Master Blog - Ourgreenfish

เจาะลึกแนวคิด Personalization สำหรับ Wellness Business

เขียนโดย OURGREENFISH TEAM - 22 พ.ค. 2025, 6:00:00

“รู้จักให้ลึก ไม่ใช่แค่รู้จัก” ความใส่ใจที่ลูกค้ายุคใหม่คาดหวัง Wellness ยุคใหม่ ไม่ได้ขายบริการ แต่ขาย “ความเข้าใจเฉพาะบุคคล” (Personalization)

ธุรกิจ Wellness ไม่ใช่แค่เรื่องของสุขภาพอีกต่อไป แต่เป็นการออกแบบประสบการณ์แบบเฉพาะตัว (Personalized Experience) ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า “คุณเข้าใจเขาจริง ๆ” การให้บริการแบบมาตรฐานกลายเป็นสิ่งพื้นฐานที่ทุกแบรนด์ทำได้ แต่สิ่งที่ลูกค้ากำลังมองหาคือ "ความใส่ใจเฉพาะตัว" หรือ Personalization ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

Personalization คืออะไร?

Personalization หรือการปรับแต่งประสบการณ์ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล คือการนำข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้ามาวิเคราะห์และนำเสนอสิ่งที่สอดคล้องกับความต้องการ พฤติกรรม และความคาดหวังของแต่ละคน โดยอาศัยระบบ CRM และ CDP ที่มีการบูรณาการข้อมูลจากหลากหลายช่องทาง

ในภาคธุรกิจ Wellness เช่น สปา คลินิกสุขภาพ หรือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ การใช้ Personalization จะช่วยให้การบริการดู “มีชีวิต” และ “ใกล้ชิด” มากขึ้น เช่น การเรียกชื่อ การจดจำประวัติการใช้บริการ ไปจนถึงการแนะนำแพ็คเกจใหม่ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการเลือกใช้บริการในอดีต

ทำไม Personalization ถึงสำคัญสำหรับ Wellness Business?

  1. ลูกค้ายุคใหม่ไม่ต้องการบริการ “ที่ดีที่สุด” แต่ต้องการบริการ “ที่เหมาะกับเขา”

งานวิจัยจาก Google พบว่า 61% ของลูกค้าคาดหวังให้แบรนด์ปรับประสบการณ์ให้เข้ากับความต้องการของพวกเขา และ 90% ของนักการตลาดชั้นนำยืนยันว่า Personalization มีผลกระทบต่อความสำเร็จของธุรกิจโดยตรง

  1. Personalization คือรากฐานของความภักดี (Customer Loyalty)

ลูกค้าที่ได้รับการดูแลแบบเฉพาะบุคคลมีแนวโน้มที่จะกลับมาใช้บริการซ้ำ และบอกต่อมากกว่าลูกค้าทั่วไป สอดคล้องกับข้อมูลจาก HubSpot ที่ระบุว่าแบรนด์ที่ใช้ CRM และ Automation อย่างถูกต้องสามารถเพิ่มอัตรา Retention ได้อย่างมีนัยสำคัญ

  1. เปลี่ยนข้อมูลเป็นประสบการณ์

การมีข้อมูลลูกค้ามากมายไม่ใช่คำตอบ หากไม่สามารถนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ใช้ประวัติการเข้ารับบริการเพื่อออกแบบแพ็กเกจใหม่ หรือส่ง Email อวยพรวันเกิดพร้อมสิทธิพิเศษ เป็นต้น

ใช้ CRM อย่างไรให้ Personalization เกิดขึ้นจริง?

“CRM ที่ดี ไม่ใช่แค่เก็บข้อมูลลูกค้า แต่ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเรารู้จักเขา”

- เก็บข้อมูลแบบมีระบบ

เริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลจากทุก Touchpoint: แบบฟอร์มลงทะเบียน, ประวัติการจอง, พฤติกรรมบนเว็บไซต์ และแชตผ่าน LINE OA

- ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรม

เครื่องมืออย่าง HubSpot ที่ Ourgreenfish ใช้ มี AI ที่สามารถวิเคราะห์แนวโน้มความต้องการของลูกค้าในอนาคต เช่น ลูกค้าที่เข้าเว็บไซต์บ่อย ๆ แต่ยังไม่จอง อาจสนใจบริการใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว

- ออกแบบแคมเปญให้เฉพาะเจาะจง

แทนที่จะส่งอีเมลเหมือนกันให้ทุกคน ใช้ระบบ Automation เพื่อส่งข้อความที่แตกต่างกันตามประวัติการใช้บริการ เช่น คนที่ชอบบริการนวด จะได้รับโปรโมชั่นเฉพาะนวดเท่านั้น

จรรยาบรรณในการใช้ข้อมูล : ความไว้วางใจคือทุกอย่าง

Personalization จะเกิดไม่ได้เลย หากลูกค้าไม่ยินยอมให้เราเก็บและใช้ข้อมูล ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจ Wellness ควร

  • แจ้งลูกค้าอย่างโปร่งใสว่าเก็บข้อมูลอะไรและใช้เพื่ออะไร
  • ให้ลูกค้ามีสิทธิ “เลือก” ว่าต้องการรับการสื่อสารแบบใด
  • เคารพความเป็นส่วนตัว และไม่ขายหรือส่งต่อข้อมูลให้บุคคลที่สาม

ความไว้วางใจนี้คือรากฐานของความสัมพันธ์ระยะยาว ซึ่งจะเปลี่ยนลูกค้าขาจรให้กลายเป็นลูกค้าประจำ

เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่

Personalization ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากเทคโนโลยีซับซ้อนเสมอไป แค่เริ่มจาก:

  • เรียกชื่อลูกค้าเมื่อมาติดต่อ
  • จดจำบริการที่ลูกค้าใช้ครั้งล่าสุด
  • แนะนำผลิตภัณฑ์ตามความสนใจเดิม

ทั้งหมดนี้คือจุดเริ่มต้นของ “ความประทับใจ” ซึ่งต่อยอดเป็นความสัมพันธ์ได้ในระยะยาว

Personalization ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น “กลยุทธ์หลัก” ของธุรกิจ Wellness

ในยุคที่ลูกค้ามีทางเลือกมากมาย สิ่งที่ทำให้แบรนด์อยู่ในใจลูกค้าได้ไม่ใช่แค่คุณภาพ แต่คือ “ความเข้าใจเฉพาะตัว” Personalization จึงเป็นมากกว่าเครื่องมือทางการตลาด แต่คือ “ปรัชญาการบริการ” ที่ยึดเอาลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง

อ้างอิง : Business Explained. (2023). Customer Relationship Explained. Retrieved from https://www.business-explained.com

อ่านบทความเพิ่มเติม :
ทำการตลาดแบบรู้ใจกลุ่มเป้าหมายด้วย PERSONALIZATION MARKETING

ติดต่อเรา
โทร: +66 2-0268918
อีเมล: contact@ourgreen.co.th
เว็บไซต์: ourgreenfish.com