การรักษาลูกค้าเก่าไว้ให้ได้นั้นสำคัญและคุ้มค่ากว่าการหาลูกค้าใหม่หลายเท่าตัว แต่เจ้าของธุรกิจหลายคนยังคงเผชิญกับความท้าทายสูงสุด นั่นคือ "Customer Churn" หรือการที่ลูกค้าเลิกใช้สินค้าและบริการของเราไปอย่างเงียบๆ ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นแบบสุ่ม แต่เป็นผลมาจากความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ในทุกจุดสัมผัส (Touchpoint) ตลอดเส้นทางของลูกค้า (Customer Journey)
ดังนั้น เราจะพาคุณมาเจาะลึกกลยุทธ์ Customer Journey Risk Mapping ซึ่งเป็นแนวทางการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าเชิงรุก เพื่อระบุและจัดการความเสี่ยงก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจจากไป โดยใช้เครื่องมือทรงพลังอย่าง CRM, CDP และ Loyalty Hub เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน
Customer Journey หรือเส้นทางของลูกค้า คือกระบวนการทั้งหมดที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ ตั้งแต่การรับรู้ (Awareness), การพิจารณา (Consideration), การซื้อ (Purchase), การใช้บริการ (Service), ไปจนถึงการบอกต่อ (Advocacy) ในแต่ละขั้นตอนเหล่านี้ล้วนมีความเสี่ยงซ่อนอยู่ ซึ่งเราเรียกว่า "Customer Journey Risk"
ความเสี่ยงเหล่านี้ไม่ใช่แค่การที่ลูกค้าไม่กลับมาซื้อซ้ำ แต่ยังรวมถึงสัญญาณเล็กๆ น้อยๆ ที่บ่งชี้ถึงความไม่พอใจที่กำลังก่อตัวขึ้น เช่น
หากไม่มีการทำ Risk Mapping หรือการสร้างแผนที่ความเสี่ยงในจุดต่างๆ เหล่านี้ ธุรกิจก็เปรียบเสมือนการเดินเรือในทะเลที่ไม่แน่นอน รอวันให้พายุพัดเข้ามาโดยไม่มีการเตรียมพร้อม
ความเสี่ยงใน Customer Journey ไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ แต่มีปัจจัยขับเคลื่อน (Risk Drivers) ที่สำคัญอยู่เบื้องหลัง จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า 3 ปัจจัยหลักที่ธุรกิจต้องจับตามองเป็นพิเศษคือ
การจะมองเห็นความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ได้นั้นจำเป็นต้องมี "ข้อมูล" เป็นเข็มทิศนำทาง และนี่คือจุดที่เทคโนโลยีอย่าง CRM และ CDP เข้ามามีบทบาทสำคัญ
CRM (Customer Relationship Management): ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเก็บข้อมูลการปฏิสัมพันธ์และติดตามพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละขั้นตอนของ Journey เช่น ประวัติการซื้อ, การติดต่อสอบถาม, การเคลมสินค้า ทำให้ทีมงานเห็นภาพรวมว่าลูกค้าแต่ละรายอยู่ที่จุดไหนของการเดินทาง และมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์อย่างไรบ้าง
CDP (Customer Data Platform): คือขั้นกว่าของการจัดการข้อมูล CDP ถูกออกแบบมาเพื่อรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากทุกช่องทาง (LINE OA, E-commerce, Social Media, Website, POS) ทั้งข้อมูล Online และ Offline มาหลอมรวมกันเพื่อสร้าง ภาพลูกค้าแบบ 360 องศา (360° Customer View) ทำให้เราไม่ได้เห็นแค่ "ใครซื้ออะไร" แต่เห็นไปถึงพฤติกรรมการท่องเว็บ, สินค้าที่สนใจแต่ยังไม่ซื้อ, ช่องทางที่ใช้งานบ่อยที่สุด
เมื่อนำข้อมูลจาก CRM และ CDP มาวิเคราะห์ร่วมกัน ธุรกิจจะสามารถทำ "Customer Journey Risk Mapping" ได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถระบุได้ว่าลูกค้ากลุ่มไหน หรือรายบุคคลใด กำลังแสดงพฤติกรรมเสี่ยงที่จะหลุดออกจาก Journey ในขั้นตอนใด เพื่อที่จะได้วางแผนรับมือได้อย่างทันท่วงที
การมีข้อมูลอยู่ในมือแต่ไม่นำไปใช้ก็เปล่าประโยชน์ Loyalty Hub ของ Ourgreenfish คือโซลูชันที่สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อข้อมูลเชิงลึกจาก CRM/CDP ไปสู่การลงมือปฏิบัติจริงผ่านกลไกของ Loyalty Program
Loyalty Hub ไม่ใช่แค่ระบบสะสมคะแนนแลกของรางวัลทั่วไป แต่เป็นเครื่องมือสร้าง Engagement เชิงกลยุทธ์ที่ใช้ Data เป็นตัวขับเคลื่อน
การผสานกลยุทธ์ Customer Journey Risk Mapping เข้ากับเครื่องมือ CRM, CDP และ Loyalty Hub ให้ประโยชน์มหาศาลแก่ธุรกิจ
>>> Crisis Management สู่ Proactive CRM ใช้ CDP เพื่อลด Reputational Risk
เพราะ "ความไม่แน่นอนของลูกค้า" คือความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด การรอให้เกิดปัญหาแล้วค่อยตามแก้ (Reactive) ไม่ใช่วิธีที่ยั่งยืนอีกต่อไป การนำกลยุทธ์ Customer Journey Risk Mapping โดยใช้การผสานพลังของ CRM + CDP + Loyalty Hub คือคำตอบของการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าเชิงรุก (Proactive) ที่ช่วยให้ธุรกิจไม่เพียงแต่ลด Customer Churn แต่ยังสามารถสร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
อ้างอิง : Business Explained. (2023). Risk Management Explained. Retrieved from https://business-explained.com/shop/risk-management-explained/
อ่านบทความเพิ่มเติม : CUSTOMER JOURNEY คืออะไร เปลี่ยนแปลงได้อย่างไรด้วย DIGITAL MARKETING
ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com