ประเภท Google Display Network (GDN) นั้นมีหลากหลายรูปแบบ หลายประเภท โดยประโยชน์ของ Google Display Network นั้นจะเน้นในเรื่องของ Awareness เป็นส่วนใหญ่ เพื่อตอกย้ำถึงแบรนด์ ให้ผู้คนจดจำสินค้าของเราได้ ซึ่งอย่างที่กล่าวไปเบื้องต้น ว่าประเภทของ Google Display Network นั้นมีมากมายหลายประเภท เราสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 รูปแบบใหญ่ๆ คือ
- รูปภาพ (Image Ads) ไม่ว่าจะเป็นสกุลไฟล์ gif, jpg, png
- Responsive Ads คือรูปแบบของโฆษณาที่เปลี่ยนแปลงรูปร่าง ขนาดไปตามช่องทางที่แสดงโฆษณา
- ในรูปแบบวิดีโอ และ Lightbox Ads
- รูปแบบ HTML5
ซึ่งประเภทของ Google Display Network ยอดนิยม ถ้าไม่นับวิดีโอแล้ว คงจะหนีไม่พ้นรูปภาพ (Image Ads) และ Responsive Ads ซึ่งทั้งสองรูปแบบนี้ต่างมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันออกไป มาดูกันว่าแบบไหนถึงจะเหมาะกับธุรกิจคุณ
การวางแผน Digital Marketing ในแต่ละธุรกิจมีความสำคัญมากแค่ไหน?
ประเภท Google Display Network เริ่มจาก Image Ads คืออะไร
ง่ายๆ คือการที่เราเอาไฟล์รูปภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งอย่างสกุลไฟล์ .png .jpg หรือรูปภาพที่เคลื่อนไหวได้ .gif เพื่อให้แสดงในเครือข่ายของ Google นั่นเอง แต่ด้วยข้อจำกัดของ Placement ที่ไปแสดงผลโฆษณาจะถูกจำกัดด้วยขนาดของรูปภาพนั่นเอง
ข้อดีของ Image Ads
- เราสามารถดีไซน์ได้เอง ออกแบบได้ตามความต้องการ เพราะฉะนั้นโฆษณาออกมาสวยสมใจแน่นอน
- ทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน เพียงแค่ออกแบบภาพตามขนาดที่ Google ต้องการอัปโหลดรูปภาพลงไป
ข้อเสียของ Image Ads
- เนื่องจาก Placement ในแต่ละที่ มีที่ว่างสำหรับ GDN ไม่เท่ากัน หากจะทำให้ครอบคลุม อาจต้องทำรูปภาพจำนวนมาก
- หากทำรูปภาพ GDN จำนวนไม่มาก หรือเลือกผิดขนาด ขนาดที่มีอัตราการโชว์น้อย อาจส่งผลให้ Impressions ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
- CTR, Impressions และจำนวนคลิก ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับโฆษณาในรูปแบบ Responsive Ads
ข้อแนะนำอื่นๆ สำหรับการทำ Image Ads
การทำรูปภาพ สำหรับ GDN ควรทำภาพเฉพาะขนาดที่แสดงผลเป็นจำนวนมากๆ เช่น
- 300*250
- 728*90
- 160*600
- 468*60
ทั้ง 4 ขนาดนี้ นับว่าค่อนข้างครอบคลุมและเป็นที่นิยม สามารถออก Placement ได้หลากหลาย รวมไปถึงการออกแบบ ไม่ควรใส่ตัวหนังสือที่มากจนเกินไป เพราะยิ่งใส่ตัวหนังสือมาก ขนาดก็จะยิ่งเล็กลง ยิ่ง Image Ads มีขนาดเล็กอยู่แล้ว ทำให้มองเห็นได้ไม่ชัด และอย่าลืมใส่ Call to Action ด้วย เพื่อเพิ่มอัตรา CTR ให้ดียิ่งขึ้น
GDN จะวัดผล KPI เป็นแบบไหนดี? ต้องอ่าน
Responsive Ads คืออะไร

ข้อดีของ Responsive Ads
- สร้างได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องออกแบบรูปภาพเอง ของแค่เพียงมีโลโก้ และรูปภาพสำหรับโฆษณา และข้อความบางส่วน
- Responsive Ads เพียง 1 โฆษณา สามารถลงได้เกือบทุก Placement ลดความยุ่งยากในการสร้างโฆษณาหลายๆ รูป
- CTR, Impression และจำนวนคลิก มักสูงกว่า Image Ads อย่างเห็นได้ชัด
ข้อเสียของ Responsive Ads
- มักจะไม่ค่อยสวย เพราะขึ้นอยู่กับการจัดรูปแบบของ GDN เองว่าจะไปออกใน Placement ใด
ข้อเสนอแนะในการทำ Responsive Ads
การทำ Responsive Ads ควรเตรียมรูปที่มีขนาดสัดส่วน 1.91:1 และ 1:1 เน้นรูปที่เห็นแล้วสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นธุรกิจเกี่ยวกันอะไร รวมไปถึงรูปโลโก้สินค้า และอย่าลืมใส่ข้อความเชิญชวนให้คลิก หรือใส่เพื่อบอกโปรโมชันที่เราต้องการจะสื่อ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับความแตกต่างระหวาง Image Ads และ Responsive Ads ว่าต่างกันแค่ไหน ซึ่งทั้งคู่ต่างมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ
อ่านบทความเพิ่มเติม : G SUITE ค้นหาและจัดการไฟล์งานให้เป็นระบบ ช่วยคุณได้มากกว่าที่คิด
No Comments