Master Blog - Ourgreenfish

อัปเดต Customer Support ที่จำเป็นที่สุดสำหรับ ธุรกิจสุขภาพปี 2025

เขียนโดย OURGREENFISH TEAM - Dec 18, 2024 7:00:00 AM

การดูแลผู้ป่วยในอุตสาหกรรมสุขภาพกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ในปี 2025 ธุรกิจสุขภาพจะต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้าง Customer Support ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการและความคาดหวังของผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ ระบบ Customer Relationship Management (CRM) จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสุขภาพสามารถปรับปรุงการบริการเพื่อดูแลผู้ป่วยได้อย่างครบวงจรและเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยเราได้รวบรวมแนวโน้มการใช้ CRM เพื่อปรับปรุง Customer Support ที่จำเป็นที่สุดสำหรับธุรกิจสุขภาพปี 2025 มาให้คุณแล้ว จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกัน

6 Customer Support ที่จำเป็นที่สุดสำหรับ ธุรกิจสุขภาพปี 2025 

  1. Customer Support สำหรับธุรกิจสุขภาพปี 2025 : การให้บริการเชิงรุกด้วย Predictive Support

CRM ที่ผนวกกับเทคโนโลยี AI จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการสร้างการบริการเชิงรุกโดยใช้ข้อมูลจากประวัติผู้ป่วยและพฤติกรรมสุขภาพ ระบบจะสามารถทำนายและตอบสนองต่อปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนที่จะมีการร้องเรียน

  • การวิเคราะห์แนวโน้มสุขภาพ: AI ใน CRM จะวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อคาดการณ์ภาวะสุขภาพของผู้ป่วยในอนาคต เช่น โอกาสการกลับมาเป็นโรคเรื้อรัง ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถจัดการดูแลสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การแจ้งเตือนและเตรียมการล่วงหน้า: ระบบสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนให้ทีมงานทราบถึงสถานการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือในทันที เช่น การติดตามการรักษาต่อเนื่อง เพื่อให้การดูแลครอบคลุมและตรงจุด

PREDICTIVE LOYALTY MODELING ใน CRM : คาดการณ์และป้องกันสูญเสียลูกค้า

  1. Customer Support สำหรับธุรกิจสุขภาพปี 2025 : Telehealth และการรวมข้อมูลผู้ป่วยแบบครบวงจร

การดูแลผ่านช่องทาง Telehealth กำลังเป็นที่นิยมในธุรกิจสุขภาพ การรวมข้อมูลผู้ป่วยแบบครบวงจรเข้ากับระบบ CRM ช่วยให้การให้บริการและติดตามอาการผู้ป่วยทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การผสาน Telehealth กับ CRM: ระบบจะรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยที่ได้รับจากการสนทนาใน Telehealth มารวมในโปรไฟล์เพื่อให้ทีมแพทย์เข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์
  • การติดตามผลลัพธ์การรักษา: CRM จะช่วยจัดการข้อมูลที่ได้จาก Telehealth เพื่อประเมินความคืบหน้าของผู้ป่วยในทุกการตรวจ จึงสามารถปรับปรุงแผนการรักษาให้มีความเฉพาะเจาะจงและเหมาะสม
  • การเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ตรวจสุขภาพ: เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ข้อมูลจากอุปกรณ์วัดค่าสุขภาพ (เช่น เครื่องวัดความดันหรือระดับน้ำตาล) สามารถถูกส่งเข้าสู่ระบบ CRM เพื่อให้ทีมดูแลได้รับข้อมูลที่เป็นปัจจุบันมากที่สุด
  1. Customer Support สำหรับธุรกิจสุขภาพปี 2025 : การใช้ Personalization เพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล

ในปี 2025 ความคาดหวังในการได้รับการดูแลแบบเฉพาะบุคคลเพิ่มสูงขึ้น CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อออกแบบการดูแลที่ตรงกับผู้ป่วยรายบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การปรับแต่งแผนการรักษา: CRM ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผนการรักษาที่ตอบสนองต่อภาวะสุขภาพที่เฉพาะเจาะจงของผู้ป่วยแต่ละราย
  • การตั้งค่าความถี่การสื่อสารที่เหมาะสม: ผู้ป่วยสามารถเลือกวิธีการติดต่อสื่อสารที่พวกเขาต้องการ เช่น ทางโทรศัพท์ อีเมล หรือแอปมือถือ ซึ่งช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการใช้บริการ
  • การให้คำแนะนำแบบเฉพาะเจาะจง: จากข้อมูลในระบบ CRM ทีมดูแลสามารถส่งคำแนะนำที่เหมาะสมกับภาวะสุขภาพและไลฟ์สไตล์ของผู้ป่วยได้ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกได้รับการดูแลอย่างใส่ใจ

