<img src="//trc.taboola.com/1081267/log/3/unip?en=page_view" width="0" height="0" style="display:none">
 

Organic Reach บน Facebook ตายแล้ว? แล้วเราจะทำอย่างไรต่อดี

Organic Reach บน Facebook นับวันยิ่งจะมีคนเห็นน้อยลงเรื่อยๆ หลังจากที่ Mark Zuckerberg ได้ประกาศว่า เราจะเห็นโพสต์จากเพื่อนและครอบครัวเพิ่มมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันกลับลด Organic Reach จากเพจต่างๆ จากเดิมอยู่ที่ 5% ลดลงเหลือเพียง 4% เท่านั้น แล้วธุรกิจที่เปิดเพจบน Facebook จะทำอย่างไรต่อจากนี้กันดี และมีแนวโน้มอะไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคต?

จำนวน Like แทบจะไม่มีความหมาย

organic reach บน facebook

หลายเพจนี้นิยมใช้การ Promote Page เพื่อให้ได้ไลค์จำนวนมาก หรือที่เราเรียกกันภาษาบ้านๆ ว่าการซื้อไลค์ จำนวน Like ของเพจใดยิ่งมาก ก็นั่นหมายความว่า Organic Reach จะดีขึ้นด้วย ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงจะจริง แต่ในปัจจุบันนั้น Organic Reach ลดลงเป็นอย่างมาก

ประโยชน์ของจำนวนไลค์เท่าที่เห็นในตอนนี้คือ ยิ่งมีคนกดไลค์จำนวนมากในระดับหนึ่ง จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ อยากได้ ถ้าคุณคิดจะโปรโมทเพจเพื่อซื้อไลค์ล่ะก็ ทางเราของแนะนำว่าให้ซื้ออย่างพอประมาณ ไม่จำเป็นจะต้องลงเงินไปกับส่วนนี้ให้มากนัก แต่ถ้าคุณมีเงินถุงเงินถังแล้วล่ะก็ โปรโมทเพจก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายหรอกนะ

โฆษณา Facebook มีข้อดีอย่างไร และทำไมถึงต้องเป็น Facebook

เราไม่ควรสร้างบ้านบนที่ดินของคนอื่น

organic reach บน facebook

แบรนด์เกิดใหม่ หรือ SMEs หลายเจ้ามักจะพึ่งพาช่องทางออนไลน์เพียงที่เดียว นั่นคือ Facebook เมื่อ Facebook ประกาศ ลด Organic Reach ลง เราก็แทบจะทำอะไรไม่ได้ การที่เราสร้างแบรนด์บน Social Media บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องผิด แต่รากฐานของช่องทางออนไลน์ที่แท้จริงคือเว็บไซต์ต่างหาก เพราะเว็บไซต์เป็นของเราจริงแท้แน่นอน

เมื่อเรามีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เราสามารถใช้เทคนิคอื่นๆ อย่าง Content Marketing ผสานเข้ากับการทำ SEO เพื่อดึง Organic Traffic มายังเว็บไซต์ได้ โดยใช้เครื่องมือวัดผลอย่าง Google Analytics เพื่อให้รู้ว่ามีคนเข้าเว็บไซต์เราจากที่ไหนมากที่สุด ใช้ Google Search Console ช่วยดูว่ามีคีย์เวิร์ดไหนที่น่าสนใจ เพื่อนำมาปรับและเลือกใช้คีย์เวิร์ดสำหรับทำ SEO และเรายังสามารถนำ Traffic ที่ได้จากการเข้าเว็บไซต์ นำไปทำเป็นโฆษณาในรูปแบบ Retargeting, Remarketing  ได้อีก

ให้ลองใช้ช่องทางอื่น ที่ทำให้เรามีตัวเลือกมากขึ้น เช่นเว็บไซต์ขายสินค้าอื่นๆ  Social Media ใหม่ๆ รวมไปถึงช่องทางออฟไลน์ ถึงแม้เราจะมีช่องทางออนไลน์อยู่ก็ตาม ช่องทางออฟไลน์จะช่วยอุดรอยรั่ว เติมเต็มความสมบูรณ์ของการขายได้เช่นกัน เช่นมีหน้าร้าน มีตัวแทนจำหน่าย ทำให้สินค้าและบริการของเราไปได้ไกลมากกว่าช่องทางออนไลน์อีกด้วย

แนวโน้มราคาโฆษณาในอนาคตอาจสูงขึ้น

organic reach บน facebook

แน่นอนว่าเมื่อ Organic Reach ลดลง ก็เปรียบเสมือนบังคับให้เกิดการโปรโมท หรือสปอนเซอร์บน Facebook เพิ่มมากขึ้น เมื่อมีการโปรโมตเป็นจำนวนมาก ย่อมมีคู่แข่งโฆษณามาขึ้นด้วยเช่นกัน แต่หน้า News Feed มีจำนวนจำกัด จึงเป็นสาเหตุที่น่าจะทำให้ค่าโฆษณาสูงขึ้นในหลายแบบด้วยกัน

Micro Influencers มาแน่

organic reach บน facebook

ในยุคปัจจุบัน คนเริ่มชาชินกับโฆษณาที่มาจากแบรนด์ดังๆ รวมไปถึง Influencers ที่มีคนตามหลักแสนหลักล้าน เริ่มที่จะรู้ทัน ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ อีกต่อไป จึงเป็นช่องทางของ Micro Influencers ที่มีคนติดตามหลักพันหรือหลักหมื่น อาจเป็นบุคคลธรรมดาทั่วไป คนที่ติดตามก็มักจะเป็นเพื่อน หรือเป็นคนที่รู้จักกัน ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูง และหลายคนฟังเชื่อเชื่อ Micro Influencers มากกว่าแบรนด์

Organic Reach บน Facebook ตายแล้ว จริงเหรอ?

จะบอกว่ายังไม่ตาย แต่ก็หายใจรวยริน จนถึงขั้นประคองด้วยเครื่องช่วยหายใจก็อาจไม่ผิดนัก ดังนั้นแบรนด์ต่างๆ ควรเริ่มปรับตัวให้มากกว่าเดิม  และนี่คือบทสรุปที่ว่าควรทำอย่างไรต่อไป

  • ต้องมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง
  • ลดการพึ่งพา Facebook ลองหาช่องทางอื่นๆ เช่นการทำ SEO หรือช่องทาง Social Media ใหม่ๆ
  • ใช้ช่องทางออฟไลน์ เพื่อโปรโมตหรือขายสินค้าและบริการ

คำศัพท์ Digital Marketing

สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter

ที่มาบางส่วนจาก [1], [2]

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

Recent Posts