เพราะอะไรเด็กจบใหม่ ถึงมี Skills ไม่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน

ในปัจจุบันนักศึกษาที่จบใหม่มีทักษะ (Skills) ไม่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน และต้องมาหาความรู้เพิ่มเติมเองเพื่อเพิ่มคุณสมบัติพิเศษให้ตนเองโดดเด่น โดยความรู้เหล่านั้นเป็นความรู้ที่สถาบันการศึกษาไม่ได้สอน เพราะวิชาในสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่จะเน้นสอนเรื่องวิธีคิดและทฤษฎี แต่ในโลกของความเป็นจริงทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการมีการเปลี่ยนแปลงและอัปเดตตลอดเวลา ถ้านักศึกษาคนไหนไหวตัวช้าและไม่พยายามอัปเดตทักษะด้วยตนเอง โอกาสที่จะได้งานที่ตนเองชอบอาจจะลดน้อยลงไป เรามาดูกันว่าเพราะเหตุใดเด็กจบใหม่มีทักษะไม่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน และจะแก้ปัญหาช่องว่างทักษะนี้ได้อย่างไร

ความรู้ในสถาบันการศึกษาไม่ตอบโจทย์ลักษณะการทำงานจริง

ในสถาบันการศึกษาส่วนมากจะสอนความรู้ด้าน Hard Skills ที่เป็นหลักการและทฤษฎีที่ให้วิธีคิดกับผู้เรียน แต่ในโลกของการทำงานจริงนอกจากพนักงานจะต้องนำวิธีคิดที่ได้จากการเรียนมาประยุกต์ใช้กับงานได้แล้ว พนักงานจะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำวิธีการทำงานใหม่ ๆ มาเสริมทักษะให้ตนเอง เช่น นักศึกษาสาขาการจัดการการตลาดนอกจากจะได้เรียนรู้หลักการและวิธีคิดจากสถาบันการศึกษา ยังต้องอัปเดตองค์ความรู้ใหม่ ๆ ให้กับตนเองด้วย เช่น Digital Marketing ที่เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับสายงานการตลาดในยุคปัจจุบัน ดังนั้น นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในตอนนี้ควรติดตามความเคลื่อนไหวองค์ความรู้ใหม่ ๆ ในแวดวงอุตสาหกรรมอาชีพของตนเอง เพื่อให้ตนเองมีคุณสมบัติตรงกับความต้องการขององค์กร

องค์กรใช้กลยุทธ์เป็นกระบวนการคัดเลือกพนักงาน ไม่ใช่คัดเลือกจากความต้องการโดยรวมของตลาดแรงงาน

หลังจากที่นักศึกษาได้เรียนจบออกมาแล้ว ทุกคนจะถูกมองว่ามีความสามารถและประสบการณ์อยู่ในระดับเดียวทั้งหมด จึงเป็นเหตุทำให้นักศึกษาจบใหม่ในยุคนี้หางานได้ยาก เนื่องจากองค์กรมีความต้องการพนักงานไม่เหมือนกันและเจาะจงไปที่ความสามารถเฉพาะด้านมากขึ้น นักศึกษาทุกคนจะต้องเตรียมตัวกันตั้งแต่เนิ่น ๆ และสำรวจดูว่าองค์กรหรือบริษัทในฝันของเรามีความเชี่ยวชาญทางด้านไหน เพื่อให้เราพัฒนาตนเองไปให้ถูกทาง ดังนั้น ถ้าเราอยากเป็นนักศึกษาจบใหม่ที่แตกต่างจากคนอื่นที่จบพร้อมเรา เราต้องตั้งเป้าหมายและพัฒนาตนเองให้มีทักษะพิเศษที่จะเป็นคุณสมบัติเด่นให้กับตนเอง

เทคโนโลยีคือปัจจัยที่ทำให้นักศึกษาติดตามทักษะใหม่ไม่ทัน

บางครั้งปัญหาของนักศึกษาจบใหม่ไม่ได้อยู่ที่ความรู้ความสามารถที่ได้จากการเรียนในสถาบัน แต่ปัญหาอยู่ที่การมีทักษะที่ล่าหลังเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักศึกษาจะต้องหาประสบการณ์และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับทักษะพื้นฐานด้านดิจิทัล เช่น การขอฝึกงานกับบริษัทที่สามารถให้ประสบการณ์ตรงกับเราได้ หรือเข้าร่วมงานกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับอาชีพนั้น ๆ

ติดตามสาระน่ารู้จาก Digicup คลิก!

เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายเหล่านี้ นักศึกษาจะต้องรู้วิธีเอาชนะความไม่มั่นคงในชีวิตการทำงานหลังเรียนจบ ซึ่งมี 3 วิธีในการเตรียมตัวรับมือกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทักษะที่ตลาดต้องการ

• การพัฒนาทักษะด้วยการมองการณ์ไกลหรือการคาดการณ์ความต้องการทักษะในอนาคต โดยดูจากแนวโน้มของวิธีการทำงานที่เริ่มมีการพัฒนาขึ้นทีละขั้น เช่น วิธีทำการตลาดที่มีวิธีที่แปลกใหม่ขึ้นทุกวัน ดังนั้น นักศึกษาในสายงานการตลาดจะต้องหาเวลาว่างศึกษาองค์ความรู้ใหม่ ๆ นอกเหนือจากห้องเรียนอยู่เสมอ เพื่อเวลาเรียนจบไปแล้วตนเองจะได้มีคุณสมบัติตรงตามที่ตลาดต้องการ
• สำรวจทักษะที่สถานประกอบการต้องการ เพราะทุกสถานประกอบการในอุตสาหกรรมเดียวกันไม่ได้มีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่เหมือนกันทั้งหมด การสำรวจตำแหน่งงานในกลุ่มของสถานประกอบการที่ตนเองต้องการเข้าไปทำงาน จะทำให้เราได้ Reskills และ Upskills ได้ถูกทาง
• เรียนรู้นอกห้องเรียนด้วยการ เรียนคอร์สออนไลน์ เพราะบางสถาบันการศึกษาไม่มีหลักสูตรที่เราต้องการเรียน ดังนั้น คอร์สออนไลน์จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการพัฒนาตนเองนอกเวลาเรียน ซึ่งสามารถจัดสรรเวลาเรียนเองได้ตลอด 24 ชม. และสามารถเลือกเรียนเฉพาะเรื่องที่ตนเองสนใจได้

หากวันนี้เรากำลังเรียนอยู่หรือเรียนจบแล้ว และกำลังมีความกังวลเกี่ยวกับการหางานไม่ได้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องอัปเกรดทักษะตัวเองให้ทันต่อความต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบันและอนาคต Digicup The Digital Academy

Source [1]

เรียนรู้ทักษะภาวะผู้นำที่บทความ: 5 ระดับ ภาวะผู้นำ ที่ทุกคนต้องเรียนรู้

รับสิทธิพิเศษจาก Digicup คลิก!