ตราบใดที่ยังมีข้อสงสัย หรือมีปัญหาอยากได้ข้อมูลอะไรบางอย่าง ก็คงจะหนีไม่พ้น Google ที่ใช้ในการค้นหาข้อมูล จังหวะนี่แหละเขาจะเห็นเรา และนี่คือ 7 เหตุผลว่าทำไมถึงต้องทำ การตลาดแบบดึงดูด Inbound Marketing
การทำคอนเทนท์หรือข้อความเพื่อโฆษณาเป็นเรื่องง่าย แต่การจะทำให้โฆษณาเป็นที่ดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายเป็นเรื่องยาก ถ้าหากคุณมีคอนเทนท์ที่มีความน่าสนใจไม่มากเพียงพอให้เป็นไวรอล หรือวลีที่ติดหู ผู้บริโภคก็จะมองข้ามและไม่สนใจ แถมยังทำให้ผู้บริโภครู้สึกเหมือนโดนยัดเยียดข้อมูลให้ในขณะที่กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ ผู้บริโภคต้องเผชิญกับการตลาดแบบผลักออกอย่างต่อเนื่องป เพราะมีหลายแบรนด์หลายธุรกิจที่ทำโฆษณา ทำให้เกิดความเฉยชาเวลาเจอโฆษณาก็มักจะมองข้ามกด Skip Ads หรือย้ายช่องหนี
Inbound Marketing คืออะไร แล้วมีความสำคัญอย่างไรในการทำธุรกิจ
Inbound Marketing แตกต่างอย่างไรกับ Outbound Marketing แล้วแบบไหนดีกว่ากัน?
การทำ Content ที่มีประโยชน์ลงในเว็บไซต์ของตัวเอง ไม่เพียงแต่ข้อมูลจะไม่หายไป มันจะถูกสะสมและเก็บไว้อยู่ในเว็บไซต์ของคุณไปเรื่อยๆ เหมือนคุณมีห้องสมุดที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำ ยิ่งคุณมีคอนเทนท์มากก็ยิ่งมีโอกาสมากที่คนจะค้นหาข้อมูลแล้วมาเจอคุณ และยิ่งถ้าหากคอนเทนท์นั้นสามารถตอบโจทย์ของปัญหาที่คนสงสัยได้ ก็จะทำให้คุณดูมีความน่าเชื่อถือ และดูมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสิ่งที่ทำ แล้วถ้าหากคอนเทนท์ของคุณเป็นคอนเทนท์ที่ให้ประโยชน์จนมีคนสนใจและติดตาม คุณก็จะได้จำนวน Traffic ที่เข้ามายังเว็บไซต์มากขึ้น ส่งผลทำให้คอนเทนท์นั้นมีอัตราในการขึ้นไปโชว์ในหน้าแรกของ Google อีกด้วย (ทำไมถึงต้องติดหน้าแรก เพราะคนส่วนใหญ่มักจะเข้าดูข้อมูลที่ได้จากการค้นหาในอันดับต้นๆ ของหน้าแรกมากกว่าหน้าอื่นๆ)
Outbound Marketing และ Inbound Marketing คืออะไร ต่างกันตรงไหน?
ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมาใช้อินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น การเข้าถึงข้อมูลจึงเป็นเรื่องง่าย คุณต้องการอะไร อยากรู้อะไร หรือจะทำอะไร เพียงแค่คลิกเข้าอินเทอร์เน็ต ถ้าอยากรู้ข้อมูลก็แค่เข้า Google แล้วค้นหา Search Engine นอกจากนั้น
ถ้าอยากรับรู้ข้อมูลข่าวสารก็สามารถเข้า Social Media ต่างๆ ได้ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter หรือ Line ถึงแม้ข้อมูลเหล่านั้น จะไม่ใช่ข้อมูลที่เราต้องการก็ตาม มันก็ถือว่าเป็นอีกช่องทางที่สำคัญ เพราะมีคนใช้บริการเป็นจำนวนมาก เปรียบเสมือนเครื่องช่วยกระจายเสียง ในทางกลับกันในเมื่อเราสามารถรับข่าวสารได้ เราเองก็สามารถใช้ Social เพื่อเป็นส่วนช่วยในการให้ข้อมูลข่าวสารได้เหมือนกัน
“ต่อให้ทำคอนเทนท์ออกมาดีมากแค่ไหน ถ้าไม่มีคนเห็นก็ไม่มีค่าอะไร”
หากลูกค้าเห็นว่าคุณกำลังทำคอนเทนท์ที่มีประโยชน์และดูเป็นมืออาชีพ สามารถให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งทำอยู่ พวกเขาจะมีความเคารพและความน่าเชื่อถือมากในตัวคุณมากขึ้น เพราะเขาเข้ามาหาข้อมูลจากเราด้วยความยินยอม โดยที่เราไม่ได้ไปยัดเยียดข้อมูลให้เขาแบบการตลาดผลักออก Outbound Marketing
หัวใจที่สำคัญของการทำ Inbound Marketing มีอะไรบ้าง ที่คุณควรรู้
ทำไมถึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะการทำการตลาดแบบ Inbound จะไม่จำกัดช่วงโมงการเข้า เมื่อคุณมีข้อสงสัยก็สามารถค้นหาข้อมูลได้ตลอดเวลา ไม่เหมือนกันกับการทำการตลาดแบบ Outbound ที่จะต้องโฆษณาในช่วงที่มีคนดูเป็นจำนวนมาก เพื่อให้คนเห็นเป็นจำนวนมาก และแน่นอนว่าการจะได้โฆษณาในช่วงเวลานาทีทอง คุณก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงเพราะมีคู่แข่งทางการตลาดมาก
คุณไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหลายๆ ชั่วโมงเพื่อที่จะสร้างอีเมลเพื่อส่งไปยังผู้คนหลายร้อยคน เพื่อแนะนำให้เขาสนใจในสิ่งที่คุณทำอยู่ หรือแม้แต่การตระเวนออกไปหาลูกค้า โดยที่ไม่รู้ว่าเขาจะต้องการหรือเปล่า ในทางกลับการเราทำคอนเทนท์ที่มีประโยชน์เกี่ยวกับสิ่งที่เราทำอยู่ให้เห็นถึงความรู้ ความเชี่ยวชาญดูเป็นมืออาชีพ โดยจะเน้นไปที่ “ปัญหา” ความหมายก็คือเมื่อใดก็ตามที่ใครสงสัยหรือมีปัญหา เขาก็จะมาเจอเราเพราะเรามีข้อมูลรองรับในสิ่งนั้นอยู่
เพราะการทำ Inbound คือการทำคอนเทนท์ที่เป็นประโยชน์ เพื่อดึงดูดให้คนเข้ามา แล้วไม่ได้ปล่อยให้คนที่เข้ามายังเว็บไซต์นั้นเข้ามาแล้วผ่านไป โดยพยายามที่จะ Convert คนที่เข้ามายังเว็บไซต์ด้วยการขอข้อมูลจากเขา เช่น ชื่อ อีเมล และเบอร์โทร โดยแลกกับ Offer อะไรบางอย่างจากเรา เช่น กรอกเพื่อดาวน์โหลด eBook, Checklist, Template หรืออะไรก็ตามแต่ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
ประโยชน์ของการทำ Inbound Marketing และธุรกิจแบบไหนที่ควรทำ
ประโยชน์ Inbound Marketing มีอะไรบ้าง จะเริ่ม Inbound Marketing ได้อย่างไร
ZMOT : Zero Moment of Truth คืออะไร เกี่ยวข้องกับ Inbound Marketing แค่ไหน
5 หัวใจหลักของ เครื่องมือ Inbound Marketing ประกอบด้วยอะไรบ้าง
สามารถติดตามข่าวสารจาก Ourgreenfish ได้ที่ Facebook และ Twitter