ทำความรู้จัก โมเดลธุรกิจแบบ As-a-Service (aaS)

โมเดลธุรกิจแบบ As-a-Service (aaS) เป็นรูปแบบธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากโมเดลธุรกิจแบบดั้งเดิมที่เน้นการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ ไปเป็นความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับผู้ค้าในรูปแบบที่ลูกค้าเพียง "เช่า" หรือได้รับการครอบครองชั่วคราวของผลิตภัณฑ์หรือโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องการสำหรับการให้บริการ 

โมเดลนี้มีลักษณะที่เป็นการเปลี่ยนแปลงจากแนวคิดแบบ "สินค้ากลาง" ไปเป็นแนวคิดแบบ "ศูนย์กลางการให้บริการ" และ "ศูนย์กลางลูกค้า" ซึ่งหมายความว่าองค์กรส่วนใหญ่กำลังรับบทบาทเป็น "ผู้เอื้ออำนวยคุณค่า" แทนที่จะเป็นเพียง "ผู้ผลิตคุณค่า"

ประเภทของโมเดลธุรกิจแบบ As-a-Service

1. Software as a Service (SaaS): โมเดลนี้ให้บริการซอฟต์แวร์ผ่านระบบสมัครสมาชิก โดยโครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากรถูกโฮสต์ในที่เดียวและสามารถเข้าถึงได้ผ่านอินเทอร์เน็ต แอปพลิเคชัน หรือเบราว์เซอร์ ตัวอย่างเช่น ซอฟต์แวร์การจัดการทรัพยากรบุคคล ซอฟต์แวร์การทำบัญชี และซอฟต์แวร์การจองต่างๆ

2. Platform as a Service (PaaS): ให้บริการแพลตฟอร์มที่นักพัฒนาสามารถใช้ในการสร้าง จัดการ และปรับใช้แอปพลิเคชัน ตัวอย่างเช่น Google App Engine และ Microsoft Azure 

3. Infrastructure as a Service (IaaS): ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ เช่น เซิร์ฟเวอร์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ผ่านระบบคลาวด์ ตัวอย่างเช่น Amazon Web Services (AWS) และ Google Cloud Platform 

4. Data as a Service (DaaS): ให้บริการการจัดการข้อมูล เช่น การจัดเก็บและการวิเคราะห์ข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ โดยลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการตามปริมาณและประเภทของข้อมูลที่ต้องการใช้

ข้อดีของโมเดลธุรกิจแบบ As-a-Service

- ความยืดหยุ่นและความสะดวก: ลูกค้าสามารถเลือกใช้ฟีเจอร์ตามที่ต้องการและจ่ายตามการใช้งานจริง ทำให้การจัดการงบประมาณง่ายขึ้นและปรับแต่งได้ตามความต้องการ 
  
- การปรับขนาดง่าย: โมเดลนี้สามารถปรับขนาดบริการให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีข้อจำกัดในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานล่วงหน้า 
  
- ลดภาระการบำรุงรักษาและการอัปเกรด: ผู้ให้บริการจะเป็นผู้รับผิดชอบในการบำรุงรักษาและอัปเกรดระบบ ทำให้ลูกค้าประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระบบ 

ข้อเสียของโมเดลธุรกิจแบบ As-a-Service

- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูง: ธุรกิจที่ใช้โมเดล aaS มักต้องการการลงทุนล่วงหน้าที่สูงและมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูง เนื่องจากต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง 

- ความต้องการการมีส่วนร่วมของผู้ใช้มากขึ้น: การใช้บริการ aaS ต้องการความร่วมมือและการมีส่วนร่วมจากผู้ใช้มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับบางองค์กรที่มีทรัพยากรจำกัด 

- ความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น: ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในโมเดล aaS มักมีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้การจัดการและการบำรุงรักษายากขึ้น และอาจต้องการทักษะพิเศษในการดำเนินการ 

สรุป

โมเดลธุรกิจแบบ As-a-Service เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจากการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ไปสู่การใช้บริการที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับขนาดได้ โมเดลนี้เน้นการให้คุณค่าและความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก และมีความยืดหยุ่นในการใช้งานและการจัดการงบประมาณ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนไปใช้โมเดลนี้ต้องการการลงทุนล่วงหน้าที่สูงและความซับซ้อนในการบริหารจัดการ แต่ด้วยข้อดีที่มีมากมาย โมเดลธุรกิจแบบ As-a-Service จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัลนี้

อ่านบทความเพิ่มเติม : เทคนิครับมือกับ DISRUPTIVE CHALLENGER คู่แข่งที่คุณต้องรู้ในยุคดิจิทัล