วิธีใช้ Keyword Planner ก่อนที่เราจะไปถึงขั้นนั้น ต้องทราบก่อนว่า Keyword Planner คืออะไร คำตอบคือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่คอยช่วยทำให้เราตรวจสอบราคาของคีย์เวิร์ดในเบื้องต้น ก่อนที่เราจะลงโฆษณากับ Google Adwords ในด้านของ Paid Search นั่นเอง ซึ่งการคิดเงินในรูปแบบของ Paid Search นั้นจะเป็นแบบ Pay per click (PPC) คือถ้ามีคนคลิก เราถึงจ่ายเงินค่าโฆษณานั่นเอง ดังนั้นการรู้ราคาโดยคร่าวๆ ของแต่ละคีย์เวิร์ดนับว่าเป็นเรื่องที่ดีในการคำนวณค่าใช้จ่ายได้
ราคาของแต่ละคีย์เวิร์ดนั้นแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน
- คู่แข่งมีจำนวนมากไหม คู่แข่งมาก ราคาย่อมสูงขึ้น
- ขึ้นอยู่กับประเทศ หรือโลเคชัน ต่างโลเคชัน แต่คีย์เวิร์ดเดียวกัน ราคาก็ต่างกันด้วย
- Quality Score คือคะแนนของแต่ละคีย์เวิร์ด คะแนนยิ่งสูงราคายิ่งถูกลง ตำแหน่งอยู่สูงขึ้น
1.How to วิธีใช้ Keyword Planner
มาถึง How to วิธีการใช้งาน Keyword Planner ในเบื้องต้นกันแล้ว เริ่มจากไปที่เว็บไซต์ Google Adwords คลิกเลยหากใครมีบัญชี Google Adwords อยู่แล้วให้กดลงชื่อเข้าใช้ได้ในทันที
2. สังเกตแถบด้านบน เลือกที่ Tools > Keyword Planner
3. พร้อมแล้วเตรียมกรอกคีย์เวิร์ดที่ต้องการ
เลือกที่ Get Search Volume Data and Trends จากนั้นกรอกคีย์เวิร์ดที่ต้องการลงในช่องว่าง (ยกตัวอย่าง : อาหารแมว) ปรับเป็นประเทศไทยให้เรียบร้อย ส่วน Negative Keyword จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้
4. ดูราคาของคีย์เวิร์ด และจำนวนครั้งที่คนค้นหาต่อเดือน
จากในรูป คำว่า "อาหารแมว" มีคนค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดคำนี้เฉลี่ยเดือนละ 6,600 ครั้ง คู่แข่งมีจำนวนน้อย ราคาที่แนะนำสำหรับการ Bid อยู่ที่ 1.94 บาท นับว่าค่อนข้างถูกเลยทีเดียว (ใครทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารแมว ลองใช้คำนี้ดูครับ) ซึ่งราคาในความเป็นจริงนั้นอาจสูงกว่านี้ หรือต่ำกว่านี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่กล่าวไปด้านบน แต่ก็นับว่านำมาใช้อ้างอิงได้
เรียกได้ว่า Keyword Planner ช่วยเราได้มากในการคิดราคาเบื้องต้น ซึ่งทำให้เราไม่ต้องคาดเดาราคาของคีย์เวิร์ดกันอีกต่อไปว่าต้องใช้เงินเท่าไร
ทำไมการ Search จึงสำคัญต่อการทำ Digital Marketing
สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter
No Comments