ในการตัดสินใจทางธุรกิจ การประเมินผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เป็นวิธีที่นิยมใช้เพื่อประเมินความคุ้มค่าของการลงทุน แต่ต้นทุนของการไม่ลงมือทำ (COI) ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรถูกมองข้าม บทความนี้จะเปรียบเทียบการใช้งาน COI และ ROI พร้อมยกตัวอย่างการคำนวณในบริบทของการตลาด การขาย และการให้บริการ เพื่อช่วยให้คุณมีมุมมองที่ครบถ้วนและรอบด้านในการตัดสินใจ
ROI (Return on Investment) คือ ตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน คำนวณได้จาก:
ROI = ( กำไรสุทธิจากการลงทุน / ค่าใช้จ่ายในการลงทุน ) × 100
COI (Cost of Inaction) คือ ต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการไม่ลงมือทำ หรือการเลื่อนการตัดสินใจในการดำเนินการ ซึ่งอาจรวมถึงการสูญเสียโอกาส ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในอนาคต และผลกระทบทางลบที่อาจเกิดขึ้น
ROI ในการโฆษณาออนไลน์
การคำนวณ ROI:
ROI = ( 200,000 / 100,000 ) × 100 = 200%
COI ในการไม่โฆษณาออนไลน์
การคำนวณ COI:
COI = 300,000 บาท
เปรียบเทียบ: แม้ว่า ROI จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลตอบแทนจากการลงทุน แต่ COI จะช่วยให้เห็นว่าการไม่ลงทุนจะทำให้สูญเสียโอกาสใดบ้าง
ROI ในการติดตั้งระบบ CRM
การคำนวณ ROI:
ROI = ( 300,000 / 200,000 ) × 100 = 150%
COI ในการไม่ติดตั้งระบบ CRM
การคำนวณ COI:
COI = 500,000 บาท
เปรียบเทียบ: ROI แสดงให้เห็นว่าการลงทุนในระบบ CRM มีความคุ้มค่า แต่ COI แสดงให้เห็นว่าการไม่ลงมือทำจะทำให้เสียโอกาสในการเพิ่มยอดขายที่มีนัยสำคัญ
ROI ในการปรับปรุงระบบบริการลูกค้า
การคำนวณ ROI:
ROI = ( 350,000 / 150,000 ) × 100 = 233.33%
COI ในการไม่ปรับปรุงระบบบริการลูกค้า
การคำนวณ COI:
COI = 500,000 บาท
เปรียบเทียบ: ROI แสดงถึงผลตอบแทนที่ได้รับจากการปรับปรุงระบบบริการลูกค้า ในขณะที่ COI แสดงถึงการสูญเสียรายได้ที่เกิดจากการไม่ลงมือทำ
การใช้ ROI และ COI ร่วมกันในการตัดสินใจทางธุรกิจจะช่วยให้คุณมีมุมมองที่ครบถ้วนและรอบด้าน ROI ช่วยในการประเมินผลตอบแทนจากการลงทุน ในขณะที่ COI ช่วยให้เห็นว่าการไม่ลงมือทำจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง การพิจารณาทั้งสองตัวชี้วัดนี้จะช่วยให้การตัดสินใจมีข้อมูลที่ครอบคลุมและสามารถนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
อ่านบทความเพิ่มเติม : กุญแจสู่ความสำเร็จ!: สร้างทักษะนักธุรกิจรุ่นใหม่ในองค์กร SMEs