เปรียบเทียบการใช้งาน COI และ ROI เพื่อการปรับปรุงพัฒนาธุรกิจ

Audio Version
เปรียบเทียบการใช้งาน COI และ ROI เพื่อการปรับปรุงพัฒนาธุรกิจ
4:27

ในการตัดสินใจทางธุรกิจ การประเมินผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เป็นวิธีที่นิยมใช้เพื่อประเมินความคุ้มค่าของการลงทุน แต่ต้นทุนของการไม่ลงมือทำ (COI) ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรถูกมองข้าม บทความนี้จะเปรียบเทียบการใช้งาน COI และ ROI พร้อมยกตัวอย่างการคำนวณในบริบทของการตลาด การขาย และการให้บริการ เพื่อช่วยให้คุณมีมุมมองที่ครบถ้วนและรอบด้านในการตัดสินใจ

ความหมายของ ROI และ COI

ROI (Return on Investment) คือ ตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน คำนวณได้จาก:

ROI = ( กำไรสุทธิจากการลงทุน / ค่าใช้จ่ายในการลงทุน ) × 100

COI (Cost of Inaction) คือ ต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการไม่ลงมือทำ หรือการเลื่อนการตัดสินใจในการดำเนินการ ซึ่งอาจรวมถึงการสูญเสียโอกาส ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในอนาคต และผลกระทบทางลบที่อาจเกิดขึ้น

Lead Scoring

การใช้งาน ROI และ COI ในการตัดสินใจทางธุรกิจ

การตลาด

ROI ในการโฆษณาออนไลน์

  • ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา: 100,000 บาท
  • ยอดขายที่เกิดขึ้นจากการโฆษณา: 300,000 บาท
  • กำไรสุทธิ: 300,000 - 100,000 = 200,000 บาท

การคำนวณ ROI:
ROI = ( 200,000 / 100,000 ) × 100 = 200%

COI ในการไม่โฆษณาออนไลน์

  • ยอดขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการโฆษณา: 300,000 บาท
  • การสูญเสียยอดขายหากไม่ลงโฆษณา: 300,000 บาท

การคำนวณ COI:
COI = 300,000 บาท 

เปรียบเทียบ: แม้ว่า ROI จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลตอบแทนจากการลงทุน แต่ COI จะช่วยให้เห็นว่าการไม่ลงทุนจะทำให้สูญเสียโอกาสใดบ้าง

การขาย

ROI ในการติดตั้งระบบ CRM

  • ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบ CRM: 200,000 บาท
  • ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ระบบ CRM: 500,000 บาท
  • กำไรสุทธิ: 500,000 - 200,000 = 300,000 บาท

การคำนวณ ROI:
ROI = ( 300,000 / 200,000 ) × 100 = 150%

COI ในการไม่ติดตั้งระบบ CRM

  • ยอดขายที่คาดว่าจะสูญเสียหากไม่ใช้ระบบ CRM: 500,000 บาท
  • การสูญเสียยอดขายหากไม่ติดตั้งระบบ: 500,000 บาท

การคำนวณ COI:
COI = 500,000 บาท

เปรียบเทียบ: ROI แสดงให้เห็นว่าการลงทุนในระบบ CRM มีความคุ้มค่า แต่ COI แสดงให้เห็นว่าการไม่ลงมือทำจะทำให้เสียโอกาสในการเพิ่มยอดขายที่มีนัยสำคัญ

New call-to-action

การให้บริการ

ROI ในการปรับปรุงระบบบริการลูกค้า

  • ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบบริการลูกค้า: 150,000 บาท
  • รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงบริการลูกค้า: 500,000 บาท
  • กำไรสุทธิ: 500,000 - 150,000 = 350,000 บาท

การคำนวณ ROI:
ROI = ( 350,000 / 150,000 ) × 100 = 233.33%

COI ในการไม่ปรับปรุงระบบบริการลูกค้า

  • จำนวนลูกค้าที่คาดว่าจะสูญเสียหากไม่ปรับปรุงระบบ: 100 คน
  • รายได้เฉลี่ยต่อลูกค้าหนึ่งคน: 5,000 บาท
  • การสูญเสียรายได้จากลูกค้า: 100 x 5,000 = 500,000 บาท

การคำนวณ COI:
COI = 500,000 บาท 

เปรียบเทียบ: ROI แสดงถึงผลตอบแทนที่ได้รับจากการปรับปรุงระบบบริการลูกค้า ในขณะที่ COI แสดงถึงการสูญเสียรายได้ที่เกิดจากการไม่ลงมือทำ

การใช้ ROI และ COI ร่วมกันในการตัดสินใจทางธุรกิจจะช่วยให้คุณมีมุมมองที่ครบถ้วนและรอบด้าน ROI ช่วยในการประเมินผลตอบแทนจากการลงทุน ในขณะที่ COI ช่วยให้เห็นว่าการไม่ลงมือทำจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง การพิจารณาทั้งสองตัวชี้วัดนี้จะช่วยให้การตัดสินใจมีข้อมูลที่ครอบคลุมและสามารถนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

อ่านบทความเพิ่มเติม : กุญแจสู่ความสำเร็จ!: สร้างทักษะนักธุรกิจรุ่นใหม่ในองค์กร SMEs

New call-to-action

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

Recent Posts

OGF Podcast