L'Oréal's กับ Digital Transformation นั้นเกี่ยวข้องกันอย่างไร ขอกล่าวก่อนว่าแบรนด์ L'Oréal's นับว่าเป็นแบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังระดับโลก ที่หลายคนรู้จักกันดี โดยมีผู้บริหารฝ่ายการตลาดคนเก่งอย่าง Marie Gulin-Merle ได้กำหนดทิศทางของแบรนด์ L'Oréal's ในสหรัฐอเมริกาว่าจะต้องปฏิรูปองค์กรให้ทันกับโลกดิจิทัล นับว่าเป็นก้าวสำคัญกับการพาแบรนด์ L'Oréal's เข้าสู่ Digital Transformation อย่างเต็มตัว เราจะมาดูแนวคิดของเธอกันว่าต้องทำอย่างไร
"ด้วยอานุภาพของเทคโนโลยีและสมาร์ตโฟน ทำให้ประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภคเป็นเรื่องง่าย ช่วยอำนวยความสะดวกของแต่ละบุคคลมากยิ่งขึ้น"
สิ่งแรกที่ต้องทำคือการยอมรับว่าสมาร์ตโฟนนั้น มีอิทธิพลต่อการจับจ่ายสินค้าของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสินค้าเครื่องสำอางและกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม การทดลองใช้เครื่องสำอาง และการจัดแต่งทรงผม ในยุคก่อนจำเป็นที่จะต้องไปลองที่หน้าเคาน์เตอร์เท่านั้น แต่ยุคนี้ ใครจะไปคิดว่าสมาร์ตโฟนเครื่องเดียว ก็สามารถเนรมิตได้ในทุกที่ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแต่งหน้า เปลี่ยนทรงผม เพื่อเป็นแนวทางก่อนที่จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์มาใช้จริง
Digital Transformation คืออะไร…ใช้ทำอะไรได้บ้างในโลกธุรกิจ
เมื่อโลกเทคโนโลยีเปลี่ยน ภาคธุรกิจก็ย่อมปรับเปลี่ยนตาม Marie Gulin-Merle ที่ดำรงตำแหน่ง CMO ของแบรนด์ L'Oréal's จึงได้ตระหนักว่า ดิจิทัลไม่ใช่แค่ส่วนใดส่วนหนึ่งของแบรนด์เท่านั้น แต่ต้องเป็นทุกส่วนที่เราทำต่างหากคือการ Digital Transformation ที่แท้จริง ซึ่งในแต่ละขั้นตอนก็มีข้อแนะนำดังต่อไปนี้
แน่นอนว่าในยุคสมาร์ตโฟนต่างก็มีข้อมูลข่าวสารเป็นจำนวนมาก ผู้บริโภคของ L'Oréal's นั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้บริโภคอย่างเดียว แต่ต่างคนย่อมมีความรู้ความสามารถในการแต่งหน้า แต่งตัว รวมถึงการทำผมที่แตกต่างกัน ซึ่ง L'Oréal's ได้เล็งเห็นช่องทางนี้ว่าทุกคนก็สามารถออกแบบการแต่งหน้าแต่งตัวได้เองด้วยปลายนิ้ว
จึงได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน Makeup Genius ของ L'Oréal's บนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android วิธีการใช้ก็ไม่ยาก เพียงแค่ถ่ายรูปใบหน้าของคุณ แล้วให้แอปพลิเคชัน Makeup Genius ช่วยแต่งแต้มสีสันจากเครื่องสำอางลงบนใบหน้า ทำให้ผู้บริดภคสามารถเลือกสไตล์การแต่งหน้าได้ด้วยตนเอง
ส่วนสำคัญของแอปพลิเคชันนี้ไม่ได้ทำมาเพื่อการค้า แต่ทำเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคของ L'Oréal's เองต่างหาก ทำให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับแบรนด์ พร้อมทั้งยังเรียนรู้ถึงประสบการณ์การใช้งานของลูกค้า ซึ่งตอนนี้มีผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน Makeup Genius นี้แล้วกว่า 20 ล้านคน
[embed]https://www.youtube.com/watch?v=K49YxsHeXw4[/embed]
เราอยู่ในยุคที่มีข้อมูลจำนวนมาก ดังนั้นพฤติกรรมของผู้บริโภคก็ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย Consumer Journey ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันจะเน้นค้นหา รวมถึงการดูวิดีโอรีวิวผลิตภัณฑ์ ซึ่งทาง L'Oréal's เป็นพาร์ทเนอร์กับ Google เพื่อที่จะได้ทราบข้อมูลว่าลูกค้าต้องการอะไร สืบค้นหาผลิตภัณฑ์ใดบ้าง รวมถึงปัญหาต่างๆ จึงทำให้ L'Oréal's สามารถตอบโจทย์ได้ว่าลูกค้าต้องการอะไร รวมถึงสามารถคาดการณ์สิ่งที่ลูกค้าต้องการในอนาคตได้เช่นกัน
L'Oréal's จึงได้ตอบโจทย์ของลูกค้า เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น จึงได้เพิ่มช่องทางสื่อเจ้าดังอย่าง YouTube สำหรับการจัดทำวิดีโอรีวิวการแต่งหน้าโดยเฉพาะ เมื่อลูกค้าค้นหาคำว่า “คอนทัวร์หน้า” เป็นจำนวนมาก L'Oréal's จึงได้ใช้โอกาสนี้ทำรีวิวการลงคอนทัวร์หน้าแบบง่ายๆ ซึ่งทำหลากหลายตามเชื้อชาติและสีผิว รวมถึงให้คำแนะนำวิธีการแต่งหน้าต่างๆ ถึงนับว่าประสบความสำเร็จในระดับสูง เพราะมีผู้บริโภคได้เสพวิดีโอรีวิวกันอย่างมากมาย ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าเป็นอย่างมาก
[embed]https://www.youtube.com/watch?v=081e8srkxmk[/embed]
การเล่าเรื่องราวผ่านสื่อโฆษณาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล จะช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายมากขึ้น เป็นเพราะในยุคดิจิทัล มีสื่อและข้อมูลอยู่มากมายการเล่าเรื่องที่แตกต่าง จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากกว่าการทำอะไรแบบเดิมๆ และยิ่งเป็นโฆษณาที่แสดงใน YouTube ควรมีการเล่าเรื่องที่เร็ว กระชับ ดูแตกต่าง ตรงประเด็น สร้างสรรค์ เพื่อตรึงให้ผู้ชมรู้สึกว่าโฆษณานี้มีอะไรที่เขาต้องการ
เหมือนกับโฆษณาของ L'Oréal's สเปรย์ Root Cover Up ซึ่งเผยแพร่ผ่านทาง YouTube สามารถบอกทุกอย่างได้ในเวลา 6 วินาทีเท่านั้น ผู้บริโภครับทราบได้ทันทีว่าผลิตภัณฑ์นี้มีไว้ทำอะไร ใช้อย่างไร เป็นของแบรนด์อะไร
สิ่งที่ L'Oréal's ได้ทำนั้น คือการปรับปรุงทิศทางของการตลาดให้เข้ากับโลกดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งใช้ Digital Marketing มาช่วยในหลากหลายด้าน เช่น
สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter
ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ
thinkwithgoogle.com/articles/loreal-mobile-digital-marketing-strategy.html