Master Blog - Ourgreenfish

3 วิธีที่นักการตลาด B2B สามารถใช้ประโยชน์จาก Generative AI

เขียนโดย OURGREENFISH TEAM - Aug 4, 2024 6:48:40 AM

ในยุคที่เทคโนโลยีและการทำงานอัตโนมัติกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักการตลาด B2B ต้องยอมรับและนำ Generative AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์ บทความนี้จะครอบคลุมสามวิธีในการใช้ Generative AI ในการวิจัยคีย์เวิร์ด การสร้างเนื้อหา และการวิเคราะห์ข้อมูล การทำเช่นนี้จะเปลี่ยนวิธีการทำการตลาดสินค้าและบริการในระบบดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ โดยทิ้งคู่แข่งที่ไม่ทันตามหลังไปไกล

การใช้ Generative AI ในการวิจัยคีย์เวิร์ด

การวิจัยคีย์เวิร์ดแบบดั้งเดิมต้องใช้กระบวนการหลายขั้นตอนซึ่งเป็นการทำงานด้วยมือทั้งหมด แม้ว่าจะมีเครื่องมือแบบชำระเงินและฟรีที่สามารถช่วยนักการตลาดวิเคราะห์คีย์เวิร์ดได้ แต่ยังคงใช้เวลาและความพยายามเป็นอย่างมาก Generative AI เช่น ChatGPT สามารถช่วยนักการตลาดเพิ่มประสิทธิภาพในการวิจัยคีย์เวิร์ด โดยช่วยให้กระบวนการนี้เร็วขึ้นและทำให้ง่ายขึ้นในการหาคีย์เวิร์ดที่ไม่เคยถูกใช้มาก่อน

ตัวอย่าง:

  1. บริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศ: ใช้ Generative AI เพื่อค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีล่าสุด เช่น "การเรียนรู้เชิงลึก", "ปัญญาประดิษฐ์", "ระบบคลาวด์"
  2. ผู้ให้บริการโซลูชั่นทางการเงิน: ใช้ AI เพื่อหาคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เช่น "การลงทุนระยะยาว", "การบริหารความเสี่ยง", "บัตรเครดิตธุรกิจ"

การใช้ Generative AI ในการพัฒนาเนื้อหา

เนื้อหามีความสำคัญอย่างยิ่งในโลกการตลาดดิจิทัล เนื้อหาคุณภาพสูงที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานสามารถสร้างความเชื่อถือและความภักดีของลูกค้า Generative AI สามารถช่วยสร้างเนื้อหาที่ดูเหมือนสร้างด้วยมือจริง ๆ ทำให้การสร้างเนื้อหามีความต่อเนื่องและประหยัดเวลา นอกจากนี้ยังสามารถช่วยในการสร้างเนื้อหาที่หลากหลายและน่าสนใจ อย่างไรก็ตาม ควรมีการตรวจสอบและปรับแก้โดยมนุษย์เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหานั้นมีความถูกต้องและสอดคล้องกับบริบททางวัฒนธรรม

ตัวอย่าง:

  1. บริษัทให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ: ใช้ AI เพื่อเขียนบทความเกี่ยวกับการจัดการธุรกิจ การปรับปรุงประสิทธิภาพองค์กร หรือการทำงานร่วมกันในทีม
  2. ผู้ให้บริการสุขภาพ: ใช้ AI เพื่อสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีการดูแลสุขภาพ การป้องกันโรค หรือการรักษาสุขภาพจิต

การใช้ Generative AI ในการวิเคราะห์ข้อมูล

Generative AI สามารถนำเสนอการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนมากขึ้น ด้วยการใช้การแสดงผลข้อมูลที่หลากหลายและการติดตามข้อมูลแบบเรียลไทม์ นักการตลาดสามารถสกัดข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น การตรวจพบความผิดปกติ การวิเคราะห์ความรู้สึก การแบ่งกลุ่มตลาด และการพัฒนาบุคลิกภาพของผู้ซื้อ AI สามารถช่วยพยากรณ์แนวโน้มในอนาคตได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนกลยุทธ์การตลาด

ตัวอย่าง:

  1. ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ความรู้สึกของลูกค้าที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในสื่อสังคมออนไลน์ และนำผลลัพธ์ไปปรับปรุงผลิตภัณฑ์
  2. ผู้ให้บริการการศึกษา: ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลการลงทะเบียนเรียน การเรียนออนไลน์ และผลการเรียนของนักเรียน เพื่อปรับปรุงการให้บริการและพัฒนาหลักสูตร

สรุป

การนำ Generative AI มาใช้ในกระบวนการวิจัยคีย์เวิร์ด การสร้างเนื้อหา และการวิเคราะห์ข้อมูลจะช่วยให้นักการตลาด B2B สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพและความแม่นยำในการทำงานได้ แม้จะมีความท้าทายบางประการ แต่เมื่อใช้ AI อย่างชาญฉลาดและมีการตรวจสอบโดยมนุษย์ ก็จะสามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมได้

สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชั่นการตลาดดิจิทัลและการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน Ourgreenfish Co., Ltd. เป็นผู้ให้บริการด้านการตลาดดิจิทัลแบบครบวงจรที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้ MarTech (Marketing + Technology + Management) เพื่อลดช่องว่างของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและเร่งการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ โดยมีโซลูชั่นสำคัญ 4 อย่างคือ MarTech Plan, HubSpot CRM, LINE CRM, และ Loyalty Hub ที่สามารถช่วยให้องค์กรของคุณประสบความสำเร็จในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ

อ่านบทความเพิ่มเติม : ประยุกต์ใช้งานหุ่นยนต์ และ AI กับการทำงานในชีวิตประจำวันได้อย่างไร?

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดต่อสอบถามได้ที่: Ourgreenfish Co., Ltd.
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th