Brand Positioning Canvas ช่วยให้คุณกำหนดจุดยืนของแบรนด์ในตลาดอย่างเป็นระบบ เพราะการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ สิ่งที่สำคัญกว่าคือ การวางตำแหน่งแบรนด์ (Brand Positioning) ให้โดดเด่นและชัดเจนในใจของลูกค้า เพื่อให้แบรนด์ของคุณแตกต่างจากคู่แข่งและเป็นตัวเลือกแรกของผู้บริโภค
Brand Positioning Canvas คืออะไร?
Brand Positioning Canvas เป็น เครื่องมือกลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดตำแหน่งของแบรนด์ในตลาดได้อย่างชัดเจน โดยเป็นแผนผังที่ช่วยให้ทีมมองเห็นว่าแบรนด์ของตนเองแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร และสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าได้อย่างไร
องค์ประกอบหลักของ Brand Positioning Canvas
Brand Positioning Canvas มักประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 7 ส่วน ได้แก่
- Target Audience (กลุ่มเป้าหมาย) – ลูกค้าหลักของคุณคือใคร? พวกเขามีปัญหาอะไรที่ต้องการแก้ไข?
- Market Definition (ขอบเขตตลาด) – แบรนด์ของคุณแข่งขันในตลาดประเภทไหน?
- Brand Promise (คำมั่นสัญญาของแบรนด์) – แบรนด์ของคุณสัญญาว่าจะมอบอะไรให้กับลูกค้า?
- Brand Attributes (ลักษณะของแบรนด์) – คุณค่าหลักของแบรนด์ที่ทำให้แตกต่างจากคู่แข่งคืออะไร?
- Unique Value Proposition (UVP) (จุดขายเฉพาะตัว) – ทำไมลูกค้าถึงควรเลือกคุณแทนคู่แข่ง?
- Competitive Landscape (ภาพรวมการแข่งขัน) – คู่แข่งของคุณมีใครบ้าง และพวกเขาทำอะไรที่แตกต่างจากคุณ?
- Reasons to Believe (เหตุผลที่ลูกค้าควรเชื่อมั่น) – อะไรที่พิสูจน์ว่าแบรนด์ของคุณส่งมอบคุณค่าจริง? เช่น รีวิวลูกค้า, สถิติ หรือรางวัล
>>> เคล็ด(ไม่)ลับ สร้าง Brand Personality ให้แข็งแกร่งและแตกต่าง
ตัวอย่างการใช้ Brand Positioning Canvas
สมมติว่าเรากำลังสร้างแบรนด์กาแฟพรีเมียม เราสามารถใช้ Brand Positioning Canvas ได้ดังนี้
- Target Audience: คนทำงานที่มองหากาแฟคุณภาพสูงเพื่อช่วยเพิ่มพลังงานระหว่างวัน
- Market Definition: ตลาดกาแฟพรีเมียมสำหรับผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับรสชาติและความยั่งยืน
- Brand Promise: กาแฟที่ผลิตจากเมล็ดกาแฟคุณภาพสูง ปลูกแบบออร์แกนิก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- Brand Attributes: ออร์แกนิก, บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน, สนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่น
- UVP: “กาแฟออร์แกนิกที่ช่วยให้คุณเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดชื่น และช่วยเหลือเกษตรกรไปพร้อมกัน”
- Competitive Landscape: คู่แข่งคือ Starbucks และ Blue Bottle Coffee ที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพของกาแฟ แต่ยังไม่ได้เน้นความยั่งยืนเท่าเรา
- Reasons to Believe: ได้รับการรับรองออร์แกนิก, มีรีวิวจากลูกค้าที่ให้คะแนนสูง
วิธีระบุ Unique Value Proposition (UVP) ของแบรนด์คุณ
Unique Value Proposition (UVP) คือจุดขายเฉพาะตัวของแบรนด์ที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกแบรนด์ของคุณแทนคู่แข่ง
วิธีค้นหา UVP ของแบรนด์
- เข้าใจปัญหาของลูกค้า
- ลูกค้าของคุณต้องการอะไร และพวกเขามีปัญหาอะไรที่ต้องการแก้ไข?
- ใช้การสำรวจ (Survey) หรือวิเคราะห์รีวิวลูกค้าเพื่อตอบคำถามนี้
- วิเคราะห์คู่แข่ง
- คู่แข่งของคุณนำเสนออะไร และพวกเขามีจุดแข็งอะไร?
