Predictive Loyalty Modeling ใน CRM : คาดการณ์และป้องกันสูญเสียลูกค้า

Audio Version
Predictive Loyalty Modeling ใน CRM : คาดการณ์และป้องกันสูญเสียลูกค้า
8:08

ทุกธุรกิจต่างรู้ดีว่าการดึงดูดลูกค้าให้อยู่กับแบรนด์ตลอดไปไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อโลกธุรกิจหมุนไปอย่างรวดเร็วและมีการแข่งขันสูง ความสามารถในการทำนายความเสี่ยงที่ลูกค้าอาจจะหายไปจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้ แต่แทนที่จะมานั่งกังวลกับการสูญเสียลูกค้า การใช้ Predictive Loyalty Modeling ใน CRM จะช่วยให้คุณก้าวข้ามความกังวลนี้ไปได้ ด้วยการใช้ข้อมูลเชิงลึกและเทคโนโลยีการวิเคราะห์ขั้นสูง คุณสามารถรู้ได้ล่วงหน้าว่าลูกค้ารายใดกำลังมีแนวโน้มที่จะเลิกใช้บริการ และที่สำคัญ คุณยังสามารถออกแบบแคมเปญเพื่อรักษาลูกค้าเหล่านั้นได้แบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องรอจนสายเกินไป

Predictive Loyalty Modeling คือกระบวนการที่ใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ (Predictive Analytics) เพื่อระบุและทำนายพฤติกรรมของลูกค้าที่มีแนวโน้มว่าจะยังคงภักดีต่อแบรนด์หรือมีความเสี่ยงที่จะเลิกใช้บริการในอนาคต การใช้โมเดลนี้มักอาศัยข้อมูลที่ได้จาก CRM (Customer Relationship Management) เช่น ประวัติการซื้อ การมีส่วนร่วมกับแบรนด์ และการตอบสนองต่อแคมเปญการตลาด

Predictive Loyalty Modeling ทำงานโดยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าจำนวนมาก จากนั้นใช้เทคนิคทางสถิติและแมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning) เพื่อสร้างโมเดลที่สามารถทำนายแนวโน้มของลูกค้าในอนาคตได้ โมเดลนี้สามารถระบุลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเลิกใช้บริการ ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินการเชิงรุกเพื่อรักษาลูกค้าไว้ได้ เช่น การส่งข้อเสนอพิเศษหรือแคมเปญการตลาดที่ตรงจุด เพื่อดึงดูดและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

โดยสรุปแล้ว Predictive Loyalty Modeling ช่วยให้ธุรกิจสามารถคาดการณ์และจัดการกับความเสี่ยงในการสูญเสียลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและสร้างความภักดีในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน

 

Predictive Loyalty Modeling ใน CRM : การใช้ Predictive Analytics ใน CRM เพื่อระบุลูกค้าที่มีความเสี่ยงจะเลิกใช้บริการ

Predictive Analytics เป็นการใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำนายแนวโน้มในอนาคต โดยในบริบทของ CRM นั้น การใช้ Predictive Analytics ช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุได้ว่าลูกค้าคนใดมีแนวโน้มที่จะเลิกใช้บริการหรือย้ายไปใช้บริการของคู่แข่ง

shutterstock_2440628319 (1)

  1. การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า: การใช้ CRM ในการเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมลูกค้า เช่น การซื้อสินค้า การติดต่อกับฝ่ายบริการลูกค้า การตอบสนองต่อแคมเปญการตลาด หรือแม้กระทั่งการใช้งานบริการต่างๆ เป็นข้อมูลที่สำคัญในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า Predictive Analytics จะนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์เพื่อสร้างโมเดลที่ทำนายได้ว่าลูกค้ารายใดอาจมีความเสี่ยงที่จะเลิกใช้บริการ
  2. การระบุสัญญาณเตือน: CRM ที่มีความสามารถในการทำ Predictive Analytics จะสามารถระบุสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงความเสี่ยงได้ เช่น การลดลงของการซื้อสินค้า การติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าบ่อยครั้งในระยะเวลาสั้นๆ หรือการไม่ตอบสนองต่อแคมเปญการตลาด สัญญาณเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้ทันที
  3. การสร้างโปรไฟล์ความเสี่ยงของลูกค้า: โมเดล Predictive Loyalty จะสร้างโปรไฟล์ของลูกค้าที่มีความเสี่ยงแต่ละราย ทำให้ธุรกิจสามารถจัดลำดับความสำคัญในการรักษาลูกค้าได้ การรู้ว่าลูกค้าคนไหนมีความเสี่ยงสูงสุดจะช่วยให้ทีมงานสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างความพึงพอใจและรักษาลูกค้าเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

