ไม่ว่าวงการไหนก็ต้องการคนทำงานที่มีประสิทธิภาพ ไม่เว้นแม้แต่การทำ Digital Marketing Transformation และนี่คือนิสัยของนักการตลาดดิจิทัลที่คุณต้องมองหา
แผนงานที่มีการวางแผนอย่างดีจะสามารถช่วยให้นักการตลาดดิจิทัลเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง และช่วยให้พวกเขาสามารถระบุเป้าหมายและบรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดนั้นๆได้ คุณไม่ควรมองข้ามพลังของการจัดการ การทำงบประมาณ และที่สำคัญที่สุดการวางแผนกลยุทธ์ที่ดี ที่ซึ่งจะสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและช่วยให้พวกเขาได้ในสิ่งที่ต้องการที่ซ่อนอยู่ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่พวกเขาลืมไปแล้ว ดังนั้นการวางแผนจึงเป็นทักษะที่นักการตลาดดิจิทัลไม่สามารถละเลยหรือมองข้ามได้
Digital Transformation คืออะไร…ใช้ทำอะไรได้บ้างในโลกธุรกิจ
แน่นอนนักการตลาดดิจิทัลที่ยอดเยี่ยมย่อมต้องมีการวางแผนเตรียมไว้เสมอ แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ การไม่กลัวที่จะทำงานเปลี่ยนแปลงไปจากแผนที่วางไว้ – ‘อะไรนะ?’ - มันหมายความว่าเราต้องทำแผนจากนั้นก็ต้องเปลี่ยนแผน? คำตอบก็คือ ‘ใช่’ หากแผนนั้นทำแล้วไม่ได้ผล สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ แผนแคมเปญของคุณต้องมีการปรับเปลี่ยนอย่างชาญฉลาด
การวิเคราะห์และการรายงานเกี่ยวกับความสำเร็จของแคมเปญในเวลาปกติ จะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบสิ่งที่กำลังทำงานว่าอันไหนเวิร์คและอันไหนที่ไม่เวิร์ค เมื่อคุณเจาะลึกลงไปใน Analytics ของคุณ คุณจะสามารถระบุได้ว่ากลยุทธ์ไหนที่ทำแล้วเสียเวลาและควรจะตัดออก แล้วนำเวลาที่มีค่านั้นไปลงทุนในกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพและอาจทำให้บรรลุเป้าหมายได้มากกว่าที่คาดเอาไว้ เช่น การสร้าง Leads ด้วยต้นทุนที่ต่ำ เป็นต้น
สิ่งสำคัญในการใช้เครื่องมือทางการตลาดที่เหมาะสม ก็คือมันประหยัดทั้งเวลาและทำงานได้อย่างมีเหตุมีผล จงใช้ประโยชน์จากระบบการตลาดอัตโนมัติในการช่วยปรับขนาดแคมเปญ เพื่อการตลาดที่มีประสิทธิภาพ หากมีเครื่องมือที่สามารถลดภาระและข้อจำกัดทางด้านเวลาและงบประมาณ แต่ยังคงดำเนินแคมเปญทางการตลาดต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว คุณและลูกทีมควรจะคว้าเครื่องมือนั้นเอาไว้ให้แน่น
คุณต้องอยู่ในกระแสของโลกดิจิทัลและความเป็นไปในอุตสาหกรรมธุรกิจของคุณ อย่างการอ่านบล็อกอย่างจริงจัง, เลื่อนดูข่าวใน Twitter การเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัทอื่นๆในอุตสาหกรรมเดียวกัน และการลงทุนเรียนในหลักสูตรการตลาดดิจิตอล หากมีสิ่งหนึ่งที่นักการตลาดดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพมีเหมือนๆกันก็คือ เรื่องเหล่านี้พวกเขาไม่เคยหยุดเรียนรู้ ฟัง และถาม พวกเขาอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เกี่ยวข้องรอบตัว และมักจะมีคนจองตัวไปทำงานด้วยเสมอๆ
การตลาดดิจิทัลเป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่ต้องการแรงจูงใจในตัวเอง ที่ซึ่งสามารถออกแบบเส้นทางในการทำงานเองได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่มีโพสต์หางานจำนวนมากกำลังมองหาคนที่มีคุณสมบัติ "สามารถริเริ่มได้ด้วยตนเอง" บุคคลที่มีแรงกระตุ้นในตนเองนั้นจะสามารถแก้ปัญหาได้ดี อีกทั้งยังมีทักษะในการจัดการองค์กรได้เป็นอย่างดี พวกเขาจะมีความกระตือรือร้นในการสร้างสรรค์ผลงานของพวกเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่นักการตลาดดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพควรมีและควรทำ
"ไม่มีนักการตลาดดิจิทัลคนใดที่ดำเนินงานได้ด้วยตัวคนเดียว – นักการตลาดดิจิทัลที่ดีต้องไม่กลัวที่จะขอความช่วยเหลือ"พวกเขาแสวงหาความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ – ถามคำถาม ยอมรับฟังข้อเสนอแนะ และจดบันทึกคำตอบ ตัวอย่างเช่น หากอยู่ใน Twitter พวกเขาจะติดต่อ Influencer เพื่อขอคำแนะนำ เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับ และขอความช่วยเหลือในการแชร์เนื้อหาทำหารตลาด ในงานอีเว้นท์พวกเขาจะจับมือกับพาร์ทเนอร์ ฟังอย่างตั้งใจ เสนอความช่วยเหลือและมั่นใจว่าพวกเขาจะพูดคุยอยู่กับคนที่ให้ความช่วยเหลือได้
นักการตลาดดิจิทัลที่ทำงานมีประสิทธิภาพ จะไม่เสี่ยงใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย ความวิตกกังวลและอาการนอนไม่หลับ พวกเขาจะตระหนักถึงความสำคัญของการหยุดพัก เพราะทุกวันมีเนื้อหาการตลาดนับร้อยนับพันรายการที่เผยแพร่อยู่เต็มไปหมด – คุณไม่มีทางเลยที่จะมีโอกาสอ่านมันได้ทั้งหมด เช่นนั้นทำไมยังต้องเสียเวลาทำ? Ariana Huffington ผู้ก่อตั้งสื่อรายใหญ่อย่าง Huffington Post เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนแนวคิด…การหยุดพักจากเทคโนโลยี เพราะการทำงานที่หักโหมไม่ได้เป็นแนวทางเดียวที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ แต่การจัดสรรเวลาที่ดีต่างหากที่จะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ
สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter
Cr. digitalmarketinginstitute.com, digiexe.com, xtraordinaryideas.com, iscreamsundae.com, img.wikinut.com, shawacademy.com