- หาช่องว่างที่คุณสามารถเติมเต็ม
- กำหนดคุณค่าหลักของแบรนด์
- แบรนด์ของคุณสามารถให้คุณค่าที่แตกต่างจากตลาดอย่างไร?
- สร้างข้อความ UVP ที่ชัดเจน
- ข้อความ UVP ควรเป็น สั้น, ชัดเจน และสร้างความแตกต่าง
- ตัวอย่างที่ดี เช่น Slack: “Be more productive at work with less effort”
ตัวอย่างแบรนด์ที่มี UVP ชัดเจน
- Apple: “Think Different” – มุ่งเน้นเรื่องนวัตกรรมและการออกแบบ
- Tesla: “Accelerating the world's transition to sustainable energy” – ชัดเจนว่าพวกเขาเป็นมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า
>>> สร้างคุณค่าที่ตอบโจทย์ลูกค้าด้วย VALUE PROPOSITION CANVAS
กรณีศึกษาของแบรนด์ที่วางตำแหน่งได้ชัดเจน
Tesla กับการวางตำแหน่ง “รถยนต์ไฟฟ้าหรูหรา”
Tesla เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของแบรนด์ที่ใช้ Brand Positioning Canvas อย่างมีประสิทธิภาพ
- Target Audience: คนที่ต้องการรถยนต์ที่ล้ำสมัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- Market Definition: ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม
- Brand Promise: "ขับเคลื่อนอนาคตด้วยพลังงานสะอาด"
- Brand Attributes: เทคโนโลยีทันสมัย, ระบบขับขี่อัตโนมัติ, ความยั่งยืน
- UVP: Tesla ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่เป็น "นวัตกรรมที่พลิกโฉมอุตสาหกรรม"
- Competitive Landscape: คู่แข่งเช่น BMW และ Mercedes-Benz โฟกัสที่ความหรูหรา แต่ยังไม่ได้เน้นเรื่องพลังงานสะอาดแบบ Tesla
- Reasons to Believe: มีการทดสอบเทคโนโลยี AI ขั้นสูง, ได้รับรางวัลด้านพลังงานสะอาด
ผลลัพธ์? Tesla กลายเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและมีฐานลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์สูง
การใช้ Perceptual Mapping เพื่อวิเคราะห์ว่าลูกค้ารับรู้แบรนด์ของคุณอย่างไร
Perceptual Mapping คืออะไร?
Perceptual Mapping เป็น เครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยให้คุณเข้าใจว่าลูกค้ามองเห็นแบรนด์ของคุณอย่างไร เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
วิธีสร้าง Perceptual Map
- เลือกเกณฑ์ที่สำคัญสำหรับลูกค้า
- เช่น ราคา vs. คุณภาพ หรือ นวัตกรรม vs. ความเรียบง่าย
- รวบรวมข้อมูลจากลูกค้า
- ใช้แบบสอบถามหรือวิเคราะห์รีวิวเพื่อตรวจสอบว่าพวกเขาวางแบรนด์ของคุณไว้ตรงไหน
- วางตำแหน่งแบรนด์ของคุณและคู่แข่งลงในแผนภูมิ
- ตัวอย่างเช่น
- Tesla อยู่ในกลุ่ม นวัตกรรมสูง + ราคาสูง
- Nissan Leaf อยู่ในกลุ่ม นวัตกรรมต่ำ + ราคาต่ำ
สรุป วิธีใช้ Brand Positioning Canvas ให้มีประสิทธิภาพ
- ใช้ Brand Positioning Canvas เพื่อกำหนดตำแหน่งที่ชัดเจนของแบรนด์
- ระบุ Unique Value Proposition (UVP) เพื่อสร้างความแตกต่าง
- ศึกษากรณีศึกษาของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ เช่น Tesla
- ใช้ Perceptual Mapping เพื่อตรวจสอบว่าลูกค้ามองแบรนด์ของคุณอย่างไร
อ้างอิง : Business Explained. (2024). Brand Development Explained by Business Explained. Retrieved from [bit.ly/3Qgk14W]
อ่านบทความเพิ่มเติม :
ปั้นแบรนด์ด้วยตัวเลข : BRAND AWARENESS METRICS ที่ไม่ควรมองข้าม
ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com