การตลาดยุคใหม่ "ข้อมูล" อาจเป็นเชื้อเพลิงของกลยุทธ์ แต่ "อารมณ์" คือพวงมาลัยที่กำหนดทิศทางการตัดสินใจของลูกค้า การทำความเข้าใจว่าอารมณ์ของลูกค้าส่งผลต่อพฤติกรรมอย่างไร โดยเฉพาะในบริบทของ B2B, SaaS หรือ E-commerce จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
หนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดคือการทำ Emotional Friction Mapping หรือการระบุ "จุดเสียดทานทางอารมณ์" (Emotional Friction Points) ใน Customer Journey ที่ทำให้ลูกค้าไม่สบายใจ และอาจละทิ้งการซื้อไปในที่สุด
แม้จะเป็นการตัดสินใจในบริบท B2B ที่ดูเหมือนจะอิงจากเหตุผลและข้อมูลเป็นหลัก แต่จากงานวิจัยของ Harvard Business Review พบว่า ลูกค้ากลุ่ม B2B มีแนวโน้มจะเลือกแบรนด์ที่สร้างความมั่นใจและลดความเสี่ยงทางอารมณ์ได้ดีกว่า แม้ราคาและฟีเจอร์จะใกล้เคียงกันก็ตาม
>>> การใช้ CRM เพื่อติดตามและวิเคราะห์ทุก TOUCHPOINT ในกระบวนการขาย B2B
ตัวอย่าง Touchpoint ที่มี Emotional Impact สูง เช่น
หากธุรกิจไม่สามารถวิเคราะห์และลด Friction เหล่านี้ได้ ลูกค้าก็จะ "หลุดจาก Funnel" ไปโดยที่แบรนด์ไม่ทันรู้ตัว
Emotional Friction Mapping คือการวิเคราะห์เส้นทางของลูกค้า (Customer Journey) โดยโฟกัสที่ "อารมณ์" และ "ความรู้สึก" ที่เกิดขึ้นในแต่ละจุดสัมผัส ไม่ใช่แค่การดู Conversion Rate หรือ Click-Through Rate เพียงอย่างเดียว
ขั้นตอนการทำ Emotional Friction Mapping
จาก Customer Journey: From Curious to Committed (2024) พบว่า แบรนด์ที่ใช้ Emotional Friction Mapping อย่างเป็นระบบสามารถเพิ่ม Conversion Rate ได้เฉลี่ย 15-30% และลด Churn Rate ได้ถึง 25% ภายใน 6 เดือน
ตัวอย่าง
อ้างอิง : Success Blueprints. (2024). Customer Journey: From Curious to Committed. Retrieved from [https://business-explained.com/shop/customer-journey-from-curious-to-committed/]
อ่านบทความเพิ่มเติม :
CUSTOMER JOURNEY คืออะไร เปลี่ยนแปลงได้อย่างไรด้วย DIGITAL MARKETING
ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com