซต์ของคุณไปยังช่องทางโซเชียลต่างๆ
- พัฒนาคอนเทนต์พิเศษสำหรับผู้ติดตาม ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ติดตามของคุณส่วนใหญ่ให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องใดอยู่ โดยคุณสามารถดูได้จาก Google Analytics
- ใช้คอนเทนต์ในการผลักดันการมีส่วนร่วมในโซเชียล
- สนับสนุนสมาชิกกลุ่มโซเชียลให้ผลิตเนื้อหาที่ผลิตโดยผู้ใช้งาน (User-generated) เพื่อที่จะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ในแคมเปญหาลูกค้าอื่น ๆ
Guest Blogging
- สร้างหน้า Guest Blog สำหรับผู้เข้าชมเว็บไซต์คุณสามารถเขียนบทความหรือเผยแพร่ความรู้ของเขาให้กับคนอื่นๆ ได้ โดย Guest Blog มีโอกาสช่วยสร้างความโดดเด่นด้วยคอนเทนต์คุณภาพสูงจากหลากหลายแหล่ง อาจรวมถึงการรีวิวจากลูกค้า หรือผู้เชียวชาญเฉพาะมาให้ความรู้
- มอบคูปองส่วนลด หรือให้ของขวัญพิเศษกับเจ้าของ Guest Blog เพื่อนำบทความที่ได้ผลตอบรับดี หรือดึงดูดลูกค้าได้ดี เอาไปใช้งานเรียกลูกค้าให้กับเรา
Email Marketing
- ใช้ความสนใจของคอนเทนต์ต่างๆ ที่คุณสร้างขึ้นมาเป็นพื้นฐานในการตัวแยกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างลิสต์รายชื่อในการส่ง Email ที่มีเนื้อหาเฉพาะเจาะจงกับกลุ่มเป้าหมายนั้นให้ตรงกับความต้องการ เพื่อเพิ่มโอกาสเกิด Conversion ให้มากขึ้น
- สอบถามข้อมูลจากผู้ติดตาม ว่าพวกเขาเหล่านั้นต้องการอยากจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาส่วนไหนเพิ่มเติม เพื่อที่คุณจะได้สามารถสร้างคอนเทนต์ เพื่อให้เขาได้รับข้อมูลเชิงลึกขึ้น หรือคอนเทนต์ที่ช่วยแก้ปัญหาความกังวล ความข้องใจให้กับพวกเขา (และคุณยังสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในอนาคตได้อีกด้วย)
Affiliate marketing และ Advocate marketing
- สนับสนุน Affiliates และ Advocates ของคุณด้วยคอนเทนต์ปรับปรุงเฉพาะ ที่มีคุณค่าเพื่อนำไปใช้ในแคมเปญในการหาลูกค้าของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น
- พัฒนาคอนเทนต์และการฝึกอบรมสำหรับ Affiliates ของคุณ เพื่อช่วยให้พวกเขาคุ้นเคยกับบริษัท, สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับลูกค้า, และวิธีการขายสินค้าและบริการให้ลูกค้า เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายให้มากยิ่งขึ้น
การประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่ข่าว
- ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อมักต่อต้านการขายในรูปแบบแฝง แต่ในทางกลับกันคุณสามารถนำเสนอเรื่องราวโดยอิงคอนเทนต์ที่คุณสร้างขึ้นแทน ทำให้ไม่ดูเป็นการคุกคามผู้บริโภค หรือดูไม่ขายตรงๆนั้นเอง
- สร้างคอนเทนต์ที่พิเศษ หรือมีคุณภาพมากจนทำให้หลายๆ คนหรือบริษัทต่างยอมรับและพูดถึงคุณ (สิ่งที่เกิดจะขึ้นคือคุณจะได้รับลูกค้าใหม่)
ทีมขาย Sales Team
- ทำคอนเทนต์พรีเมี่ยมพิเศษที่มีเฉพาะในทุกๆ Landing Page เพื่อใช้เป็น opt-ins ของ Landing Page
- ทีมการตลาดกับทีมขายควรทำงานร่วมกัน เพื่อพัฒนาคอนเทนต์บางส่วนที่เป็นเนื้อหาเฉพาะ โดยใช้ข้อมูลจากพนักงานขายของคุณที่ได้รับรู้ถึงปัญหาของลูกค้าอย่างเป็นประจำจากกระบวนการซื้อขาย
- รวบรวมคอนเทนต์ที่สำคัญไว้ด้วยกัน เพื่อทำแคมเปญ Lead Nurturing
- ใช้การปล่อยคอนเทนต์ใหม่อย่างเป็นประจำ เป็นตัวช่วยในการเพิ่มโอกาสให้กับพนักงานขายได้เข้าถึงลูกค้าที่มุ่งหวังด้วยข้อมูลที่ถูกอัปเดตหรือมีคุณภาพมากขึ้น
Offline Ads
- โฆษณากรณีศึกษาโดยการนำคอนเทนต์ประสิทธิภาพสูงที่ได้รับความนิยม หรือสมุดปกขาวที่บริษัทของคุณจัดทำขึ้น ทำในรูปแบบของโฆษณาสิ่งพิมพ์ ส่งเสริมให้ผู้ชมเกิดความต้องการในเอกสารเหล่านี้จากคุณ ซึ่งวิธีแบบนี้จะง่ายกว่าการพยายามสร้างยอดขายจากโฆษณาสิ่งพิมพ์ อีกทั้งคุณยังสามารถติดตาม ROI ที่คุณใช้จ่ายไปได้ดีขึ้นด้วย
การจัดแสดงสินค้า (Trade Shows)
- คุณอาจต้องลงทุนเพื่อพิมพ์คอนเทนต์ออกมาให้ดีที่สุด สำหรับงานแสดงสินค้า และอย่างลืมแจกกระเป๋ารางวัลแก่ผู้ร่วมงานด้วย เข้าจะได้จดจำและใช้ประโยชน์จากมัน
- ให้คอนเทนต์พิเศษแก่กลุ่มเป้าหมาย (หรือใครก็ตามที่เดินเข้ามาในซุ้มของคุณ) สิ่งพิมพ์ใช้ต้นทุนไม่สูง ดังนั้น จัดพิมพ์ eBooks, กรณีศึกษา, สมุดปกขาว, หรืออุปกรณ์อื่นๆ เพื่อให้ผู้ร่วมงานสามารถพกแบรนด์ของคุณติดตัวไปได้
การใช้คอนเทนต์เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์การหาลูกค้า
คุณไม่ต้องกังวลว่าคุณจะต้องใช้กลยุทธ์ทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นเพื่อเปลี่ยนผู้ติดตามให้กลายเป็นลูกค้า คุณแค่เลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณมากที่สุด โดยดูจากข้อมูลที่คุณได้รับเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแคมเปญ คุณอาจมีช่องทางหรือกลยุทธ์อื่นเพิ่มเติมอีกก็สามารถนำมาใช้เพื่อปรับกลยุทธ์ของคุณให้มีประสิทธิภาพสูงสุดก็ได้
เรียบเรียงโดย Aphikiat Techajarupun x Ourgreenfish