สำหรับงานทางด้าน Digital Marketing หรือ การตลาดออนไลน์ คงคุ้นเคยกับ Social Media เป็นอย่างดี เพราะโซเชียลมีเดียเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยการทำการตลาดในโลกออนไลน์ โดยมีแพลตฟอร์มชื่อดัง ที่น่าสนใจอย่าง Line ได้เปิดตัว Line@ (ไลน์แอท) ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เป็นต้นมา ซึ่งมีผลตอบรับในทางที่ดีค่อนข้างมาก
Line@ นั้นตอบโจทย์มาทางด้านธุรกิจโดยเฉพาะ ฟีเจอร์ที่คุ้นตากันมากที่สุดคือการแชตแบบ 1 ต่อ 1 ที่เหมือนกับในแอปพลิเคชัน Line ตามปกติ ซึ่งสามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้ทันที และยังมีฟีเจอร์พิเศษอย่างการบรอดแคสต์ข้อความ เพื่อกระจายข่าวสาร ให้กับผู้ติดตามได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการโพสต์ไทม์ไลน์เพื่อโปรโมตธุรกิจของตัวเองได้เป็นอย่างดี
โฆษณา Facebook หรือ Google แบบไหนที่ตอบโจทย์ในการทำ Digital Marketing ของธุรกิจคุณ
ซึ่งฟีเจอร์ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เอื้อต่องานด้าน Digital Marketing ค่อนข้างมาก ทำให้หลากหลายแบรนด์จึงหันมาใช้ Line@ แทน Line ธรรมดา ในการโปรโมตสินค้า และในช่วงเดือนกรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา Line@ ได้ปรับปรุงแพ็กเกจค่าใช้จ่ายต่อเดือนครั้งใหญ่ เพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้งาน โดยมีราคาแพ็กเกจให้เลือกดังนี้
- Free แพ็กเกจฟรีสามารถใช้งาน Line@ ได้อย่างไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่จำกัดผู้ติดตาม สามารถส่ง Broadcast ข้อความได้สูงสุด 1,000 ข้อความ/เดือน โพสต์ไทม์ไลน์ได้สูงสุด 4 โพสต์/เดือน มีแอดมินได้สูงสุดที่ 20 คน รวมถึงสามารถใช้การแชตแบบ 1:1 และออโต้รีพลายได้
- Basic มีค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ 90 USD หรือประมาณ 998 บาท ได้สิทธิ์หลายอย่างที่เหนือจากแพ็กเกจฟรี เช่น เพิ่มการส่ง Broadcast เป็น 50,000 ข้อความ สามารถโพสต์ไทม์ไลน์ได้ไม่จำกัด และยังใช้ฟีเจอร์ Rich Message ที่ช่วยส่งภาพขนาดใหญ่พร้อมฝังลิงก์ได้อีกด้วย
- Pro ค่าบริการรายเดือน 90 USD หรือประมาณ 1,998 บาท สิ่งที่แตกต่างจากแพ็กเกจ Basic คือ จำนวนผู้ติดตาม 50,000 คน และสามารถส่ง Broadcast ได้ไม่จำกัด รวมถึงส่งข้อความเฉพาะกลุ่มและดูสถิติขั้นสูงได้
- Pro+ มีค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ 90 USD หรือประมาณ 6,888 บาท เหนือกว่าแพ็กเกจ Pro ที่จำนวนผู้ติดตามได้ถึง 300,000 คน เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และสามารถใช้ได้ทุกฟีเจอร์ของ Line@
อีกทั้ง Line@ เราสามารถขอเป็นบัญชีรับรองได้ โดยความแตกต่างระหว่างบัญชีที่ผ่านการรับรอง (Approved Account)กับบัญชีมาตรฐาน (Standard Account) คือบัญชีที่ผ่านการรับรองแล้วจะถูกแสดงผลการค้นหาใน Line แต่สำหรับบัญชีทั่วไปจะไม่แสดงผลในส่วนนี้
ยังรวมไปถึงพรีเมียมไอดีที่ผู้ใช้บริการ Line@ สามารถเลือกไอดีได้ตามต้องการ แต่จะมีค่าบริการรายปี 5.99 USD หรือประมาณ 199 บาท ต่อปี แต่ถ้าไม่ต้องการใช้พรีเมียม ID ก็จะเป็น ID ที่ระบบสุ่มมาให้
ซึ่งฟีเจอร์ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับธุรกิจและนักการตลาด ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ใช้ไลน์ได้เป็นอย่างดี ซึ่ง Line@ ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่เหล่า Digital Marketers ในไทยจับตาดูเป็นอย่างมาก เพราะจำนวนคนไทยนั้นใช้ไลน์สูงสุดเป็นอันดับสองของโลกเลยทีเดียว
ที่มา at-blog.line.me/th
สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter
No Comments