22 Examples of Customer Retention Strategies That Work

Predictive Loyalty Modeling ใน CRM : เทคนิคการออกแบบ Retention Campaigns แบบอัตโนมัติใน CRM

เมื่อคุณสามารถระบุลูกค้าที่มีความเสี่ยงได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการออกแบบและดำเนินการ Retention Campaigns ที่ตรงจุดและเกิดผลลัพธ์ที่ดี Predictive Loyalty Modeling ใน CRM ยังช่วยให้คุณสามารถออกแบบแคมเปญเหล่านี้ให้เป็นแบบอัตโนมัติได้ ทำให้การรักษาลูกค้าเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  1. การสร้างข้อเสนอที่ปรับแต่งได้: การใช้ข้อมูลที่ได้จาก Predictive Analytics ทำให้คุณสามารถสร้างข้อเสนอที่ปรับแต่งได้เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าที่มีความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น การเสนอส่วนลดพิเศษ หรือการมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคน ข้อเสนอเหล่านี้สามารถช่วยดึงดูดและรักษาลูกค้าไว้ได้
  2. การตั้งค่าแคมเปญอัตโนมัติ: CRM ที่มีฟังก์ชัน Predictive Loyalty Modeling สามารถตั้งค่าแคมเปญอัตโนมัติที่ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาลูกค้าที่มีความเสี่ยงได้ เมื่อมีการตรวจพบสัญญาณเตือน ระบบจะส่งข้อเสนอหรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องไปยังลูกค้าทันทีโดยไม่ต้องรอการดำเนินการจากทีมงาน การตั้งค่าแคมเปญอัตโนมัตินี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
  3. การติดตามและปรับปรุงแคมเปญ: แม้แคมเปญจะถูกตั้งค่าให้ทำงานอัตโนมัติ แต่การติดตามผลลัพธ์และปรับปรุงแคมเปญตามข้อมูลที่ได้รับจาก CRM ยังเป็นสิ่งสำคัญ ข้อมูลจากแคมเปญก่อนหน้า เช่น การตอบรับจากลูกค้า หรือการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรม จะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงแคมเปญให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในการรักษาลูกค้า
    SEM-CRM BIG BANNER

การใช้ Predictive Loyalty Modeling

หลายธุรกิจได้นำ Predictive Loyalty Modeling มาใช้เพื่อรักษาลูกค้าและป้องกันการสูญเสียลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงพลังของการใช้ CRM ในการทำนายและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ยกตัวอย่าง

  1. บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ใช้ Predictive Analytics ใน CRM เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้บริการของลูกค้า ทำให้สามารถระบุได้ว่าลูกค้ารายใดมีแนวโน้มที่จะยกเลิกบริการ ระบบจะส่งข้อเสนอพิเศษไปยังลูกค้าเหล่านี้ เช่น ส่วนลดค่าบริการหรือการอัปเกรดแพ็คเกจ ซึ่งช่วยรักษาลูกค้าไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. บริการสตรีมมิ่งที่มีผู้ใช้งานหลายล้านคนใช้ Predictive Loyalty Modeling เพื่อระบุผู้ใช้งานที่มีแนวโน้มจะยกเลิกการสมัครสมาชิก ข้อเสนอส่วนลด หรือการทดลองใช้งานฟรีเพิ่มเติมจะถูกส่งให้ผู้ใช้งานเหล่านี้แบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดอัตราการยกเลิกการสมัครสมาชิกได้อย่างมาก
    Loyalty Hub

Predictive Loyalty Modeling ใน CRM เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการป้องกันการสูญเสียลูกค้าและรักษาความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า การใช้ Predictive Analytics ช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุลูกค้าที่มีความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำ และออกแบบแคมเปญรักษาลูกค้าแบบอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพ การนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถสร้างความภักดีที่ยั่งยืนและป้องกันการสูญเสียลูกค้าในระยะยาว

 

อ่านบทความเพิ่มเติม : 

สร้างความภักดีที่ยั่งยืน : การออกแบบ Loyalty Program ด้วย CRM

Evaluated CTA

Ourgreenfish LINE Connect

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับ
Digital Marketing และเทคโนโลยีได้ที่ Ourgreenfish Connect

 

Recent Posts

OGF Podcast