9 กลยุทธ์การทำ PERSONALIZATION เอาใจลูกค้าให้ถูกจุด

  1. Customer Support สำหรับธุรกิจสุขภาพปี 2025 : ระบบ Automation สำหรับจัดการ Feedback อย่างมีประสิทธิภาพ

Feedback จากผู้ป่วยเป็นข้อมูลที่มีค่าในการปรับปรุงบริการ Customer Support ในธุรกิจสุขภาพ การใช้ระบบ Automation ใน CRM ช่วยรวบรวมและวิเคราะห์ความคิดเห็นของผู้ป่วยเพื่อปรับปรุงบริการได้อย่างรวดเร็ว

  • การส่งแบบสอบถามอัตโนมัติ: ระบบสามารถตั้งค่าการส่งแบบสอบถามเพื่อสอบถามความพึงพอใจหลังการเข้ารับบริการ ทำให้ได้รับ Feedback ที่มีความรวดเร็วและทันสมัย
  • การวิเคราะห์ Customer Sentiment: AI ใน CRM ช่วยวิเคราะห์ความรู้สึกและความคิดเห็นของผู้ป่วยจาก Feedback เช่น ความรู้สึกของผู้ป่วยต่อการบริการ ทำให้ธุรกิจสามารถปรับการให้บริการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม
  • การติดตามการปรับปรุงการให้บริการ: CRM ช่วยบันทึกและติดตามผลการแก้ไขตาม Feedback ที่ได้รับ ซึ่งทำให้ธุรกิจสามารถติดตามความพึงพอใจของผู้ป่วยในระยะยาว

  1. Customer Support สำหรับธุรกิจสุขภาพปี 2025 : Predictive Analytics ในการวางแผนการดูแลระยะยาว

CRM ช่วยให้ธุรกิจสุขภาพสามารถใช้ข้อมูลจากอดีตและประมวลผลแนวโน้มเพื่อทำนายความต้องการในอนาคต ช่วยให้สามารถวางแผนการดูแลสุขภาพในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การใช้ Predictive Analytics: CRM จะคำนวณและทำนายแนวโน้มสุขภาพของผู้ป่วยจากข้อมูลในอดีต ทำให้ทีมแพทย์สามารถให้การดูแลเชิงป้องกันได้ เช่น การส่งคำแนะนำเพื่อให้ผู้ป่วยตรวจสุขภาพตามรอบเวลา
  • การจัดลำดับความสำคัญในการดูแล: จากข้อมูล CRM ทีมแพทย์สามารถจัดลำดับความสำคัญของผู้ป่วยที่มีภาวะเร่งด่วน และจัดสรรเวลาในการติดตามได้อย่างเหมาะสม
  • การวางแผนการให้บริการต่อเนื่อง: CRM ช่วยให้สามารถปรับแผนการดูแลผู้ป่วยให้ครอบคลุมทั้งด้านการป้องกัน การดูแลอย่างสม่ำเสมอ และการติดตามผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  1. Customer Support สำหรับธุรกิจสุขภาพปี 2025 : การเพิ่มขีดความสามารถของทีมด้วยการให้ข้อมูลเรียลไทม์

การเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยแบบเรียลไทม์เป็นสิ่งสำคัญในธุรกิจสุขภาพ การใช้ CRM ที่มีฟีเจอร์รายงานผลเรียลไทม์ช่วยให้ทีมดูแลสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและมีข้อมูลครบถ้วนในการดูแลผู้ป่วย

  • การรายงานผลเรียลไทม์: CRM ช่วยให้ทีมแพทย์และทีมสนับสนุนได้รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสุขภาพของผู้ป่วย เช่น ข้อมูลที่ได้จากการตรวจรักษาหรือการวินิจฉัย
  • การติดต่อสื่อสารทันทีผ่าน CRM: ระบบ CRM เชื่อมโยงกับช่องทางการสื่อสารหลากหลาย เช่น การแจ้งเตือนอัตโนมัติผ่านแอปพลิเคชันเพื่อแจ้งข้อมูลสำคัญให้ผู้ป่วยทราบได้ในทันที
  • การสร้างภาพรวมการให้บริการ: CRM ช่วยสร้างภาพรวมของการดูแลผู้ป่วยทั้งหมด ทำให้ทีมดูแลสามารถตรวจสอบการดูแลได้อย่างราบรื่นและครบถ้วน

ในปี 2025 การใช้ CRM ในธุรกิจสุขภาพจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับปรุง Customer Support ให้สอดคล้องกับความคาดหวังของผู้ป่วยและตอบสนองต่อการดูแลสุขภาพที่มีความเฉพาะบุคคล ธุรกิจที่สามารถนำเทคโนโลยี CRM มาใช้อย่างครบถ้วนและเหมาะสมจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า เสริมสร้างความไว้วางใจ และสร้างความพึงพอใจอย่างยั่งยืน

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

Customer Support CRM ที่มีประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาลูกค้า