ผลสำรวจจาก Hubspot กว่า 77% ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคยังนิยมใช้อีเมล์ในการสื่อสารกันระหว่างธุรกิจและตนเอง ดังนั้น การทำ Email Marketing ของธุรกิจ B2B จึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก
การทำ Email Marketing เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับการทำ Inbound Marketing โดยเป็นการทำเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับการขายของธุรกิจของคุณ นำเสนอเนื้อหาที่มีคุณค่าและช่วยเปลี่ยนให้กลุ่มเป้าหมายของคุณให้มาเป็นลูกค้าของคุณได้ แต่มันไม่ได้แค่ช่วยให้คุณสามารถปิดการขายได้ แต่จะช่วยให้ CRM ระหว่างคุณและลูกค้าดีมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้น นี่คือ 9 วิธีที่ดีที่สุดที่สามารถช่วยให้คุณควรจะนำไปใช้กับธุรกิจของคุณ
กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน
ก่อนที่คุณจะทำอะไรคุณควรกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน เพราะหากไม่มีเป้าหมาย คุณจะรู้ได้ยังไงว่าคุณจะทำไปเพื่ออะไรและคุณจะวัดความสำเร็จจากอะไร ดังนั้น คุณต้องรู้ตัวเองว่าทำไมคุณถึงต้องส่งอีเมลและต้องการให้ได้อะไรกลับมา อีเมลทุกฉบับที่คุณส่งไปให้เป้าหมายจะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย
อีเมลที่ส่งออกต้องเป็นบุคคลจริง
ต้องเข้าใจก่อนว่าเวลาที่คุณคุยกับลูกค้า คุณไม่ได้คุยแบบ B2B แต่คุณคุยแบบ H2H เพื่อให้ผู้ที่มีโอกาสจะเป็นลูกค้ามากจากคนจริงๆ ไม่ใช่อีเมลหลอกลวง
มีการปรับแต่งเนื้อหาอีเมลให้น่าสนใจ
หากคุณมีการปรับปรุงเนื้อหาให้มีประสิทธิภาพและน่าสนใจ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จและสามารถเพิ่มอัตราการคลิกได้ ก่อนอื่นนั้น คุณควรใช้ข้อมูลที่อยู่ในระบบ CRM ในการนำมาปรับแต่งอีเมล เช่น ชื่อจริง, ชื่อบริษัท เป็นต้น ถัดมา คุณควรจัดเตรียมเนื้อหาที่สามารถให้ประโยชน์และคุณค่าแก่ผู้ที่ได้รับอีเมล และสามารถนำข้อมูลใน CRM มาใช้ในการจัดระบบ Workflow ของการส่งอีเมลอัตโนมัติถ้าต้องจัดส่งแบบเฉพาะบุคคล
ตั้งชื่ออีเมลที่กลุ่มเป้าหมายไม่เลื่อนผ่าน
เริ่มด้วยการที่คุณควรต้องรู้ว่าไม่ได้มีแค่ธุรกิจของคุณที่ใช้กลยุทธ์นี้ในการเปลี่ยนให้กลุ่มเป้าหมายกลายมาเป็นลูกค้า ดังนั้นคุณต้องแน่ใจว่าหัวเรื่องของคุณนั้นโดดเด่นจนกลุ่มเป้าหมายนั้นกดอ่าน แต่อย่าแค่พาดหัวเรื่องดีแล้วเนื้อในไม่มีอะไรเลย ไอเดียดีๆ ในการตั้งชื่อหัวข้อลองนึกถึงว่ากลุ่มเป้าหมายน่าจะสนใจเรื่องอะไร เพราะนอกจากที่เค้าจะกดอ่านอีเมลแล้ว เค้าอาจจะกดดาวน์โหลด E-book ที่แนบไปกับอีเมลด้วยก็ได้
ทำอีเมลให้รองรับกับมือถือ
ปัจจุบันมือถือเป็นอุปกรณ์ที่ผู้คนเลือกใช้ในการแจ้งเตือนและเปิดอ่านอีเมลถึง 56% การทำอีเมลออกมาให้รองรับกับการเปิดอ่านในมือถือจึงเป็นเรื่องที่ควรทำ ดังนั้นควรใช้ข้อความที่กระชับและเข้าใจง่าย ตรวจสอบให้แน่ใจว่า CTA อยู่เหนือครึ่งหน้าของอีเมลเพื่อให้ผู้เปิดอ่านอีเมลเห็นก่อนที่จะกดปิดอีเมล์ไป
เขียนข้อความตัวอย่างอีเมลให้ดึงดูด
ข้อความตัวอย่างหรือเมต้าที่ดีสามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้ เพราะก่อนที่จะคลิกเข้าไปอ่านนั้น ส่วนของเมต้าจะแสดงตัวอย่างเนื้อหาในอีเมลให้เห็นว่าในอีเมลนี้มีเนื้อความอย่างไรบ้าง เป็นข้อความอธิบายสั้นๆ ที่เข้าใจได้ง่าย ควรมีตัวอักษรประมาณ 50 ตัวอักษรหรือน้อยกว่านี้
ดึงดูด Engage ของคุณ
ใช้เป้าหมายของคุณสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพของ Engagement เพราะการที่คุณทำอีเมลมาร์เก็ตติ้งนั้นเพราะต้องการให้กลุ่มเป้าหมายนั้นกลายมาเป็นลูกค้าของคุณ อย่างเช่นการเพิ่มตัว CTA เพื่อเป็นการดึงดูด
เวลาคือสิ่งสำคัญ
ประการแรกคือวันที่เหมาะสมในการที่จะส่งอีเมล
เราควรจัดลำดับวันในการส่งอีเมลให้เหมาะสม ไม่ถี่หรือบ่อยเกินไป หรือห่างเกินจนรู้สึกว่าเหมือนเราหายไปจากกลุ่มเป้าหมายเลย
ประการที่สองคือเวลาที่เหมาะสมในการส่งอีเมล
วัดและตรวจสอบผลลัพธ์
เมื่อคุณตั้งเป้าหมาย สร้างและส่งอีเมลของคุณ จากนั้นควรมาวัดหาผลลัพธ์ของสิ่งที่ทำมาทั้งหมดนั้นบรรลุเป้าหมายและสำเร็จแล้วหรือยัง ดังนี้
นำผลลัพธ์ที่ได้ทั้งหมด เรียนรู้จากผลลัพธ์ต่างๆ ที่ได้มา มาปรับปรุงอีเมลของคุณในอนาคตให้ดีขึ้นกว่าเดิม
การทำการตลาดแบบอีเมลมาร์เก็ตติ้งนั้น เป็นหนึ่งในวิธีที่คุ้มค่าที่สุดในการพัฒนาธุรกิจของคุณ และถ้าหากว่าคุณปฏิบัติตามและปรับเนื้อหาอีเมลของคุณให้ดี คุณจะได้เห็นผลตอบแทนที่ดีกับธุรกิจของคุณแน่นอน
ที่มา : [1]
Supattra Ammaranon X Ourgreenfish
บทความที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณ
พัฒนาการขายแบบ B2B ให้เติบโต ด้วยระบบ CRM ได้อย่างไร