Master Blog - Ourgreenfish

การใช้ Data เพื่อ CRM & Retention ให้ตรงใจลูกค้าแบบ Hyper-Personalized

เขียนโดย OURGREENFISH TEAM - Mar 12, 2025 6:00:00 AM

การตลาดยุคใหม่ก้าวข้ามการส่งเสริมการขายแบบเดิมๆ ไปสู่ยุค Hyper-Personalization ที่ใช้ First-party data และ AI-driven Insights เพื่อทำความเข้าใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการรักษาฐานลูกค้า (Customer Retention)

หัวใจสำคัญของ CRM ที่ประสบความสำเร็จคือ การนำข้อมูลเฉพาะบุคคลมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้าง Brand Loyalty ที่แข็งแกร่ง ลดอัตราการสูญเสียลูกค้า (Churn Rate) และเพิ่มมูลค่าตลอดช่วงชีวิตของลูกค้า (Customer Lifetime Value) ในระยะยาว

การใช้ First-Party Data เพื่อสร้าง Hyper-Personalized CRM

First-party data หรือข้อมูลที่ธุรกิจเก็บได้โดยตรงจากลูกค้า เช่น

  • พฤติกรรมการซื้อสินค้า
  • การคลิกบนเว็บไซต์ หรือ LINE OA
  • การโต้ตอบกับอีเมลหรือแชทบอท
  • ข้อมูลจากแบบสอบถามหรือรีวิว

ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้า (Customer Segmentation) ได้แม่นยำขึ้น เช่น

  • ลูกค้าซื้อซ้ำบ่อย สามารถเสนอโปรโมชั่นสมาชิกพิเศษ
  • ลูกค้าที่มีแนวโน้มเลิกใช้ สามารถส่งข้อเสนอพิเศษเพื่อดึงกลับมา (Win-Back Campaign)
  • ลูกค้าที่ชอบแบรนด์อยู่แล้ว สามารถกระตุ้นให้กลายเป็น Brand Advocate​

Marketing Automation & CRM วิธีใช้ข้อมูลเพื่อ Retention

การใช้ Marketing Automation และ CRM ทำให้สามารถจัดการข้อมูลได้เป็นระบบ และนำไปใช้สร้าง Retention Campaign อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบ Real-Time
  • ใช้ AI และ Machine Learning ช่วยคาดการณ์ว่าลูกค้าจะสนใจอะไรต่อไป
  • ตัวอย่าง: PlayStation Thailand ใช้ Marketing Automation เก็บ First-party data จาก LINE OA เพื่อส่งแคมเปญ Hyper-Personalized ไปหาลูกค้าตามพฤติกรรมการเล่นเกมของพวกเขา ซึ่งช่วยเพิ่ม Engagement Rate และ Conversion​
  1. Retargeting อัจฉริยะเพื่อเพิ่ม Retention
  • เก็บข้อมูลพฤติกรรมการคลิก เช่น ลูกค้าเข้าดูสินค้าหลายครั้งแต่ยังไม่ซื้อ
  • ใช้ AI Retargeting Ads นำเสนอสินค้าหรือคูปองที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคน
  • ส่งอีเมลหรือ SMS อัตโนมัติแจ้งเตือนลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าในตะกร้าที่ถูกทิ้งไว้​
  1. สร้าง Personalized Customer Journey ผ่าน Omni-Channel
  • ผสานข้อมูลจากทุกช่องทาง เช่น LINE, อีเมล, เว็บไซต์, Facebook Messenger
  • สร้าง Customer Journey ที่ลื่นไหล เช่น ส่งโฆษณาบน Facebook ตามพฤติกรรมบน LINE OA
  • ทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในช่องทางที่ลูกค้าสะดวกที่สุด​

กรณีศึกษา PlayStation Thailand กับการใช้ Hyper-Personalized Marketing

PlayStation Thailand เป็นตัวอย่างที่ดีของแบรนด์ที่ใช้ MarTech ในการเก็บ First-party data เพื่อนำเสนอแคมเปญที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย

  • เก็บข้อมูลจาก LINE OA ว่าลูกค้าสนใจเกมแนวไหน
  • ใช้ AI Segmentation เพื่อส่งโปรโมชันเฉพาะเจาะจง
  • ผลลัพธ์: อัตราการเปิดอ่านเพิ่มขึ้นจาก 70% เป็น 97.9% และ Conversion Rate สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ​

วิธีนำ Hyper-Personalized Data มาใช้ให้ได้ผล

  • เก็บ First-party data ผ่าน CRM และ Marketing Automation
  • วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าด้วย AI และ Machine Learning
  • ใช้ Retargeting Ads อัจฉริยะ เพื่อดึงลูกค้ากลับมา
  • สร้าง Personalized Customer Journey ผ่าน Omni-Channel
  • ใช้ Marketing Automation เพื่อทำแคมเปญให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน

การตลาดแบบ Hyper-Personalized คือกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและอยู่รอดได้ในยุคปัจจุบัน การตลาดประเภทนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ CRM และ Retention อย่างสูงสุด ซึ่งจะนำไปสู่การรักษาลูกค้าและสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในระยะยาว โดยอาศัยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างเต็มที่

อ้างอิง : Final MarTech Report 2025. (2025). Retrieved from [contentshifu.com]

อ่านบทความเพิ่มเติม :

ทำการตลาดแบบรู้ใจกลุ่มเป้าหมายด้วย PERSONALIZATION MARKETING

ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com