ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ HubSpot Content Hub

HubSpot Content Hub เป็นซอฟต์แวร์การตลาดเนื้อหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ช่วยให้ทีมการตลาดสามารถจัดการการสร้างและการจัดการเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการสร้างประสบการณ์เนื้อหาส่วนบุคคล (Personalized Content Experiences) เพื่อดึงดูดและมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคในทุกขั้นตอนของการเดินทางของลูกค้า

คุณสมบัติหลักของ HubSpot Content Hub

1. การสร้างเนื้อหา (Content Creation)

   • การปรับแต่งเว็บไซต์ (Website Optimization): Content Hub มีเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างและปรับแต่งหน้าเว็บได้ง่ายดายด้วยการลากและวาง (drag-and-drop) และธีมที่ปรับแต่งได้
   • การสร้างเนื้อหาและภาพด้วย AI (Content and Image Creation with AI): มีฟีเจอร์เช่น AI-Powered Blog Post Generator สำหรับสร้างเนื้อหาบล็อกและ AI Image Generator สำหรับสร้างภาพที่เข้ากับข้อความของแบรนด์
   • การแปลเนื้อหาด้วย AI (AI Translations): ช่วยในการแปลเนื้อหาไปยังหลายภาษา ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วโลก
   • กลยุทธ์การนำเนื้อหากลับมาใช้ใหม่ (Content Repurposing Strategies): ช่วยให้ทีมการตลาดสามารถนำเนื้อหาที่มีอยู่กลับมาใช้ใหม่ในช่องทางและรูปแบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. การจัดการเนื้อหา (Content Management)

   • การจัดการวิดีโอ (Video Management): สามารถฝังวิดีโอในเนื้อหาและเพิ่มฟอร์ม (Forms) หรือการเรียกร้องให้ดำเนินการ (Call-to-Action หรือ CTA) ลงในวิดีโอได้โดยตรง พร้อมทั้งมีรายงานการดูวิดีโอแยกตามผู้ติดต่อ
   • การจัดการเนื้อหาแบบไดนามิก (Dynamic Content Management): ช่วยในการสร้างองค์ประกอบแบบไดนามิก เช่น รายการสินค้าและแคตตาล็อกอสังหาริมทรัพย์ โดยการอัปเดตที่ทำในที่เดียวจะสะท้อนไปยังเนื้อหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยอัตโนมัติ
   • การจัดการสมาชิกและเนื้อหาที่จำกัดการเข้าถึง (Memberships & Gated Content): ช่วยให้สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับกลุ่มเป้าหมายผ่านเนื้อหาที่ต้องการการเข้าสู่ระบบ
     

1. การเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ (SEO Optimization)

   • ให้คำแนะนำ SEO ที่ช่วยในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับเครื่องมือค้นหา โดยระบุปัญหาและขั้นตอนที่ต้องดำเนินการเพื่อแก้ไข

2. การวิเคราะห์และรายงาน (Reporting and Analytics)

   • มีฟีเจอร์การรายงานและการวิเคราะห์ที่ช่วยให้ทีมการตลาดประเมินผลกระทบของความพยายามทางการตลาดในช่องทางต่างๆ และสร้างรายงานการระบุแหล่งที่มาของผู้ติดต่อ (Contact Attribution Reports) ที่ระบุหน้าเว็บที่ทำงานได้ดีที่สุดสำหรับการสร้างผู้ติดต่อ

3. การจัดการเนื้อหาผ่านสมาชิก (Memberships & Gated Content)

   • สามารถสร้างเนื้อหาพิเศษและนำเสนอสินทรัพย์ดิจิทัลพิเศษเช่นไฟล์เสียง วิดีโอ หรือ PDF ที่ต้องการการเข้าสู่ระบบเพื่อเข้าถึง

4. การสนับสนุนการเข้าถึง (Enhanced Accessibility)

   • มีโมดูลการบรรยายเนื้อหา (Post Narration Module) เพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตาหรือผู้ที่ต้องการเนื้อหาในรูปแบบเสียง
     

ความแตกต่างระหว่าง HubSpot Content Hub และ Marketing Hub

HubSpot Marketing Hub เน้นการสร้างโอกาสในการขาย การตลาดอัตโนมัติ และการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ในขณะที่ Content Hub มุ่งเน้นไปที่การสร้างและการจัดการเนื้อหาโดยเฉพาะ

คุณสมบัติที่แตกต่างกันระหว่าง Marketing Hub และ Content Hub

• Marketing Hub:

  • เน้นการสร้างโอกาสในการขายผ่านการตลาดผ่านอีเมล, โซเชียลมีเดีย, การจัดการโฆษณา และเครื่องมือ SEO
  • มีฟีเจอร์สำหรับการตลาดอัตโนมัติ การรวมเข้ากับ CRM และการวิเคราะห์

• Content Hub:

  • มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์เนื้อหาส่วนบุคคลที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
  • มีเครื่องมือสร้างเนื้อหาด้วย AI, ฟีเจอร์การสร้างเว็บไซต์, การจัดการวิดีโอ และการจัดการเนื้อหาแบบไดนามิก

HubSpot Content Hub ช่วยให้ทีมการตลาดสามารถสร้างและจัดการเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับผู้บริโภคในทุกขั้นตอนของการเดินทางของลูกค้า

ราคาของ HubSpot Content Hub: HubSpot Content Hub มีหลายระดับราคาให้เลือกตามความต้องการและงบประมาณขององค์กร โดยมีการเสนอแพ็คเกจ Marketing+ Bundle ที่รวม Content Hub และ Marketing Hub เข้าด้วยกันในราคาที่ลดลง

สรุป: การเปลี่ยนจาก CMS Hub ไปเป็น Content Hub สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ HubSpot ในการให้เครื่องมือที่ทันสมัยแก่ทีมการตลาดเพื่อตอบสนองพฤติกรรมการบริโภคเนื้อหาที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทำให้สามารถจัดการเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า

อ่านบทความเพิ่มเติม : HUBSPOT คืออะไร มีฟังก์ชันอะไรบ้าง เหมาะกับ INBOUND MARKETING แค่ไหน?