Outsourcing คือ การใช้บริการจากภายนอกองค์กรเพื่อทำหน้าที่หรือผลิตสินค้าที่เดิมทำภายในองค์กร เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มักใช้เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และเน้นทรัพยากรในกิจกรรมหลักขององค์กร
ประวัติย่อของ Outsourcing
การใช้ Outsourcing เริ่มเป็นที่นิยมในทศวรรษ 1990 ด้วยการเพิ่มขึ้นของการเชื่อมโยงระหว่างองค์กรและการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก จากการที่องค์กรต่างๆ มุ่งเน้นทรัพยากรไปที่การได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ
รูปแบบการ Outsourcing
- Onshore Outsourcing - การใช้บริการจากบริษัทในประเทศเดียวกัน
- Offshore Outsourcing - การใช้บริการจากบริษัทในต่างประเทศ
- Nearshore Outsourcing - การใช้บริการจากบริษัทในประเทศที่ใกล้เคียง
ประเภทของบริการที่มักจะ Outsource
- Engineering Process Outsourcing (EPO) - การจ้างบริการด้านวิศวกรรม เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบ CAD การจำลองและการวิเคราะห์
- Information Technology Outsourcing (ITO) - การจ้างบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การประมวลผลข้อมูล บริการคลาวด์ ความปลอดภัยไซเบอร์
- Knowledge Process Outsourcing (KPO) - การจ้างบริการที่ต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง เช่น บริการทางกฎหมาย การเงิน การวิจัยและพัฒนา
- Legal Process Outsourcing (LPO) - การจ้างบริการทางกฎหมาย เช่น การทบทวนเอกสาร การวิจัยทางกฎหมาย การร่างสัญญา
- Recruitment Process Outsourcing (RPO) - การจ้างบริการสรรหาพนักงาน เช่น การวิเคราะห์และวางแผนการสรรหา
ข้อดีของ Outsourcing
- ลดต้นทุน: สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ค่าแรง และค่าโสหุ้ย
- เพิ่มประสิทธิภาพ: การใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขัน
- เพิ่มความยืดหยุ่น: ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนและขยายตัวได้ตามความต้องการ
- ลดความเสี่ยง: การแบ่งปันความเสี่ยงกับพันธมิตรภายนอก
ข้อเสียของ Outsourcing
- การควบคุมที่ลดลง: อาจสูญเสียการควบคุมกระบวนการผลิต
- ปัญหาด้านความปลอดภัยของข้อมูล: การส่งข้อมูลออกไปภายนอกอาจเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล
- ความซับซ้อนในการสื่อสาร: การทำงานกับบริษัทในต่างประเทศอาจเจอปัญหาด้านการสื่อสาร
การใช้ Outsourcing เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มความยืดหยุ่นในธุรกิจ แต่ต้องพิจารณาความเสี่ยงและการควบคุมอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
อ่านบทความเพิ่มเติม : สรุป AGRITECH BUSINESS MODELS